เขย่าวงการลี้ลับ! เหล่าคนดัง แห่แฉเดือด อ้างมีญาณ โกงเงิน-ฮุบเงินศรัทธา

เหล่าคนดังพร้อมใจโพสต์แฉบุคคลในวงการสายมูว่า สร้างตัวตนปลอม-โกงเงินศรัทธา อ.ตฤณห์ย้ำ กรรมกำลังเช็คบิล และ โกหกเรื่องการเงินไม่ได้ พร้อมโพสต์ข้อความที่ส่อแววว่าบุคคลที่ถูกกล่าวถึงกำลังพยายามหลบหนี
เกิดเหตุการณ์เขย่าวงการความเชื่อ เมื่อเพจดังอย่าง อรรถรส ได้โพสต์บุคคลผู้มีชื่อเสียงจาก 3 แวดวง ออกมาโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กในเวลาไล่เลี่ยกันในลักษณะที่ร้อนแรงและมีความหมายพาดพิงถึงบุคคลในวงการสายมู จนเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ และสืบค้นหาความจริงกันอย่างกว้างขวาง ว่าโพสต์เหล่านี้หมายถึงใครกันแน่
บุคคลทั้งสามที่ออกมาเคลื่อนไหวประกอบด้วย อ.ตฤณห์ โพธิ์รักษา นักอาชญาวิทยาเชิงจิตวิทยาและพฤติกรรมอาชญากร, เจ อ้าปากค้าง ยูทูบเบอร์สายลี้ลับเจ้าของรายการ The Sixth Sense, และ รศ.ดนัย ปรีชาเพิ่มประสิทธิ์ นักวิชาการสายธรรมะ ซึ่งแต่ละคนได้จุดประเด็นที่น่าสนใจแตกต่างกันไป
การเคลื่อนไหวเริ่มต้นขึ้นบนโซเชียลมีเดีย โดยแต่ละท่านได้โพสต์ข้อความที่แม้จะไม่ระบุชื่อใครโดยตรง แต่ก็มีเนื้อหาที่เฉพาะเจาะจงจนทำให้ผู้ติดตามจำนวนมากเชื่อมโยงไปยังบุคคลเดียวกัน
- อ.ตฤณห์ โพธิ์รักษา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก กล่าวถึงประเด็นการสร้างตัวตนและแรงจูงใจว่า “สร้างตัวตนด้วยประวัติปลอม” และ “หากินกับความศรัทธา ตอนนี้กรรมกำลังเช็คบิล นรก is waiting” พร้อมทิ้งท้ายว่า “หากบริสุทธิ์ต้องกล้าชี้แจง อย่าหงายการ์ด เข้าใจผิด”
- เจ อ้าปากค้าง ยูทูบเบอร์ผู้คร่ำหวอดในวงการลี้ลับ โพสต์ในทำนองเดียวกันว่า “กรรมเริ่มทำงาน โกงเงิน ฮุบเงินศรัทธา ป่วย โรคภัย ความชั่วเปิดโปง” และทิ้งปริศนาธรรมชวนสงสัย “โลก 1 กับโลก 3 อยู่บ้านเดียวกัน ฟังแล้วจะตกใจ” พร้อมติดแฮชแท็ก #เรื่องจริงนรก ในทุกโพสต์
- รศ. ดนัย ปรีชาเพิ่มประสิทธิ์ มาในมุมของนักวิชาการสายธรรมะ โดยเขียนบทวิเคราะห์ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นว่า มีคนจำนวนมากเกิดอาการ “จิตตก” เพราะกลัวว่าโพสต์เหล่านี้จะหมายถึงบุคคลที่ตนศรัทธา พร้อมเตือนสติว่าไม่ควรยึดติดในตัวบุคคลมากกว่าหลักธรรมคำสอน เพราะแม้แต่พระผู้ใหญ่ก็ยังมีโอกาสเสื่อมได้ และย้ำให้สังคมกลับมายึด “ธรรมวินัย” เป็นที่พึ่ง แทนการแสวงหาผู้วิเศษ

นอกจากโพสต์บนเฟซบุ๊กแล้ว ฝั่ง อ.ตฤณห์ ยังได้ไลฟ์สดผ่าน TikTok ด้วยเนื้อหาที่เข้มข้นเจาะลึกไปถึงกลวิธีการทำงานของกลุ่มคนที่อ้างว่ามีญาณ โดยระบุว่า หลายคนเข้าข่าย “โรคมโน” คือการโกหกซ้ำ ๆ จนตัวเองเชื่อว่าสิ่งที่พูดเป็นเรื่องจริง
อ.ตฤณห์ ชี้ว่า คนเหล่านี้ไม่ได้มีญาณทิพย์จริง แต่มีทีมงานและลิ่วล้อคอย “หาข้อมูลจากโซเชียลของเหยื่อ” แล้วนำมาสร้างเรื่องราวให้ดูเหมือนว่าหยั่งรู้ได้จริง โดยมักจะพุ่งเป้าไปที่เหยื่อซึ่งอยู่ในสภาวะเปราะบาง เช่น มีอาการป่วย เครียด หรือเพิ่งผ่านการสูญเสียครั้งใหญ่ พร้อมย้ำประโยคสำคัญว่า “โกหกอะไรก็โกหกได้ แต่โกหกเรื่องประวัติและการเงินไม่ได้” เพราะทุกอาชญากรรมจะทิ้งร่องรอยไว้เสมอ และยังกล่าวว่า “อย่าส่งตัวแทนมาเจรจา ผมไม่ใช่เจ้าหน้าที่ แต่ผมมีบทบาทในคดีนี้อยู่”

จากนั้น อ.ตฤณห์ ยังมีการโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กเพิ่มเติมอีกว่า
- FC ทำใจดีดี เผื่อใจด้วยนะครับ ความศรัทธามีเส้นบางๆกั้นอยู่กับคำว่างมงาย และ Gaslighting
- นอนไม่หลับถูกแล้วครับ ทำชั่วมาหลายปี ได้เวลาชดใช้ หนีไปไหนก็ไม่พ้น ขอให้กรรมตามหลอกหลอน
- ทีมงานทยอยลาออกแล้วหรอครับ ไวจัง
- อย่าพึ่งทยอยขนของออกจากบ้านสิครับ จะหนีไปไหนครับ หรือ เอาเงินสดไปซุกครับ





อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ย้อนฟัง ‘หมอบี’ ลั่นยุ่งกรรมคนอื่นตายเร็วแน่ ก่อนพูดเป็นลาง แนวโน้มไปที่ชอบสูง
- ทนายรณรงค์ เตรียมแจ้งความ หมอปลาย วันนี้ เหตุทำนายทำคนแตกตื่นอปราย
- อ.ตฤณห์ ชี้ ทิดสฤษดิ์ ทำลายศรัทธา ไม่ใช่โรคหลายบุคลิก แต่เป็นสันดานล้วน ๆ
ติดตาม The Thaiger บน Google News: