Tesla Model 3 เป็นรถยนต์ไปฟ้าที่ไม่ได้มาพร้อมกับกุญแจแบบรถอื่นๆทั่วไป แต่มันเป็นรถที่สามารถปลดล็อคและสตาร์ทเครื่องได้ด้วยสมารถโฟน และยังมีคีย์ฟอบในกรณีที่มือถือแบตหมด หรือคีย์การ์ดในกรณที่ไม่มีทั้งสอง โดยมีชิพเซ็นเซอร์อยู่ด้านใน และถ้าเกิดคุณทำทั้งหมดหายพร้อมกันล่ะ จะทำอย่างไร?
ถ้าคุณเคยดูภาพยนต์ Iron Man ภาคสาม ที่มีการฝังชิพเซ็นเซอร์สำหรับชุดเกราะ นั่นแหละฮะ หญิงสาวเจ้าของ Tesla Model 3 เกิดปิ๊งไอเดียสุดเจ๋งที่จะทำให้คุณไม่ต้องกังวลเรื่องความขี้หลงขี้ลืม และตัดปัญหาการทำกุญแจกายได้เลย ด้วยการฝังชิพเซ็นเซอร์เข้าไปในแขนของเธอ โดยเจ้าตัวได้มีการอธิบายว่า ก่อนหน้านี้เธอเคยฝังเซ็นเซอร์แบบนี้มาการในการใช้ล็อคประตูบ้านของเธอ
เมื่อเธอได้รถ Tesla Model 3 มาครอบครองแล้วรู้ว่า รถของเธอนั้นใช้ระบบเซ็นเซอร์คล้ายกันในการปลดล้อค เธอจึงพยายามถ่ายโอนข้อมูลจากชิพที่อยู่ในคีย์การ์ดสำหรับรถ Tesla ของเธอลงในซิพอีกตัวที่ฝังอยู่ในแขนของเธออยู่แล้ว แต่ทว่ามันไม่ประสบผลสำเร็จสักเท่าไหร่ เนื่องจากระบบความปลอดภัยของ Tesla ที่ค่อนข้างแน่นหนา เธอจึงตัดสินใจฝังชิพใหม่เข้าไปในแขนของเธอ
ขั้นตอนการฝังชิพใหม่นี้ เธอต้องแยะตัวชิพที่ฝังอยู่ในคีย์การ์ดออกมาเสียก่อน ด้วยสารทำละลาย acetone ที่ไม่ทำความเสียหายต่อชิพขณะทำการละลาย เมื่อได้ชิพออกมาแล้ว ก็นำไปเคลือบด้วย biopolymer หลังจากนั้นมันก็พร้อมที่จะถูกฝั่งเข้าไปในร่างกายของเธอ. หลังจากนั้นเธอก็ได้ให้ผู้ที่มีความชำนาญในเรื่องของการเจาะร่างกายเป็นคนฝังชิพดังกล่าวให้ โดยเป็นลักษณะการแทงเข้าไปใต้ผิวหนังที่ไม่ลึงมาก และไม่เกิดเป็นแผลขนาดใหญ่ โดยใช้เวลาไม่นาน ก็ฝังสำเร็จ
เธอไม่ได้โชว์การใช้งานหลังฝังเสร็จแต่อย่างได้ แต่เธอบอกกับทางเว็ปไซต์ The Verge ว่ามันใช้ได้ผล แต่ตอนนี้ด้วยผลจากการเจาะ มันทำให้แบจของเธอบาว จึงทำให้เซ็นเซอร์นั้นทำงานได้ไม่ค่อยแม่นยำเท่าไหร่ แต่หากการบวมยุบลง ก็จะทำงานเป็นปกติ.
นี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นเล็กๆสำหรับไอเดียในเรื่องของการฝังชิพนร่างกายมนุษย์ในอนาคต ที่อาจจะมีประโยชน์ในหลายๆด้าน มันอาจให้แทนบัตรประชาชน, ใบขับขี่, บัตรเครดิตหรือแม้กระทั่งการติดตามคนหาย และอื่นๆอีกมากมาย แต่อย่างไรก็ตาม เธอคนนั้นคงจะให้เพื่อนยืมรถไม่ได้แล้วมั้ง
ที่มา : TheVerge
