คนท้องฉีดโบท็อกซ์ได้ไหม อยากสวยแต่ลูกต้องปลอดภัย ให้นมบุตรจะปนเปื้อนไหม หมอยืนยันเอง

คนท้องฉีดโบท็อกซ์ได้หรือไม่? ไขทุกข้อข้องใจเรื่องการฉีดโบท็อกซ์ระหว่างตั้งครรภ์และให้นมบุตร พร้อมแนะทริคดูแลผิวให้สวยเป๊ะ ปลอดภัยต่อเบบี๋ในท้อง
พอรู้ว่ามีเจ้าตัวน้อยอยู่ในท้อง ก็ทำเอาว่าที่คุณแม่ต้องคิดทบทวนทุกอย่างที่จะกินหรือใช้มากขึ้นเป็นพิเศษใช่ไหม? เรื่องอาหารการกิน วิตามิน หรือคาเฟอีน เราคงพอรู้กันดีอยู่แล้วว่าอะไรควรเลี่ยง อะไรควรทาน แต่ก็ยังมีบางเรื่องที่เป็นพื้นที่สีเทาๆ อย่างเรื่องความสวยความงามที่เคยทำเป็นประจำ
แล้วการฉีด “โบท็อกซ์” (Botox®) หรือสาร Botulinum Toxin ตัวอื่นๆ ที่เคยเป็นตัวช่วยลดริ้วรอยคู่ใจล่ะ พอตั้งท้องแล้วยังฉีดได้อยู่ไหม จะปลอดภัยกับลูกในท้องหรือเปล่า
นพ. เจมส์ ซินส์ (James Zins) ศัลยแพทย์ตกแต่ง มาไขข้อสงสัยให้ว่าที่คุณแม่ทุกคน
ตั้งครรภ์อยู่ ฉีดโบท็อกซ์ปลอดภัยไหม?
ขอตอบแบบชัดๆ เลยว่าควรเลี่ยงไปก่อน องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) จัดให้โบท็อกซ์เป็นยาประเภท C ซึ่งหมายความว่า “ยังไม่มีการพิสูจน์ว่าปลอดภัย แต่ก็ยังไม่มีการพิสูจน์ว่าอันตรายต่อคนท้องเช่นกัน”
เมื่อยังไม่มีอะไรมายืนยันความปลอดภัยได้ 100% คุณหมอจึงแนะนำว่าทางที่ดีที่สุดคือการเลือกข้างความปลอดภัยไว้ก่อน หลีกเลี่ยงการฉีดโบท็อกซ์ไปตลอดการตั้งครรภ์ ไม่ว่าเราจะกินหรือฉีดอะไรเข้าร่างกาย ต้องคำนึงถึงผลกระทบที่อาจมีต่อพัฒนาการของทารกในครรภ์เสมอ
เผลอฉีดไปก่อนจะรู้ว่าท้อง ทำยังไงดี?
สำหรับคุณแม่ที่เพิ่งมาเห็นสองขีดหลังฉีดโบท็อกซ์ไปแล้ว ขอให้หายใจเข้าลึกๆ แล้ววางใจได้เลย คุณหมอซินส์บอกว่า โอกาสที่จะเกิดความเสี่ยงนั้นน้อยมาก
“ในการฉีดเพื่อความงาม เราใช้โบท็อกซ์ในปริมาณที่น้อยมาก ตัวยาจะถูกดูดซึมแค่ในบริเวณที่ฉีด ไม่ได้ดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด” คุณหมออธิบาย แม้จะมีงานวิจัยขนาดเล็กชิ้นหนึ่งที่ไม่พบความแตกต่างของภาวะแทรกซ้อนในคนท้องที่ฉีดโบท็อกซ์กับคนท้องทั่วไป แต่ก็ยังเป็นกลุ่มตัวอย่างที่เล็กเกินไป ดังนั้น แม้จะไม่ต้องเครียดกับครั้งที่เผลอฉีดไป แต่ก็ไม่ควรไปฉีดซ้ำอีกค่ะ
แล้วถ้าฉีดเพื่อรักษาโรค เช่น ไมเกรนล่ะ?
โบท็อกซ์ไม่ได้ใช้แค่เพื่อลดริ้วรอย แต่ยังใช้รักษาภาวะอื่นๆ เช่น ไมเกรน ภาวะเหงื่อออกมากเกินไป หรือกล้ามเนื้อกระตุก สำหรับกรณีนี้ คุณหมอแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ที่ดูแลคุณอยู่ เพื่อหาทางเลือกการรักษาอื่นที่ปลอดภัยกว่าระหว่างตั้งครรภ์
แต่ข่าวดีก็คือ บางภาวะป่วยอาจมีอาการดีขึ้นเองในช่วงตั้งครรภ์ อย่างเช่น ไมเกรน จนคุณอาจไม่จำเป็นต้องฉีดโบท็อกซ์เลยก็ได้ค่ะ
ให้นมบุตรอยู่ กลับไปฉีดได้หรือยัง?
คำแนะนำคือควรรอให้ลูกหย่านมก่อน แม้ว่าโอกาสที่โบท็อกซ์จะปนเปื้อนในน้ำนมแม่จะมีน้อยมาก แต่ก็ยังมีความเสี่ยงแฝงอยู่ ทางที่ดีที่สุดคือการหลีกเลี่ยงไปก่อนเพื่อความปลอดภัยสูงสุดของลูกน้อย
หยุดฉีดช่วงท้อง ริ้วรอยจะกลับมาไหม?
เป็นเรื่องธรรมดาที่จะกังวลว่าถ้าหยุดฉีดไป 9 เดือนเต็ม ริ้วรอยต่างๆ จะกลับมาเยือนจนหน้าโทรมหรือเปล่า คุณหมอให้คำยืนยันว่า การหยุดฉีดชั่วคราวไม่ได้ส่งผลเสียต่อผิวในระยะยาว
เมื่อคุณพร้อมและกลับไปฉีดอีกครั้งหลังคลอด ผลลัพธ์ก็จะกลับมาเหมือนเดิม ไม่ได้แปลว่าต้องกลับไปเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ แค่ฉีดครั้งแรกหลังตั้งครรภ์ ผิวก็จะกลับมาเป๊ะเหมือนช่วงก่อนท้องแล้วค่ะ
ทริคดูแลผิวให้สวยใส ปลอดภัยแทนโบท็อกซ์
เมื่อต้องงดโบท็อกซ์ (และเรตินอลที่ผู้เชี่ยวชาญไม่แนะนำให้ใช้ตอนท้อง) แล้วจะดูแลผิวอย่างไรดี? คุณหมอซินส์มีเคล็ดลับง่ายๆ ที่ปลอดภัยมาฝาก
- ปกป้องผิวให้ดีที่สุด: ครีมกันแดดและมอยส์เจอไรเซอร์เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของคุณแม่ตั้งครรภ์ ควรใช้ทุกวันเพื่อปกป้องผิวจากแสงแดดและเติมความชุ่มชื้น ซึ่งจะช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยใหม่ๆ ได้
- ใช้พลังจากวิตามินซี: ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินซี (Topical Vitamin C) ปลอดภัยและมีประโยชน์ต่อผิวหลายด้าน
- กระตุ้นคอลลาเจน: ช่วยให้ผิวแข็งแรง ยืดหยุ่น และเกิดริ้วรอยได้ยากขึ้น
- เสริมประสิทธิภาพกันแดด: วิตามินซีช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีที่เล็ดลอดเข้ามาได้
- ผิวโกลว์สวย: ช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอและกระจ่างใส
- เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ: ช่วยปกป้องเซลล์ผิวจากมลภาวะต่างๆ
สุดท้ายนี้ การเลือกความปลอดภัยไว้ก่อนย่อมดีที่สุดเสมอค่ะ อดใจรออีกไม่นาน เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม คุณหมอก็พร้อมจะช่วยให้คุณแม่กลับมาสวยเป๊ะได้เหมือนเดิมอย่างแน่นอนค่ะ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- อุทาหรณ์ นางเอกฮ่องกงหน้าพัง เพราะโบท็อกซ์ ความสวยที่ต้องเสี่ยง
- แฉแรง หมอหนุ่มคนดัง ถูกกล่าวหาว่า มีเพศสัมพันธ์กับคนไข้ แลกโบท็อกซ์ฟรี
- ไอซ์ ปรีชญา เล่ามรสุมชีวิต ผ่าตัด 5 หมอ 6 ชม. ฉีดโบท็อกซ์ยังปากเบี้ยว
ติดตาม The Thaiger บน Google News: