โหนกระแสต้องเข้า ถกวุ่น “มีดพับยึดจากสนามบิน โผล่ขายออนไลน์จี้สุวรรณภูมิตอบ

เรื่องมีดพับที่ถูกยึดจากสนามบิน กลับมาโผล่ขายในกลุ่มออนไลน์ ป.ป.ท. เรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่แจ้งว่าให้รอความคืบหน้าภายใน 1–2 สัปดาห์ หากเรื่องเงียบ ให้โทรติดตามได้
กำลังเป็นประเด็นดราม่าเปิดข้อถกเถียงกันวุ่น ! กับกรณีเมื่อ 21 ต.ค.68 ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งเขียนเล่าความไม่ชอบมาพากลซึ่งเป็นประเด็นสืบเนื่องจากมีดเล่มเล็กๆ ซึ่งเดิมทีถูกตรวจสอบแล้วต่อมาเจ้าหน้าที่ของ “ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ” ต.หนองปรือ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ได้ทำการยึดไว้ห้ามให้ผู้โดยสารเจ้าของเรื่องนำขึ้นเครื่องลัดฟ้าไปด้วย
อย่างไรก็ตามต่อมาเกิดข้อสงสัยเนื่องจากเจ้าของโพสต์ดันไปเจอว่า มีดพับของเธอเองถูกนำไปปล่อยในแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าออนไลน์จนเกิดคำถามว่า มันเกิดขึ้นได้อย่างไร ? โดยเนื้อหาบอกเล่าอย่างละเอียดนั้นระบุโดยเริ่มจากเหตุเกิดเมื่อคืนนี้ (20 ต.ค.) “เราเจอโพสต์ในกลุ่ม Leatherman Thailand Club (เลเทอร์แมน ไทยแลนด์ คลับ) มีคนเอามีดพับของเรามาขายซึ่งเป็นมีดที่ถูกยึดที่สนามบินสุวรรณภูมิเมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา โพสต์นั้นปิดการขายไปแล้วเพราะมีคนซื้อไปแล้ว แต่เจ้าของโพสต์ทักไปแจ้งทันที “มีดนั้นเป็นของเธอ” พร้อมกัยขณะเดียวกันขอให้ผู้ขายติดต่อกลับ เพราะอยากทราบของชิ้นนี้หลุดออกมาจากสนามบินได้อย่างไร”
ผู้ขายตอบว่า “ให้โอนเงินมาก่อน ถึงจะส่งของให้” และหลีกเลี่ยงที่จะอธิบายถึงที่มาของมีด จนเราต้องบอกไปว่า มีดชิ้นนี้ถือเป็นของกลางที่ออกมาผิดกฎหมาย และน่าจะเกี่ยวข้องกับการทุจริตภายในระบบของ AOT (การท่าอากาศยานไทย)
หลังจากนั้น ผู้ขายได้ลบโพสต์และลบข้อความแชททั้งหมดออก คาดว่าน่าจะรู้ตัวว่ามีปัญหาแน่ แต่ต่อมาก็กลับมาคุยอีกครั้ง บอกว่า “ตกใจเลยลบทุกอย่าง” — ซึ่งก็ไม่ได้ทำให้เรื่องนี้ดูดีขึ้นเลย
ตอนนี้เราไม่ได้ต้องการมีดคืนแล้ว แต่อยากได้ ความจริง ว่า “ของกลางจากสนามบินออกมาขายนอกได้อย่างไร” และอยากรู้ว่าเป็นเพราะ การทุจริตหรือการประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่

“เราได้โทรแจ้งไปยัง AOT แล้ว ทางนั้นแนะนำให้ติดต่อสายด่วนสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) วันนี้เราได้แจ้งเรื่องกับทาง ป.ป.ท. เรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่แจ้งว่าให้รอความคืบหน้าภายใน 1–2 สัปดาห์ หากเรื่องเงียบ ให้โทรติดตามได้”
“เราอยากให้เรื่องนี้ดำเนินไปจนถึงที่สุด เพราะเชื่อว่าเราไม่ใช่คนเดียวที่เคยถูกยึดของมีมูลค่าที่สนามบิน — ไม่ว่าจะเป็นมีดพับ ของสะสม หรือแม้แต่น้ำหอมราคาแพง ของเหล่านั้น ไม่ควรถูกนำออกมาขายต่อ หรือ “หลุด” ออกไปอยู่ในตลาดมือสองได้แบบนี้”
หากใครสนใจ หรือต้องการช่วยให้เรื่องนี้เดินหน้าเร็วขึ้น สามารถทักมาได้เลยนะคะ เรามีหลักฐานแชทและภาพจากโพสต์ พร้อมให้ยืนยันได้ทั้งหมด
ท้ายโพสต์เจ้าของเรื่องยังระบุผ่านตัวอักษรสั้นๆ ด้วยตัวเองว่า เธอขอ “ฝากแชร์ โพสต์นี้หรือให้คำแนะนำ” ทิ้งไว้ด้วย.

ผู้โดยสารต้องรู้! ของต้องห้ามที่ห้ามนำขึ้นเครื่องบิน นอกเหนือจากสิ่งผิดกฎหมายแล้วยังมีสิ่งของทั่วไปที่เราอาจไม่รู้มาก่อนว่าห้ามนำขึ้นเครื่องเด็ดขาด หรือห้ามเกินกว่าที่กฎกำหนดไว้
สายการบินและหน่วยงานด้านการบินทั่วโลก กำหนดกฎระเบียบเกี่ยวกับสิ่งของที่ห้ามนำขึ้นเครื่องบิน ไม่ว่าจะเป็นสัมภาระติดตัว (Carry-on) หรือสัมภาระโหลดใต้เครื่อง (Checked baggage)
หากผู้โดยสารไม่ปฏิบัติตามหรือเอาติดตัวไป ทั้งตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม อาจถูกปฏิเสธไม่ให้ขึ้นเครื่องหรือถูกตรวจยึดสิ่งของต้องห้าม ดังนั้น มาดูกันว่ามีอะไรบ้างที่เราควรหลีกเลี่ยงการพกติดตัวเมื่อเดินทางโดยเครื่องบิน
1.ของมีคมและอาวุธทุกชนิด เป็นสิ่งต้องห้ามบนเครื่องบิน โดยเฉพาะในกระเป๋าถือขึ้นเครื่อง ได้แก่
- มีดทุกประเภท (รวมถึงมีดพับและมีดปอกผลไม้)
- กรรไกรที่มีใบมีดยาวเกิน 6 ซม.
- ไขควง คีม ประแจ หรือเครื่องมือช่าง
- สนับมือ กระบอง หรืออุปกรณ์ป้องกันตัวที่ใช้เป็นอาวุธได้
ข้อยกเว้นของบางสายการบินอาจอนุญาตสำหรับกรรไกรตัดเล็บและที่โกนหนวดแบบใช้ใบมีดเปลี่ยนได้ สามารถพกขึ้นเครื่องได้หากเป็นขนาดเล็ก อุปกรณ์เหล่านี้สามารถโหลดใต้เครื่องได้ตามข้อกำหนดของแต่ละสายการบิน
2.ของเหลวเจลและสเปรย์ เนื่องจากมาตรการด้านความปลอดภัย ของเหลวทุกชนิดที่นำขึ้นเครื่องต้องอยู่ในขนาดที่กำหนด ได้แก่ ของเหลว เจล และสเปรย์ ต้องบรรจุในขวดขนาดไม่เกิน 100 มิลลิลิตร ต้องใส่รวมกันในถุงพลาสติกใสขนาดไม่เกิน 1 ลิตร แต่ละคนสามารถนำขึ้นเครื่องได้ 1 ถุงเท่านั้น
ตัวอย่างของที่จัดเป็นของเหลวและต้องปฏิบัติตามกฎนี้ เช่น น้ำหอม แชมพู ครีมบำรุงผิว เจลแต่งผม โฟมล้างหน้า น้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ เครื่องดื่มทุกชนิด (เช่น น้ำเปล่า กาแฟ น้ำผลไม้) ที่เกิน 100 มิลลิลิตร
ยกเว้นของเหลวที่ซื้อจากร้านค้าปลอดภาษี (Duty-Free) ภายในสนามบิน สามารถนำขึ้นเครื่องได้ แต่ต้องอยู่ในถุงที่ปิดผนึกพร้อมใบเสร็จรับเงิน รวมถึงยารักษาโรคและอาหารสำหรับทารกสามารถพกขึ้นเครื่องได้ แต่ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่
3. วัตถุไวไฟและสารเคมีอันตราย สิ่งของที่อาจทำให้เกิดไฟไหม้หรือเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของเที่ยวบิน ไม่สามารถนำขึ้นเครื่องได้ เช่น
- ไฟแช็กที่มีเชื้อเพลิงเหลว (เช่น Zippo ที่เติมน้ำมันไว้แล้ว)
- กระป๋องสเปรย์ที่มีแรงดันสูง เช่น สเปรย์พริกไทย สีสเปรย์
- วัตถุระเบิด ดอกไม้ไฟ พลุ หรือถังแก๊สแบบพกพา
- กาว สารกัดกร่อน หรือสารเคมีที่อาจเป็นอันตราย
4. อาหารบางประเภท แม้ว่าผู้โดยสารจะสามารถนำอาหารบางชนิดขึ้นเครื่องได้ แต่บางประเทศมีกฎระเบียบที่เข้มงวดเกี่ยวกับการนำอาหารเข้าประเทศ เช่น
- ผลไม้สด ผักสด และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ อาจถูกห้ามนำเข้าหรือมีข้อจำกัด
- อาหารกลิ่นแรง เช่น ทุเรียน หรือปลาแห้ง อาจถูกร้องเรียนจากผู้โดยสารคนอื่น
- ของเหลวที่เป็นอาหาร เช่น ซุป น้ำพริก อาจต้องปฏิบัติตามกฎของเหลวขนาดไม่เกิน 100 มิลลิลิตร
- ข้อควรระวัง ก่อนเดินทางไปต่างประเทศ ควรตรวจสอบข้อบังคับของประเทศปลายทางเกี่ยวกับอาหารที่สามารถนำเข้าได้
5. อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และแบตเตอรี่สำรอง อุปกรณ์เหล่านี้ที่เกินข้อจำกัด หากต้องการนำไปด้วยต้องปฏิบัติตาม ดังนี้
- Power Bank ต้องมีความจุไม่เกิน 20000 – 32000 mAh สามารถนำขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 2 ก้อน ส่วน power bank ความจุไฟฟ้าต่ำกว่า 20000 mAh สามารถนำขึ้นเครื่องได้ไม่จำกัดจำนวน
- แล็ปท็อป กล้องถ่ายรูป และอุปกรณ์ที่ใช้แบตเตอรี่ ต้องนำออกมาตรวจแยกในด่านตรวจสอบสัมภาระ
- ข้อห้าม แบตเตอรี่ลิเธียมที่มีความจุเกิน 100Wh อาจต้องได้รับอนุญาตเป็นพิเศษจากสายการบิน รวมถึงอุปกรณ์ที่เสียหายหรือมีรอยร้าว อาจถูกห้ามนำขึ้นเครื่อง
ข้อควรทำก่อนเดินทาง
- ตรวจสอบกฎระเบียบของสายการบิน เพราะแต่ละสายการบินอาจมีข้อกำหนดเฉพาะเกี่ยวกับสิ่งของที่สามารถนำขึ้นเครื่องได้
- จัดกระเป๋าให้ถูกต้อง แยกของเหลวและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ให้หยิบออกมาได้ง่ายเมื่อต้องผ่านด่านตรวจ
- เช็คข้อจำกัดของประเทศปลายทาง หากเดินทางไปต่างประเทศ ควรศึกษากฎเกี่ยวกับอาหารและสิ่งของที่สามารถนำเข้าได้


อ่านข่าวเพิ่มเติมดราม่าประเด็นเด็ดร้อนๆ เสิร์ฟส่งตรงวันนี้ 22 ตุลาคม 2568
- ดราม่า แอร์ แคมโบเดีย สายการบินใหม่กัมพูชา หน้าตาคล้ายการบินไทย เป๊ะ
- สรุป มีมี่ ลี ถามสายการบินปมน้องหมาตายตอนขนส่ง
- เดือด น้ำเพชรด่าสายการบิน กาตาร์ เข้าใจผิด พาลถึงอู๋ Spin9 ซู่ชิงไม่ทนจี้ขอโทษ
ติดตาม The Thaiger บน Google News: