เศร้า พบซากเสือโคร่ง “สรณ์สืบ” ขาติดแร้วดักสัตว์นอนตายในป่าห้วยขาแข้ง

ภาพบาดตา พบซากเสือโคร่ง “สรณ์สืบ” เสือวัยรุ่น ขาติดแร้วดักสัตว์นอนตายในป่าห้วยขาแข้ง ทางกรมอุทยานเร่งล่าตัวผู้กระทำผิด
ดร.อัจฉรา ซิ้มเจริญ หัวหน้ากลุ่มนักวิจัย และผู้เชี่ยวชาญเรื่องเสือโคร่ง สถานีวิจัยสัตว์ป่าเขานางรำ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุืพืช เปิดเผยว่า พบซากเสือโคร่งเสียชีวิต โดยระบุว่า “ภาพที่เห็นมันบาดตาทุกคน เพราะเป็นซากของเจ้าสรณ์สืบ เสือวัยรุ่นที่เราติดตาม และเขียนเรื่องราวผ่าน ทางเว็บเพจให้แฟนคลับเสือในป่าห้วยขาแข้งให้รัลทราบตลอด ที่เราไม่คิดคือ สอนสืบตายเพราะติดบ่วงแร้ว ที่คาดว่า มีคนลักลอบเอาไปวางเพื่อดัก เก้ง กวาง วัวแดง เนื่องจากพื้นที่บริเวณนั้น ติดกับพื้นที่สวนป่าที่มีชาวบ้าน ทำมาหากินอยู่ เราสำรวจซากแล้ว สันนิษฐานว่า สอนสืบน่าจะตายหลายวันแล้ว เพราะก่อนหน้าที่สัญญาณจากคอลลา หายไป เพิ่งมาเจอวันนี้ ซากขาเพิ่มจะเน่าแล้ว”ดร.อัจฉรา กล่าว
หัวหน้ากลุ่มนักวิจัย และผู้เชี่ยวชาญเรื่องเสือโคร่ง สถานีวิจัยสัตว์ป่าเขานางรำ กล่าวว่า สรณ์สืบ เป็นเสือวัยรุ่น ที่กำลังคึกคะนอง เป็นความหวังในการกระจายพันธุ์ของเสือโคร่งในห้วยขาแข้ง เพราะผู้เป็นแม่ คือ อภิญญา เป็นแม่ที่เก่ง เลี้ยงดูมาอย่างดี ไม่มีใครคิดว่า สรณ์สืบ จะมาจบชีวิตแบบนี้ ยอมรับว่า ตอนนี้ ตัวเอง และนักวิจัยที่ติดตามชีวิตของสอนสืบต่างมีความเศร้าใจอย่างมาก
การพลาดท่าให้กับดักครั้งนี้ของสรณ์สืบนั้น อาจเป็นเพราะบังเอิญแวะหาแหล่งน้ำในขณะที่เดินสัญจรเพื่อหาหลักแหล่ง โดยที่เจตนาเดิมของกับดักนั้นอาจมุ่งหมายเพียงแค่สัตว์กีบที่มีรอยตีนปรากฏตลอดเส้นทางด่านก่อนแยกลงลำห้วยก็เป็นได้ แต่ความโชคร้ายได้กลายเป็นของสรณ์สืบ
“จุดจบของสรณ์สืบครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งบทที่พิสูจน์ได้ชัดเจนว่า การดำเนินชีวิตของเสือโคร่งวัยรุ่นเพศผู้เพื่อให้อยู่รอดจนถึงขั้นตั้งถิ่นฐานมีทายาทสืบสายพันธุ์นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะพฤติกรรมการเดินทางลัดเลาะทางไกลที่ต้องข้ามไปมาระหว่างแนวเขตซึ่งแบ่งโดยมนุษย์นั้น ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อชีวิต ด้วยว่าพื้นที่ป่าแต่ละประเภทนั้นมีการดูแล จัดการ ตามวัตถุประสงค์และการใช้ประโยชน์ที่แตกต่างกัน จุดสุดท้ายของชีวิตสรณ์สืบอยู่ห่างจากพื้นที่ปลูกสร้างสวนป่า มีสภาพเป็นสวนป่าผสมไร่ข้าวโพด ในระยะขจัด 40 เมตรเท่านั้น ซึ่งเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมคาดว่าจะมีบรรดาสัตว์ป่าน้อยใหญ่ออกมาหากินในไร่ข้าวโพดแห่งนี้ ทว่าจะเป็นปัญหา หรือ ไม่ใช่ปัญหา ก็คงแล้วแต่มุมมองและความคิดของผู้ที่มีโอกาสได้รู้เห็น”
ขณะที่ทาง นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้สั่งการให้หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ขยายแนวลาดตระเวนเชิงคุณภาพด้วยระบบ Smart Patrol ออกไปยังพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติและพื้นที่รอยต่อ (Buffer Zone) โดยเน้นการป้องปรามการลักลอบวางกับดักและล่าสัตว์ป่า รวมถึงสั่งให้มีการเคาะประตูบ้านเพื่อขอความร่วมมือจากชาวบ้านให้ช่วยกันเฝ้าระวังและห้ามวางกับดักสัตว์ป่า
นอกจากนี้กรมอุทยานฯจะได้เพิ่มมาตรการป้องกันให้ครอบคลุมพื้นที่ที่อยู่นอกเขตอนุรักษ์อย่างเป็นระบบ เพื่อคุ้มครองสัตว์ป่าหายากให้ปลอดภัยในถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติ พร้อมกันนี้ จะเร่งดำเนินการสืบสวนและดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดเพื่อนำตัวมาลงโทษตามกฎหมายให้ถึงที่สุด รวมถึงการสร้างความเข้าใจและขอความร่วมมือจากชุมชนในพื้นที่ใกล้เคียงให้ช่วยเป็นหูเป็นตา เพื่อไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ปิดตำนาน “ต้าร์สอง” เสือโคร่งวัย 17 ปี สิ้นใจอย่างสงบ หลังสู้มะเร็งร้าย
- “ซัน” เสือโคร่งขาวอายุ 16 ปี กลับดาวเสือ จากไปอย่างสงบขณะนอนหลับ
- เสือโคร่งพุเตย ตายแล้ว บาดเจ็บจากการติดบ่วงดักสัตว์ เปิดอาการก่อนตาย
ติดตาม The Thaiger บน Google News: