
เอ็มมา เฮมิง ภรรยาบรูซ วิลลิส อัปเดตอาการสามี โรคสมองเสื่อม “สมองกำลังล้มเหลว” แม้ร่างกายยังแข็งแรง
เอ็มมา เฮมิง วิลลิส ภรรยาของ บรูซ วิลลิส นักแสดงฮอลลีวูดระดับตำนาน ได้ออกมาเปิดใจถึงการต่อสู้กับภาวะสมองเสื่อมของสามี อาการน่าเป็นห่วงว่า นักแสดงวัย 70 ปี กำลังประสบปัญหาอย่างหนักในด้านการสื่อสาร ในขณะที่ความสามารถในการรับรู้ของเขาก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก
“สมองของเขากำลังเริ่มล้มเหลว”
เอ็มมาได้ให้สัมภาษณ์กับ ไดแอน ซอว์เยอร์ ในรายการพิเศษของช่อง ABC ที่ชื่อว่า “Emma & Bruce Willis: The Unexpected Journey” (เอ็มมาและบรูซ วิลลิส: การเดินทางที่ไม่คาดคิด) ซึ่งมีการนำบางส่วนมาออกอากาศล่วงหน้าในรายการ Good Morning America
“ร่างกายโดยรวมของบรูซยังคงแข็งแรงดี เขายังเคลื่อนไหวได้ดี แต่สมองของเขากำลังเริ่มล้มเหลว” ก่อนหน้านี้ ครอบครัวได้เปิดเผยต่อสาธารณชนเมื่อปี 2023 ว่า บรูซ วิลลิส ป่วยด้วยภาวะสมองเสื่อมส่วนหน้า (Frontotemporal Dementia) ซึ่งเป็นโรคที่ส่งผลต่อบุคลิกภาพและพฤติกรรมของผู้ป่วยโดยตรง สำหรับบรูซ อาการที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือการสูญเสียความสามารถในการใช้ภาษาไปเรื่อย ๆ
เอ็มมาเล่าว่า ครอบครัวต้องปรับตัวเรียนรู้วิธีการสื่อสารกับบรูซในรูปแบบใหม่ ๆ เพื่อให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากอาการป่วย “ภาษาเปลี่ยนไป และเราก็ได้เรียนรู้ที่จะปรับตัว เราได้ค้นพบวิธีของเราเองในการเชื่อมต่อกับเขา”
เธอยังได้บอกเล่าเรื่องราวเหล่านี้อย่างละเอียดในหนังสือเล่มใหม่ของเธอ ซึ่งมีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 9 กันยายนนี้ โดยหวังว่าหนังสือเล่มนี้จะเป็นเหมือนคู่มือและเป็นกำลังใจให้กับครอบครัวอื่น ๆ ที่ต้องดูแลผู้ป่วยโรคเกี่ยวกับระบบประสาทเช่นเดียวกัน
แม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายอย่างหนัก แต่ครอบครัวยังคงทะนุถนอมช่วงเวลาที่บรูซยังคงแสดงความสดใสออกมาได้
“มันไม่ได้เกิดขึ้นทุกวัน แต่ก็ยังมีช่วงเวลาเหล่านั้นอยู่ เสียงหัวเราะของเขายังคงเป็นเสียงหัวเราะที่จริงใจ และเมื่อคุณได้เห็นประกายในแววตาหรือรอยยิ้มของเขา มันเหมือนได้ย้อนเวลากลับไป มันเป็นเรื่องยาก เพราะช่วงเวลาเหล่านั้นจางหายไปเร็วมาก แต่ฉันก็รู้สึกขอบคุณที่เขายังคงอยู่กับเรา” เอ็มมากล่าวทิ้งท้าย
แพทย์พบเคสใหม่ “โรคอัลไซเมอร์” ติดจากคนสู่คนได้แล้ว จากต่อมใต้สมองคนตาย
บรูซ วิลลิส อาการแย่ลง ต้องย้ายออกจากบ้าน
เอ็มมา เฮมิง วิลลิส ได้เปิดเผยถึง “การตัดสินใจที่ยากที่สุด” ในการย้ายสามีออกจากบ้านของครอบครัว ไปยังบ้านพักที่มีทีมผู้ดูแลเต็มเวลา เพื่อปกป้องลูกสาวของพวกเขาทั้งสองคน คือ มาเบล วัย 13 ปี และ เอเวอลิน วัย 11 ปี
“บรูซคงอยากให้ลูกๆ ได้อยู่ในบ้านที่เหมาะสมกับความต้องการของพวกเขา ไม่ใช่ความต้องการของเขา” เอ็มมากล่าว
ปัจจุบัน นักแสดงจากเรื่อง Die Hard ได้ย้ายไปอาศัยอยู่ในบ้านพักชั้นเดียวซึ่งมีทีมผู้ดูแลคอยช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง โดยเอ็มมากับลูกสาวจะเดินทางไปเยี่ยมเขาทุกวัน
“เวลาเราไปที่นั่น เราอาจจะใช้เวลากันอยู่ข้างนอก หรือไม่ก็ดูหนังด้วยกัน มันเป็นเรื่องของการได้ใช้เวลาและเชื่อมต่อกับบรูซ” เอ็มมาเสริมว่า สภาพร่างกายของบรูซ “ยังคงเคลื่อนไหวได้ดีมาก” สุขภาพโดยรวมยังแข็งแรงดี “มีเพียงสมองของเขาเท่านั้นที่กำลังล้มเหลว” เธอยอมรับว่าความสามารถในการใช้ภาษาของเขากำลัง “ค่อยๆ หายไป” แต่ครอบครัวก็ได้เรียนรู้ที่จะปรับตัว
ครอบครัววิลลิส ซึ่งรวมถึงอดีตภรรยาอย่าง เดมี มัวร์ และลูกสาวอีกสามคน ได้เคยกล่าวถึงโรค FTD ว่าเป็น “โรคที่โหดร้าย” และยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาดได้
ทัวร์ลงจนทนไม่ไหว ภรรยา ‘บรูซ วิลลิส’ อัดคลิปฟาดคนวิจารณ์ ปมย้ายสามีไปศูนย์ดูแล
หลังจากเจอกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ เอ็มมา ก็ได้ออกมาตอบโต้เสียงวิจารณ์ ที่ต้องย้ายสามีไปอยู่ในบ้านพักที่มีผู้ดูแลเต็มเวลา
อดีตนางแบบวัย 47 ปี ได้โพสต์คลิปวิดีโอลงบนอินสตาแกรมส่วนตัว เพื่อปกป้องการตัดสินใจในฐานะผู้ดูแลผู้ป่วย เธอได้อธิบายว่า สังเกตเห็นคนในโลกออนไลน์แบ่งออกเป็นสองฝ่าย คือ “คนที่มีแค่ความคิดเห็น กับ คนที่มีประสบการณ์จริง”
“คนที่มีแค่ความคิดเห็น… พวกเขาตัดสินผู้ดูแลคนอื่นได้รวดเร็วแค่ไหน และนั่นคือสิ่งที่คนที่เป็นผู้ดูแลต้องเผชิญอยู่”
จากนั้น เอ็มมาได้อ่านข้อความบางส่วนจากหนังสือเล่มใหม่ของเธอ ซึ่งมีหัวข้อว่า “ความคิดเห็น ปะทะ ประสบการณ์” โดยมีใจความสำคัญว่า
“ทุกคนย่อมมีความคิดเห็น แต่คุณต้องเตือนตัวเองไว้ว่าคนส่วนใหญ่ไม่มีประสบการณ์มาสนับสนุนความเห็นนั้น และถ้าเป็นเช่นนั้น พวกเขาก็ไม่ควรจะออกความเห็นใดๆ ไม่มีอะไรจะเปลี่ยนความคิดเห็นได้ทรงพลังเท่ากับการได้เจอกับประสบการณ์จริง”
เธอยังได้เขียนคำบรรยายใต้โพสต์ไว้ด้วยว่า “บ่อยครั้งที่ผู้ดูแลถูกตัดสินอย่างรวดเร็วและไม่เป็นธรรมจากคนที่ไม่เคยผ่านการเดินทางนี้… การที่ฉันออกมาแบ่งปันเรื่องราวอย่างเปิดเผย อาจจะทำให้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็น แต่มันก็ได้สร้างความเชื่อมโยงและการยอมรับให้กับคนที่กำลังเผชิญหน้ากับความเป็นจริงของการดูแลผู้ป่วยอยู่ทุกวัน”
“นั่นคือเหตุผลที่ฉันแบ่งปันเรื่องราว ฉันทำเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นกับชุมชนที่เข้าใจการเดินทางครั้งนี้อย่างแท้จริง”
ประวัติ เอ็มมา เฮมิง ภรรยาผู้เคียงข้าง บรูซ วิลลิส จากนางแบบ ดังสู่นักเขียน กระบอกเสียงเพื่อผู้ป่วยสมองเสื่อม
ท่ามกลางข่าวอาการป่วยของ บรูซ วิลลิส ชื่อของ เอ็มมา เฮมิง วิลลิส ได้ปรากฏต่อสาธารณชนในฐานะผู้ดูแลที่ยืนหยัดเคียงข้างสามีอย่างเข้มแข็ง เป็นกระบอกเสียงสำคัญในการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับภาวะสมองเสื่อมส่วนหน้า (FTD) แต่หลายคนอาจยังไม่รู้จักเธอในแง่มุมอื่น ๆไทยเกอร์ขอย่อย 5 เรื่องราวที่น่าสนใจมาฝาก
1. เกิดที่มอลตา เติบโตในลอนดอน
เอ็มมาเกิดที่ประเทศมอลตา มีพ่อเป็นชาวอังกฤษ แม่เป็นชาวอินเดีย-กายานา หลังจากพ่อแม่ของเธอหย่าร้างกัน เธอได้เติบโตในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ก่อนที่จะย้ายมาใช้ชีวิตและสร้างเส้นทางอาชีพในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
2. แจ้งเกิดจากรายการทีวี กลายเป็นนางแบบระดับโลก
เส้นทางในวงการนางแบบของเอ็มม่า เริ่มต้นขึ้นในยุค 90s จากการชนะการประกวดในรายการทีวี British Elle Supermodel ชัยชนะครั้งนั้นได้เปิดประตูให้เธอสู่รันเวย์ระดับโลก ได้ร่วมงานกับแบรนด์แฟชั่นชั้นนำมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Chanel, Karl Lagerfeld, Valentino และ Giorgio Armani นอกจากนี้ เธอยังเคยเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับเครื่องสำอาง Dior และถ่ายแบบขึ้นปกนิตยสารชื่อดังอย่าง Vogue, Marie Claire และ Elle มาแล้ว
3. มีผลงานการแสดงทั้งในภาพยนตร์และซีรีส์
นอกจากการเป็นนางแบบ เอ็มมายังมีโอกาสได้ชิมลางงานแสดง มีผลงานปรากฏในภาพยนตร์อย่าง Perfect Stranger (2007), The Comebacks (2007) และ Red 2 (2013) ซึ่งเรื่องหลังนี้เธอได้ร่วมแสดงกับสามีของเธอด้วย รวมถึงเคยปรากฏตัวในซีรีส์ดังอย่าง Entourage
4. เป็นผู้ก่อตั้งแบรนด์ความงามวีแกน
ในปี 2016 เอ็มมาได้เปิดตัว CocoBaba แบรนด์สกินแคร์วีแกนที่เน้นการใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ ปราศจากสารเคมี และผลิตอย่างยั่งยืน มีผลิตภัณฑ์เด่นคือน้ำมันมะพร้าวสำหรับดูแลผิวของคุณแม่ตั้งครรภ์ ซึ่งเธอบอกว่าต้องการสร้างผลิตภัณฑ์ที่หรูหราแต่เรียบง่ายและปลอดภัยสำหรับทุกคน
นอกจากนี้ เอ็มม่ายังเคยร่วมมือกับสามีในการสร้างสรรค์น้ำหอมกับแบรนด์ LR Health & Beauty โดยในปี 2012 บรูซได้เปิดตัวน้ำหอมสำหรับผู้หญิงกลิ่นแรกในชื่อ “Lovingly by Bruce Willis” ซึ่งได้เอ็มมาเป็นพรีเซนเตอร์ในแคมเปญโฆษณาด้วย
5. กำลังจะเปิดตัวในฐานะนักเขียน
งานล่าสุดของเอ็มมาคือการเป็นนักเขียน หนังสือเล่มแรกของเธอที่ชื่อว่า “The Unexpected Journey: Finding Hope and Purpose on the Caregiving Path” (การเดินทางที่ไม่คาดคิด: ค้นพบความหวังและเป้าหมายบนเส้นทางของผู้ดูแล) มีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 9 กันยายน 2568
หนังสือเล่มนี้จะบอกเล่าประสบการณ์ตรงของเธอในการดูแลบรูซ วิลลิส ท่ามกลางการต่อสู้กับอาการป่วย โดยเธอหวังว่าหนังสือเล่มนี้จะช่วยให้ผู้ดูแลคนอื่น ๆ รู้สึกโดดเดี่ยวน้อยลง และมีพลังใจในการเดินทางที่ยากลำบากนี้ต่อไป
“ฉันมีความหวังมากกว่าวันที่บรูซได้รับการวินิจฉัยครั้งแรก ตอนนี้ฉันเข้าใจโรคนี้มากขึ้น และได้เชื่อมต่อกับชุมชนที่ให้การสนับสนุนอย่างเหลือเชื่อ ฉันพบเป้าหมายใหม่ในการใช้แสงสปอตไลต์ที่ส่องมาที่ฉัน เพื่อช่วยเหลือและมอบพลังให้กับผู้อื่น” เธอกล่าว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- คริส เฮมส์เวิร์ธ เปิดใจ เสี่ยงป่วย อัลไซเมอร์สูง 10 เท่า จุดเปลี่ยน ครั้งใหญ่ของชีวิต
- แพทย์ เตือน ‘อ้วน’ ทำให้สมองหด เผยพฤติกรรมเสี่ยง ความจำเสื่อมก่อนวัยอันควร
- ภรรยาเล่าทั้งน้ำตา อาการล่าสุด “บรูซ วิลลิส” เริ่มสื่อสารไม่ค่อยได้ แต่ดีใจที่เขายังอยู่
ติดตาม The Thaiger บน Google News: