อยู่อย่างหวาดระแวง ยายวัย 73 วอนเร่งตามจับคนที่ทำร้ายร่างกาย หลังเจ้าหน้าที่ยังจับตัวไม่ได้
อยู่อย่างหวาดระแวงยายวัย 73 ปี หลังถูกพ่อค้าต่างถิ่น ที่มาส่งสินค้า บริเวณถนนระนอง จ.ภูเก็ต ชกต่อยได้รับบาดเจ็บ วอนตำรวจเร่งติดตามตัวดำเนินคดี หวั่นถูกทำร้ายซ้ำ เพราะยังต้องไปทำมาหากินเลี้ยงครอบครัว
วันนี้ ( 22 พ.ค.) แฟนเพจ เหยี่ยวข่าว ได้โพสต์ข้อความ พร้อมภาพ หญิงชราถูกทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้า โดยข้อความระบุ ว่า ได้รับการประสานจากญาติผู้ถูกทำร้ายร่างกาย ระบุ ว่า “รบกวนหน่อยครับ แม่ผมโดนต่อยและทำร้ายร่างกาย ตอนเช้ามืด ที่ตลาดบ้านซ้าน ในเมืองภูเก็ต คนต่อยเป็นคนขายของ ผู้ชายขับรถกระบะตามในภาพ ยังตามจับตัวคนทำร้ายไม่ได้เลย
แม่ผมเป็นคนแก่ สูงอายุ ตัวเล็กๆ เค้าเป็นผู้ชาย มาทำร้ายร่างกายแบบนี้ ผมว่ามันไม่ถูกต้อง ทำไมไม่คุยกันดีๆ แล้วยังมาบอกว่า “เดี๋ยวไปจ่ายตังค์ค่าปรับที่โรงพักก็ได้” คุณคิดว่าต่อยคนแก่แล้ว หรือต่อยใครก็ได้ แล้วจ่ายตังค์ค่าปรับก็จบใช่รึเปล่า ฝากพี่ช่วยกันตามหาด้วยครับ ตอนนี้แม่ผมกลัวมาก กลัวว่าเค้าจะกลับมาทำร้ายอีก และแม่ผมกับคนทำร้ายไม่ได้รู้จักกันเลย วอนเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเหลือด้วยครับ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมาครับ
อย่างไรก็ตามหลังจากที่มีการแชร์ข้อความดังกล่าวออกไป ทางผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังหานชายของผู้เสียหาย ซึ่งของสงวนชื่อ และนามสกุล กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 พ.ค. เวลา 03.30 น. ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้เสียหายออกไปซื้อของเพื่อนำมาขายที่ร้านซึ่งอยู่ในตลาดบ้านซ้าน โดยไปซื้อของจากรถขนของที่นำสินค้ามาจอดขาย แต่ระหว่างเดินซื้อของก็ได้ยินเสียงเด็กร้อง ซึ่งเด็กอายุประมาณ 1 ขวบ โดยพ่อของเด็กกำลังเอาของลงจากรถ เดินมากระชากเด็กที่ร้องไปอุ้ม
ผู้เสียหายจึงเดินเข้าไปหาและพูดกับเด็กว่า “อย่าร้องเดี๋ยวจะถูกตี” ซึ่งคำพูดดังกล่าวได้สร้างความไม่พอใจให้กับพ่อของเด็ก และตะโกนใส่ว่า “อย่ายุ่ง” หลังจากนั้นได้ใช้กำปั้นชกเข้าที่หน้าทันที จนเป็นเหตุให้ยายวัย 73 ปี ได้รับบาดเจ็บมีที่บริเวณใบหน้า หลังเกิดเหตุ ทางผู้เสียหายได้เดินทางไปแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต
แต่อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้ ซึ่งผู้เสียหายและญาติอยากจะเรียกร้องให้ทางเจ้าหน้าที่เร่งติดตามจับกุมคนที่ก่อเหตุโดยเร็ว เนื่องจากขณะนี้ผู้เสียหายอยู่อย่างหวาดระแวง กลัวว่าคนที่ก่อเหตุจะกลับมาทำร้ายอีก เนื่องจากทุกวันนี้ผู้เสียหายยังต้องออกไปซื้อของและขายของทุกวัน แต่การออกไปทำงานก็อยู่อย่างหวาดผวา และหวาดกลัวตลอดเวลา กลัวว่าจะถูกทำร้ายซ้ำ