เปิดสาเหตุลดโทษ “ใบปอ ทะลุวัง” คดี ม.112-พ.ร.บ.คอมพ์ เหลือ 2 ปี

ศาลพิพากษาจำคุก 3 ปี ใบปอ ทะลุวัง คดี ม.112-พ.ร.บ.คอมพ์ แต่เห็นจำเลยอายุน้อยและทำประโยชน์ให้สังคมลดโทษเหลือ 2 ปี
ศาลอาญา นัดพิจารณาคดี ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ฟ้อง น.ส.ณัฐนิช ดวงมุสิทธิ์ หรือ ใบปอ, น.ส.สุพิชฌาย์ ชัยลอม หรือ เมนู ที่หลบหลบหนีไปแล้ว และน.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง ที่เสียชีวิต แกนนำกลุ่มทะลุวัง เป็นจำเลยที่ 1-3 ตามลำดับในความผิดฐานดูหมิ่นสถาบันตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ
คดีดังกล่าวสืบเนื่องจากที่จำเลยร่วมกันทำโพล สอบถามความคิดเห็นประชาชนว่า “เห็นด้วยหรือไม่ที่รัฐบาลให้กษัตริย์ใช้อำนาจตามพระราชอัธยาศัย” ที่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าหมอชิตจนถึงสนามเป้า ถนนพหลโยธิน กทม. จำเลยให้การปฏิเสธและได้รับการประกันตัว โดยในวันนี้ น.ส.ณัฐนิช เดินทางเข้ามาฟังคำพิพากษาและมีกลุ่มผู้สนับสนุนเดินทางมาให้กำลังใจ
ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานของทั้ง 2 ฝ่ายที่นำสืบหักล้างแล้ว ฝ่ายพยานโจทก์มีเจ้าพนักงานตำรวจสืบสวน จากหลายพื้นที่ในความรับผิดชอบ 7 ปาก เบิกความสอดคล้องต้องกันว่า แม้ว่าจะไม่ทราบว่า ใครเป็นผู้โพสต์ข้อความเชิญชวนในเพจทะลุวัง ให้ประชาชนออกมาร่วมชุมนุมและแสดงความคิดเห็นตามสถานีรถไฟฟ้าเกี่ยวกับอำนาจของสถาบัน
ส่วนที่จำเลยให้การปฏิเสธว่า ไม่ใช่ผู้ดูแลเพจดังกล่าวและโพสต์ข้อความ แต่ยอมรับว่า เป็นบุคคลเดียวกันกับพวกที่เดินทางไปทำกิจกรรมและสอบถามความคิดเห็นของประชาชนกับกลุ่มทะลุวัง โดยมีสติ๊กเกอร์แจกให้กับประชาชนที่มาร่วมกิจกรรมนำไปติดใต้ข้อความเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย เกี่ยวกับการใช้อำนาจของสถาบัน
“การกระทำของจำเลยมีเจตนาเพื่อเข้าไปมีส่วนร่วมกับกิจกรรมซึ่งย่อมเล็งเห็นผลกับพวกที่เข้าร่วมกิจกรรมตั้งข้อสงสัยกับการใช้อำนาจ”
พยานหลักฐานโจทก์มีน้ำหนักน่าเชื่อถือรับฟังได้ว่า จำเลยที่ 1 กระทำผิดตามฟ้องจริง ส่วนคำเบิกความของจำเลยไม่มีน้ำหนักให้รับฟังได้ เห็นว่า จำเลยที่ 1 กระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ประกอบมาตรา 83 ฐานดูหมิ่นสถาบัน พิพากษาจำคุกจำเลย 3 ปี แต่อย่างไรก็ตามขณะเกิดเหตุ จำเลยมีอายุน้อย เป็นนักศึกษา และทำประโยชน์ช่วยเหลือสังคมโดยการสอนหนังสือให้ผู้พิการทางสายตา จิตอาสาสภากาชาดไทยและบริจาคดวงตาให้กับประชาชน เห็นสมควรลดโทษ 1 ให้ใน 3 คงจำคุกจำเลย 2 ปี ไม่รอลงอาญา
ภายหลังจากศาลพิพากษา นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน และทนายความของจำเลย ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ 100,000 บาท เพื่ออปล่อยชั่วคราวในระหว่างอุทธรณ์คดี ขณะนี้อยู่ระหว่างรอการพิจารณาคำร้องขอประกันตัวต่อไป
ติดตาม The Thaiger บน Google News:





