หลังจากที่ ทีมชาติไทย สามารถผ่านด่านแรกในรอบแบ่งกลุ่มมาได้ จากการร่วมกลุ่มเอกับ ทีมชาติออสเตรเลีย, ทีมชาติบาห์เรน และ ทีมชาติอิรัก ด้วยการเป็นรองแชมป์กลุ่ม มี 4 คะแนน เข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายเป็นทีมเรียบร้อย
โดยสำหรับ รอบก่อนรองชนะเลิศ หรือรอบ 8 ทีมสุดท้าย ได้จากอันดับ 1 และ 2 ของแต่ละกลุ่มและทำการไขว้กัน ซึ่งทางด้าน ทัพช้างศึก ของไทย นั้นจะเข้าไปพบกับ ซาอุดิอาระเบีย แชมป์กลุ่มบี ที่อยู่ร่วมกับทั้ง ซีเรีย, กาตาร์ และ ญี่ปุ่น
หากยังจำกันได้ ก่อนหน้านี้ อากิระ นิชิโนะ เฮดโค้ชคนเก่งชาวญี่ปุ่น เคยนำทัพ ทีมชาติไทย ลงอุ่นเครื่องแบบปิด กับทางด้าน สิงห์ทะเลทราย มาแล้วและผลการแข่งขันนำจบลงด้วยการที่ ซาอุฯ เอาชนะไปได้ 1-0
https://www.facebook.com/ekkonothailand/photos/a.461077914532278/507370939902975/?type=3
และนอกจากการวางแผนอันยอดเยี่ยมของ นิชิโนะ แล้ว ยังต้องกล่าวชื่มชนทางด้าน เอคโคโน่ ที่ได้ทำการเตรียมข้อมูลการลงเล่นตลอด 3 เกมของแบ่งกลุ่มของ ทีมชาติซาอุดิอาระเบีย อย่างละเอียด เพื่อให้ ทีมชาติไทย ได้นำไปใช้และเตรียมตัวกับศึกในวันเสาร์นี้
โดยข้อมูลที่ทางด้าน เอคโคโน่ ได้เตรียมไว้นั้น จะเป็นแผนตัวผู้เล่นทั้ง 11 ตัวจริง และหลังจากจบเกม ตลอดทั้ง 3 นัดกับ ญี่ปุ่น, กาตาร์ และ ซีเรีย ในรอบแบ่งกลุ่มของกลุ่มบี
รวมไปขึ้นข้อมูลการเล่นเกมรุกของ ซาอุดิฯ ว่าเล่นในลักษณะใด ใช้แผนแบบใด และนักเตะที่เป็นหัวใจหลักของทีม มีใครบ้างหมายเลขอะไร เล่นในตำแหน่งใน ไว้แบบละเอียดยิบ เราลองไปดูกันแบบเต็ม ๆ เลยดีกว่าว่าข้อมูลที่ เอคโคโน่ ไปทำการบ้านเอาไว้ให้นั้น จะเจ๋งแค่ไหน (นี่เป็นแค่ข้อมูลส่วนหนึ่งเท่านั้น)
แผนการเล่น 11 ตัวจริง-จบเกม กับ ญี่ปุ่น
แผนการเล่น 11 ตัวจริง-จบเกม กับ กาตาร์
แผนการเล่น 11 ตัวจริง-จบเกม กับ ซีเรีย
เกมรุกของ ซาอุดิอาระเบีย
นักเตะหัวใจหลักของ ซาอุดิอาระเบีย
โดย ฟุตบอลชายทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ยังคงมีภารกิจสำคัญในการคว้าตั๋วไปโอลิมปิก ที่ประเทศญี่ปุ่น ถ้าหากรอบ 8 ทีมสุดท้าย ที่จะต้องพบกับ ทีมชาติซาอุดิอาระเบีย ในวันที่ 18 มกราคม 2563 เวลา 17.15 น. ณ สนามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถ่ายทอดสดทางช่อง 7 สี
ที่มา: Ekkono Thailand
