โฆษกรัฐบาล โต้ไม่มีคนยกหู สั่งให้หยุดปะทะ ไม่มีเหตุผลให้ต้องสั่งถอย

จิรายุ โฆษกรัฐบาล โต้ พล.อ.รังษี ไม่มีคนยกหู สั่งให้หยุดปะทะ ไม่มีเหตุผลให้ต้องสั่งถอย เหน็บจะหาซีนเปิดตัวพรรคการเมืองก็ไม่ควรใช้วิธีการแบบนี้
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) ให้สัมภาษณ์หลังมีกระแสข่าวว่า พล.อ.รังษี กิติญาณทรัพย์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจ กล่าวกลางรายการว่า มีไส้ศึก ต่อสายสั่งให้ทหารหยุดปะทะ จนทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์นั้น
โดยนาย ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงจาก พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ถึงกรณีดังกล่าวแล้ว ยืนยันว่าในฐานะรมช.กลาโหม ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง ในฐานะผู้อำนวยการ ศบ.ทก. ที่ตัดสินใจในการบริหารสถานการณ์พื้นที่ชายแดน 7 จังหวัด ยืนยันไม่มีการกระทำตามที่บุคคลดังกล่าวได้กล่าวอ้าง และไม่มีเหตุผลใดที่จะต้องไปสั่งการ ตั้งแต่เกิดกรณีไทย-กัมพูชา ในลักษณะเช่นนี้ ซึ่งฝ่ายความมั่นคง รวมถึงส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงาน ทั้งกองทัพ ทำงานเป็นทีมไทยแลนด์อย่างมีเอกภาพ ในการปฏิบัติภารกิจครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ของชาติไทยอยู่แล้ว
บุคคลคนนี้ ลงมาเล่นการเมืองเป็นหัวหน้าพรรคการเมือง คำพูดทุกคำย่อมต้องมีความรับผิดชอบต่อเสถียรภาพของประเทศ แม้จะเคยเป็นทหาร แต่ปัจจุบันผันตัวเองมาทำงานการเมือง การจะพูดอะไรควรเป็นความสัตย์จริงเยี่ยงชายชาติทหาร ไม่น่าจะทำตัวเป็นนักการเมืองรุ่นเก่า ที่เน้นแต่วาทกรรม สร้างประเด็นการเมืองจนไม่สนใจ เสถียรภาพ และความมั่นคงของชาติใช่หรือไม่ จะหาซีนเปิดตัวพรรคการเมืองก็ไม่ควรใช้วิธีการแบบนี้
ส่วนคำพูดของหัวหน้าพรรคการเมืองคนนี้ ยังมีการขยายผลบิดเบือนให้เกิดความเสียหาย โดยนำคำให้สัมภาษณ์ของ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ซึ่งพูดไว้เมื่อวันที่ 7 พ.ค.68 หรือเกือบ 3 เดือนที่ผ่านมา ขณะดำรงตำแหน่ง รมว.กลาโหม เรื่องการระวังสถานการณ์ไม่ให้มีความรุนแรง มาปั่นให้เข้าใจว่าเป็นไส้ศึกในเหตุการณ์เมื่อ สัปดาห์ที่แล้วที่มีการปะทะ ซึ่งไม่เกี่ยวกัน เป็นคนละเวลาคนละสถานการณ์
วันนี้ถือว่าสถานการณ์ชายแดน รัฐบาล โดยกองทัพ ได้ควบคุมสถานการณ์ไว้ได้เป็นที่เรียบร้อย รัฐบาลอยู่ในขั้นตอนของการเยียวยาความสูญเสีย ฟื้นฟูพื้นที่ เฝ้าระวังรักษาอธิปไตยและดูแลความปลอดภัยของประชาชน พร้อมทั้งการนำเสนอเรื่องราวต่างๆ ผ่านไปยังนานาชาติและส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นองค์กรสิทธิมนุษยชนของโลกรวมทั้งภาคีต่างๆ ดังนั้นช่วงนี้จึงเป็นช่วงเปราะบางของสังคมไทย ประชาชนต้องรักสามัคคี อย่าปล่อยให้เกมการเมืองประเทศเพื่อนบ้านที่ก่ออาชญากรรมสงครามด้วยการโจมตีฐานที่มั่นและพลเรือนของไทย มีอิทธิพลเหนือเราได้ ที่สำคัญไม่ควรปล่อยให้ใครก็ตามพูดอะไรเอามัน สะใจไปเรื่อยโดยไม่มีข้อเท็จจริง รังแต่จะสร้างความสับสนและความขัดแย้งในสังคม และยิ่งจะเป็นการเข้าทางฝ่ายตรงข้ามในเวทีระดับโลกอีกด้วย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- โฆษกกองทัพบก ยันไม่เป็นความจริง ยึดปราสาทตาตวายได้ แต่ถูกสั่งถอย
- “หมอปลาย” บอกอีก 1-2 วันนี้ ปะทะชุดใหญ่ไฟกระพริบ บอกไทยจะได้นายกใหม่
- อัปเดตสถานการณ์ชายแดนล่าสุด 3 ส.ค. สงบไม่มีรายงานเหตุรุนแรง
ติดตาม The Thaiger บน Google News: