
กฎหมายล้มละลายใหม่ ผ่านสภาแล้ว เปิดทางคนเป็นหนี้-SMEs เจรจาเจ้าหนี้ก่อนถูกฟ้อง เพิ่มเพดานหนี้ฟื้นฟูเป็น 50 ล้านบาท ลูกหนี้บุคคลธรรมดา ผู้ประกอบการมีสิทธิขอพักชำระหนี้ 3 เดือน เพื่อปรับโครงสร้างหนี้พร้อมกันทุกรายโดยไม่ต้องรอให้เกิดคดีความ
วันที่ 17 กันยายน 2568 สภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบร่างแก้ไขพระราชบัญญัติล้มละลายฉบับใหม่ เพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤตหนี้สินของคนไทยให้ลูกหนี้ที่เป็นบุคคลธรรมดาและผู้ประกอบการ SMEs สามารถเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูได้ง่ายขึ้น
สาระสำคัญของกฎหมายใหม่ คือการเปิดโอกาสให้ลูกหนี้สามารถยื่นเรื่องขอเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับเจ้าหนี้ทุกรายได้พร้อมกัน โดยไม่ต้องรอให้ถูกฟ้องล้มละลายก่อนเหมือนในอดีต ซึ่งจะช่วยให้ลูกหนี้มีโอกาสฟื้นตัวทางการเงินได้เร็วขึ้น
สรุป 5 ข้อดีสำหรับลูกหนี้ ในกฎหมายล้มละลายใหม่
1. ขยายเพดานหนี้: ผู้ประกอบการ SMEs ที่จะเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการได้ ต้องมียอดหนี้รวมกันไม่เกิน 10 ล้านบาท กฎหมายใหม่ได้ขยายเพดานหนี้เพิ่มขึ้นเป็น 50 ล้านบาท ทำให้ธุรกิจขนาดกลางเข้าถึงกระบวนการนี้ได้มากขึ้น
2. ลูกหนี้สามารถยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอ “พักชำระหนี้” เป็นเวลา 3 เดือนได้ การพักชำระหนี้จะช่วยให้ลูกหนี้มีเวลาในการเจรจาแผนฟื้นฟูกับเจ้าหนี้ทุกรายพร้อมกัน โดยไม่ถูกทวงถามหรือฟ้องร้องในช่วงเวลานั้น
3. ในกรณีที่ลูกหนี้สามารถตกลงแผนฟื้นฟูกับเจ้าหนี้นอกรอบได้สำเร็จ กฎหมายได้เปิดช่องทางให้สามารถเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูแบบเร่งรัดได้ ทำให้ประหยัดเวลาและขั้นตอน
4. ลูกหนี้สามารถยื่นขอให้ศาลมีคำสั่งอนุมัติแผนฟื้นฟูได้ แม้จะไม่ได้รับมติเห็นชอบจากเจ้าหนี้เกินกึ่งหนึ่งทั้งหมด ซึ่งเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยให้การฟื้นฟูเดินหน้าต่อได้
5. ลดภาระผู้ค้ำประกัน ความรับผิดชอบของผู้ค้ำประกันสามารถถูกรวมอยู่ในแผนฟื้นฟูกิจการได้ ซึ่งจะช่วยลดภาระของผู้ค้ำประกันลง (ยกเว้นกรณีที่ผู้ค้ำประกันเป็นหุ้นส่วนในกิจการ)
กฎหมายครอบคลุมถึงลูกหนี้ที่เป็นบุคคลธรรมดา ให้สามารถใช้สิทธิเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับเจ้าหนี้ทุกรายพร้อมกันได้เช่นเดียวกัน
การคุ้มครองสิทธิของเจ้าหนี้
กฎหมายใหม่ไม่ได้ให้ประโยชน์แก่ลูกหนี้เพียงฝ่ายเดียว แต่ยังมีการคุ้มครองสิทธิของเจ้าหนี้อย่างสมดุลด้วย
- เจ้าหนี้จะต้องได้รับการชำระหนี้ตามแผนฟื้นฟู ในสัดส่วนที่มากกว่ากรณีที่ลูกหนี้ถูกยึดทรัพย์ขายทอดตลาดเมื่อล้มละลาย
2. เจ้าหนี้ที่มีหลักประกันยังคงมีสิทธิตามกฎหมายในสินทรัพย์ที่เป็นหลักประกันนั้น
3. มีมาตรการป้องกันไม่ให้ลูกหนี้ที่หนี้สินล้นพ้นตัวไปก่อหนี้ใหม่เพิ่มเติม ซึ่งอาจสร้างความเสียหายแก่เจ้าหนี้รายใหม่
4. หากลูกหนี้ไม่สามารถปฏิบัติตามแผนฟื้นฟูที่ได้รับอนุมัติ ศาลสามารถใช้ดุลพินิจสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด (เข้าสู่กระบวนการล้มละลาย) ได้
การแก้ไขกฎหมายล้มละลายครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญของการเปลี่ยนแปลงกลไกทางกฎหมาย จากเดิมที่มักจะช่วยเหลือผู้ประกอบการรายใหญ่ มาเป็นการให้ความสำคัญกับประชาชนทั่วไปและ SMEs มากขึ้น ช่วยให้คนไทยมีโอกาสฟื้นตัวจากปัญหาหนี้สิน เป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาหนี้ในระดับประเทศต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สะเทือนทั้งโลก NETA ผู้ผลิตรถ EV เจ้าดัง ยื่นล้มละลายแล้ว ทยอยปิดโชว์รูมในจีน
- พนง.ช็อก แบรนด์ดังล้มละลาย! ปิด 35 สาขาฟ้าผ่า เงินเดือนค้าง-ไร้ชดเช
- Neta แถลงการณ์ด่วน สยบข่าวล้มละลาย ยันเป็นแค่เฟคนิวส์
ติดตาม The Thaiger บน Google News: