“กรณ์” ชี้เกมภาษีทรัมป์ ทางลง “ฮุน เซน” ถอยจากศึกที่ไม่มีวันชนะ

กรณ์ จาติกวณิช ร่ายยาวหลัง โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หารือ นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกฯ มุมไทยต้องเดินเกมไงต่อ หลังมหาอำนาจจี้หากไม่หยุดยิง ไม่เจรจาเรื่องภาษี
นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดฉากวิเคราะห์ประเด็นร้อนทันที เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาหลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โพสต์ข้อความลงบนทรูธ โซเชียล เกี่ยวกับประเด็นความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชาถึง 3 ครั้งในวันที่ 26 ก.ค. โดยเรียกร้องให้ทั้ง 2 ประเทศหยุดยิงทันที ! พร้อมขู่ด้วยว่าหากไม่ยอมหยุด ทางสหรัฐเองจะไม่ยอมเจรจาภาษีนำเข้าสินค้าซึ่งปัจจุบันไทยกับกัมพูชาโดนภาษีนำเข้า 36% ทั้งคู่
คนอดีตรมว.คลัง กล่าวว่าระหว่างที่ทุกคนเฝ้าติดตามข่าวความขัดแย้งกับกัมพูชาซึ่งเหลืออีกไม่กี่วันก็จะสิ้นเดือน แต่ตอนนี้ยังไม่ทราบสหรัฐอเมริกาจะตอบรับข้อเสนอของรัฐบาลไทยและรัฐบาลอาเซียนอื่น รวมถึงสิงคโปร์ มาเลเซีย ลาว และกัมพูชา อย่างไร
นายกรณ์วิเคราะห์ต่อถึงสถานการณ์ ณ ห้วงยามนี้ ฝั่งของรัฐบาลยังคงหวังอยู่ว่า “อเมริกาจะพิจารณา ประเทศไทยเหมือนกับญี่ปุ่น คือ รับข้อเสนอเปิดตลาดมากขึ้น (แต่ไม่ 100%) และยอมลดอัตราภาษีนำเข้าจากที่เคยประกาศขู่ไว้ 36% เป็น 20% หรือตํ่ากว่า
ตนหวังว่าจะได้ตามนั้น ซึ่งตามจริง เราโดน 20% ก็เหนื่อยแล้ว แต่พูดตามตรงผมว่าไม่ง่าย เกรงว่าเราออกตัวช้าไป เบาไป อาจจะเชื่อล็อบบี้ยิสต์ที่จ้างมามากไป เวลานี้ต้องหวังว่า “ทรัมป์” จะไม่พิจารณาเปรียบเทียบข้อเสนอของไทยกับของเวียดนาม และอินโดนีเซียที่ได้เสนอเปิดตลาดให้สินค้าสหรัฐ 100% ในอัตราภาษีนำเข้าที่ 0%
กรณ์ จาติกวณิช ย้ำอีกว่าความเสี่ยงวันนี้ คือ อเมริกา อาจเลือกที่จะไม่ตอบรับข้อเสนอรัฐบาลไทยเลย และเดินหน้าเก็บภาษีที่ 36% ตั้งแต่วันศุกร์ที่จะถึงนี้ แล้วค่อยรอให้ไทยยอมเองภายหลัง หากเป็นเช่นนี้คนการเมืองระบุชัดเจนว่า ประเทศไทยของเราจะได้รับผลกระทบแรงมาก ทั้งการส่งออกลดลง การลงทุนหาย และการผลิตย้ายไปที่ประเทศเพื่อนบ้าน
อย่างไรก็ดีหากโดนัลด์ ทรัมป์ คิดว่าการประกาศสรุปดีลกับเราเป็นผลดีทางการเมืองและเศรษฐกิจให้กับบ้านเมืองตัวเองแล้ว ไทยก็อาจโชคดี เพราะทรัมป์เองมีปัญหาเรื่องไฟล์ของเอปสเตน (Epstein file) อาจจะมองว่าการประกาศดีลการค้าทำให้เขาดูดี
แต่โอกาสสูงที่สหรัฐไม่ได้ให้ความสำคัญอะไรกับไทยเท่าที่รัฐบาลเราเชื่อ
“เขามีภาระสำคัญกว่า เช่นการปิดดีลกับ EU – ส่วนไทยในยุคนี้แทบไม่อยู่ในสายตา หากตัดสินใจเชือดไก่ให้ลิงดูก็ไม่กระทบอะไรกับตัวเขามาก และวันนี้เรามีเรื่องอยู่กับกัมพูชา อาจจะเป็นการเพิ่มความไม่นอนในแนวทางการตัดสินใจของอเมริกา ซึ่งหวังว่าจะไม่นำไปสู่การคงอัตราภาษีไว้ที่ 36% ทั้งสองประเทศ เพื่อไม่เป็นการแสดงออกว่าเข้าข้างใคร?”
หากเป็นเช่นนี้ นายกรณ์มองว่าฝั่งของกัมพูชาจะต้องได้รับความเดือดร้อนแน่นอน เพราะประมาณ 40% ของการส่งออกไปที่สหรัฐซึ่งส่วนใหญ่คือเสื้อผ้า ชุดกีฬา ที่สามารถผลิตแทนได้ที่เวียดนามหรืออินโดนีเซีย ด้วยเหตุนี้จึงมีโอกาสกระทบแรงงาน 800,000 คนที่อยู่ในอุตสาหกรรมนี้
ส่วนผลต่อประเทศไทยก็หนักเช่นกัน ตลาดหุ้นไทยที่เพิ่งปรับขึ้นมาสองร้อยจุดเป็นด่านแรก ผลต่อเศรษฐกิจ ต่อการว่าจ้าง จะตามมาติดๆ ตนขอเน้นอีกครั้งว่า ผลจะออกมาอย่างไร ? นี่คือสัญญาณเตือนให้ประเทศไทยเรานั้นต้องรีบพัฒนาตัวเอง

อัปเดตล่าสุดเจ้าตัวออกมาเคลื่อนไหวเขียนเนื้อหาเสริมเพิ่มเติมจากโพสต์ข้างต้น โดยระบุ “จากที่ผมลงโพสต์ไปไม่ถึงชั่วโมง ว่าทรัมป์อาจไม่ยอมตกลงดีลกับทั้งเราทั้งกัมพูชาหากเรารบกัน ก็ปรากฏข้อความจากทรัมป์ตามนั้น ผมได้เขียนด้วยว่าหากจะมีข้อตกลงได้ อเมริกาต้องไม่ได้เพียงแค่ประโยชน์ทางเศรษฐกิจ แต่ทรัมป์ต้องได้ Win ทางการเมือง”
“วันนี้จึงมีทางออก ทั้งทางความมั่นคงและทางเศรษฐกิจ ผมหวังว่าเราได้ตอบว่า “เราไม่เคยต้องการให้เกิดความรุนแรง พร้อมหยุดยิงเมื่อกัมพูชาหยุด และพร้อมตั้งโต๊ะเจรจาเรื่องชายแดนกับกัมพูชาทันที กัมพูชาเองจะเดือดร้อนมากจากอัตราภาษีที่สูง ดังนั้นการแทรกแซงโดยทรัมป์น่าจะเป็นทางลงให้ฮุนเซนถอยจากศึกที่เขาไม่มีวันชนะ”
“การตกลงหยุดยิงน่าจะช่วยให้ทั้งสองประเทศได้รับข้อตกลงภาษีลดลง และเข้าจังหวะที่ทรัมป์ตัองการผลงานการเจรจาสงบศึก หลังจากที่ยังไม่สามารถทำได้ตามที่เคยหาเสียงไว้ในกรณี รัสเซีย/ยูเครน และ อิสราเอล/ปาเลสไตน์ เป็นที่รู้กันว่าทรัมป์ต้องการ Nobel Prize จากผลงานระงับสงคราม ส่วนเราได้กลับไปเจรจากับกัมพูชาในระดับทวิภาคี โดยไม่มีศาลโลก (ทรัมป์เองก็ไม่ชอบศาลโลก)”
“เราได้โอกาสนี้มาด้วยเลือดเนื้อและความเสียสละของทหารและประชาชนคนไทย หวังว่ารัฐบาลจะใช้ให้เป็นประโยชน์กับเรา”

นอกจาก กรณ์ จาติกวณิช อดีตคนรมว.คลังแล้ว สรกล อดุลยานนท์ หรือ “หนุ่มเมืองจันทร์” ยังเป็นอีกหนึ่งนักวิชาการที่ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย แต่เป็นการเปรียบเปรยพร้อมกับยกวลีจากภาพยนตร์ขึ้นหิ้งอย่าง “เดอะ ก็อดฟาเธอร์” (The Godfather) มาแฝงไว้ในมุมมองผ่านโลกออนไลน์หนนี้ด้วย
“ทรัมป์ประกาศว่าถ้าไทย-กัมพูชา ไม่หยุดยิงจะไม่เจรจาการค้าด้วย ผมพยายามทำให้สถานการณ์ซับซ้อนนี้เรียบง่ายขึ้น
มีผู้คนจำนวนมากเสียชีวิตในสงครามครั้งนี้ มันทำให้ผมนึกถึงความขัดแย้งระหว่างปากีสถานกับอินเดีย ที่สหรัฐสามารถยุติลงได้สำเร็จ ก่อนจะสรุปว่าได้โทรศัพท์คุยกับผู้นำทั้ง 2 ประเทศแล้ว ทั้งไทยและกัมพูชาพร้อมจะหยุดยิงทันที
“นึกถึงประโยคหนึ่งของดอน วีโต คอร์เลโอเน ในหนังเรื่อง The Godfather ฉันจะยื่นข้อเสนอที่เขาปฏิเสธไม่ได้”

อัปเดตในส่วนของกัมพูชา ล่าสุด ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา มีการโพสต์เฟซบุ๊กหลังการหารือทางโทรศัพท์กับทรัมป์ ผู้นำสหรัฐเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังจากได้สนทนากับ ภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้แจ้งข่าวดีแก่ตนว่า ฝ่ายไทยก็เห็นด้วยกับข้อเสนอของท่านประธานาธิบดีที่ให้หยุดยิงโดยทันทีเช่นกัน ซึ่งถือเป็นข่าวดีสำหรับทหารและประชาชนของทั้งสองประเทศ.

อ่านข่าวเพิ่มเติม
- กองทัพภาคที่ 2 โต้ข่าวลือ ยันยังไม่เรียกกำลังพลสำรอง ชี้เงื่อนไขดังนี้
- ทหารไทยในสหรัฐ จี้ถอดยศ ฮุน มาเนต ชี้วงการทหารไม่มีอะไรอัปยศกว่านี้
- วาสนา เผยกองทัพมีหลักฐาน ฮุน เซน พูดเองใช้จรวด BM21 ยิงเขมรถิ่นไทย
ติดตาม The Thaiger บน Google News: