รักชนก ถามแรง ไผ่ ลิกค์ เป็นมา 3 สมัย พ่ออีก 8 คนกำแพงเพชรคุณภาพชีวิตดีขึ้นตรงไหนบ้าง

สส.ไอซ์ รักชนก เปิดประเด็นถาม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ งบอื้อแต่ทำไมคุณภาพเกษตรสวนทาง ฟาด ไผ่ ลิกต์ เป็นสส.ฟากรัฐบาล 3 สมัย พ่อเป็นมาก่อนอีก 8 ปี กำแพงเพชรมีอะไรเปลี่ยนแปลงที่จับต้องได้กับตาบ้าง
วันนี้ (14 ก.ค.) รักชนก ศรีนอก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคประชาชน เคลื่อนไหวด้วยการตั้งคำถามไปถึงกระทรงเกษตรฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในกระทรวงฯ ที่ได้งบประมาณจำนวนมากเป็นประจำ แต่สิ่งที่เกษตรกร โดยเฉพาะชาวไร่ ชาวสวน เผชิญปัญหาเดิม ๆ กันอยู่ทุกวันยิ่งกับตอกย้ำความย้อนแย้งกันจนอดคิดไม่ได้
เนื้อหาจากโพสต์เฟซบุ๊ก สส.ไอซ์ ระบุว่า “กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย เพราะประมาณ 29% ของแรงงานทั้งหมดในประเทศไทยอยู่ในภาคเกษตรกรรมซึ่งตั้งคำถามกันมาตลอดว่า ทำไมเกษตรกรบ้านเรายังยากจน กี่ปีกี่ชาติก็ลืมตาอ้าปากกันไม่ได้ซักที
ทั้งที่งบประมาณแต่ละปีไม่ใช่น้อยๆ กระทรวงเกษตรได้งบแสนล้านขึ้นทุกปี และงบในการบริหารจัดการน้ำก็ปีละแสนล้าน แต่เกษตรกรก็ยังยากจน นวัตกรรมเพื่อการเกษตรก็ไม่ค่อยมี การเพิ่มผลผลิตต่อไร่ก็ไม่มีประสิทธิภาพ การจัดการน้ำเพื่อการเกษตรก็ล้มเหลวบางที่ทั้งท่วมทั้งแล้งในพื้นที่เดียวกันปีเดียวกัน มันเป็นไปได้ยังไง
ทั้งหมดนี้หากมาดูวิธีการจัดงบปรรกระจายงบประมาณในกระทรวงเกษตรท่านอาจจะหายสงสัย ว่าทำไมเรายังดักดาน
ปี69 กำแพงเพชร ได้รับงบรวมทั้งสิ้น 1,126 ล้านบาท
- พื้นที่เกษตรกรรม 3.6 ล้านไร่
- พื้นเศรษฐกิจ ข้าวโพด, มันสำปะหลัง, อ้อย, ข้าว
พะเยา ได้รับงบรวมทั้งสิ้น 1,280 ล้านบาท
- พื้นที่เกษตรกรรม 2 ล้านไร่
- พืชเศรษฐกิจ ข้าว, ข้าวโพด, ลำไย, ยางพารา
ราชบุรี ได้รับงบรวมทั้งสิ้น 613 ล้านบาท
- พื้นที่เกษตรกรรม 2.5 ล้านไร่
- พืชเศรษฐกิจ อ้อย, สับปะรด, มะพร้าว, ส้ม (เกษตรแปรรูป+เชิงพาณิชย์)
ฉะเชิงเทรา ได้รับงบรวมทั้งสิ้น 1,227 ล้านบาท
- พื้นที่เกษตรกรรม 2.37 ล้านไร่
- พืชเศรษฐกิจ ข้าว, มันสำปะหลัง, ยางพารา, และมะม่วง
นครราชสีมา ได้รับงบรวมทั้งสิ้น 1,354 ล้านบาท
- มีพื้นที่เกษตรกรรม 8.91 ล้านไร่
- พืชเศรษฐกิจ ข้าว, มันสำปะหลัง, อ้อยโรงงาน, และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
อุบลราชธานี ได้รับงบรวมทั้งสิ้น 1890 ล้านบาท
- มีพื้นที่เกษตรกรรม 5.5 ล้านไร่
- พืชเศรษฐกิจ ข้าว, ยางพารา, มันสำปะหลัง, และปาล์มน้ำมัน
สุรินทร์ ได้รับงบรวมทั้งสิ้น 828 ล้านบาท
- มีพื้นที่เกษตรกรรม 3.1 ล้านไร่
- พืชเศรษฐกิจ ข้าวหอมมะลิ, อ้อยโรงงาน และมันสำปะหลัง
ข้อสังเกตจากการดูงบภาพรวมและพื้นที่เกษตรกรรมทั้งหมด
1) จะขอหยิบยกมา 7 จังหวัด ที่เป็นจังหวัดเกษตรกรรม โดยมี 4จังหวัด กำแพงเพชร พะเยา ฉะเชิงเทรา ราชบุรี ที่มี สส. จากพรรคกล้าธรรม ซึ่งเป็นที่ทราบโดยทั่วกันว่าโควต้ากระทรวงเกษตรเป็นของพรรคกล้าธรรม และ อีก 3 จังหวัด โคราช อุบลฯ สุรินทร์ เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ทางการเกษตรและมีเกษตรกรจำนวนมากที่สุดในประเทศไทย 3อันดับแรก เพื่อทดสอบสมมติฐานเรื่องการจัดสรรงบประมาณที่ไม่ได้สอดคล้องกับพื้นที่และปัญหา
2) หากดูตัวเลขภาพรวม หากดูงบกระทรวงเกษตรเทียบกับพื้นที่เกษตรกรรม จะเห็นได้ว่าจังหวัดนครราชสีมาหรือโคราช มีพื้นที่เกษตรกรรม 8.91 ล้านไร่ มากที่สุดและเป็นจังหวัดที่มีเกษตรกรมากที่สุดในประเทศ ได้งบจากกระทรวงเกษตร 1,354 ล้านบาท อุบลราชธานี มีพื้นที่เกษตรกรรม 5.5 ล้านไร่ ได้งบจากกระทรวงเกษตร 1890 ล้านบาท
เทียบกับกำแพงเพชร ฉะเชิงเทราและพะเยา ดูตัวเลขจังหวัดพะเยา มีพื้นที่เกษตรกรรม 2 ล้านไร่ ได้งบจากกระทรวงเกษตร 1,280 ล้านบาท ดูตัวเลขฉะเชิงเทรา มีพื้นที่เกษตรกรรม 2.37 ล้านไร่ ได้งบจากกระทรวงเกษตร 1,227 ล้านบาท ทั้งที่สองจังหวัดนี้มีพื้นที่เกษตรกรรมน้อยว่าหลายเท่า แต่ได้งบประมาณรวมทั้งจังหวัดพอๆกันกับโคราช เป็นเพราะอะไร? เพราะว่าโครงสร้างพื้นฐานและระบบชลประทานในจังหวัดโคราชดีอยู่แล้วไม่ต้องทำอะไรเพิ่ม? เพราะว่าเกษตรกรในโคราชเดือดร้อนน้อยกว่าพื้นที่อื่น? ก็ไม่น่าจะใช่ หรือเพราะว่าอะไรลองดูไหนลองชื่อพรรค เกี่ยวกันไหมนะ?
3) กำแพงเพชร พื้นที่ใหญ่ งบเยอะ แต่กระจุกตัว
มีพื้นที่เกษตรกรรม3.6 ล้านไร่ พืชเศรษฐกิจหลัก ข้าวโพด อ้อย มันสำปะหลัง และข้าว ซึ่งต้องพึ่งพาระบบชลประทานอย่างมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ฝั่งตะวันตกกินพื้นที่เขต 2 และ 3 รวมพื้นที่เกษตรกรรม 2,000,000 ไร่ ทั้งที่ยังประสบปัญหาภัยแล้ง แต่เขต 1 ของสส. ไผ่ ลิกค์ พรรคกล้าธรรม พื้นที่เกษตรกรรม 500,000 ไร่ ได้รับงบถึง 497.2 ล้านบาท 44% ของงบทั้งจังหวัด และในขณะที่เขต 4 ขาณุวรลักษบุรี, บึงสามัคคี, ทรายทองวัฒนา, ไทรงาม (บางตำบล) ซึ่งมีลักษณะทางภูมิศาสตร์ไม่แตกต่างกันนัก แต่มีพื้นที่เกษตร 850,000 ไร่ ได้รับงบเพียง 128 ล้านบาท
ลักษณะเช่นนี้สะท้อนว่า ปัญหาภัยแล้งในกำแพงเพชรจะมีอยู่จริง แต่จัดสรรงบประมาณตามความจำเป็นของพื้นที่หรือไม่? หรือเป็นเพราะอำนาจทางการเมือง สามารถเหนี่ยวนำเม็ดเงินให้ไปลงบางที่และไม่ไปลงบางที่ได้ หรือแต่แม้มาจากพวกเดียวกันก็ยังมีลำดับชั้นว่าใครได้น้อยได้มา (จังหวัดนี้ในอนาคตมีโอกาสที่อีก 2 เขตจะย้ายไปกล้าธรรม*) ทั้งที่จริงควรกระจายงบประมาณไปแก้ไขปัญหาตามลักษณะของพื้นที่และดูความจำเป็นเร่งด่วน
4) ข้อมูลงบประมาณและพื้นที่เกษตร จังหวัดฉะเชิงเทรา
งบ 1227 ล้านบาท พื้นที่เกษตรกรรมประมาณ 2.2 ล้านไร่
เขต 1 ฐิติมา ฉายเเสง เพื่อไทย : งบกระทรวงเกษตร 0 ล้าน พื้นที่เกษตร 200,000 ไร่
เขต 2 อรรถกร ศิริลัทธยากร กล้าธรรม : งบกระทรวงเกษตร 664 ล้าน พื้นที่เกษตร 500,000 ไร่
เขต 3 ศักดิ์ชาย ตันเจริญ เพื่อไทย : งบกระทรวงเกษตร 266 ล้าน พื้นที่เกษตร 1,000,000 ไร่
เขต 4 จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ประชาน : งบกระทรวงเกษตร 297 ล้าน พื้นที่เกษตร 300,000 ไร่
บังเอิญว่า เขต 2 จากพรรคกล้าธรรม ที่ได้งบมากที่สุดในฉะเชิงเทรา พ่อเป็นรัฐมนตรช่วยกระทรวงเกษตร แต่อาจจะเป็นการจัดงบตามความเร่งด่วนของพื้นที่ก็ได้นะ อย่าคิดมาก
5) ใครที่มีบ้านหรือที่ทำการเกษตรอยู่เขตพื้นที่ของ สส. บางพรรค ที่มีงบประมาณไปลงเยอะกว่าพื้นที่อื่นๆ ท่านอย่าเพิ่งหลงดีใจว่างบมาลงเยอะๆแล้วบ้านท่านจะดีขึ้น มีโครงการต่างๆมาลงแล้วปัญหาของพี่น้องเกษตรกรจะถูกแก้ไข ท่านลองนึกดูดีดี ดิฉันยกตัวอย่าง
เช่น สส. ไผ่ ลิกค์ เป็นรัฐบาลมา 3 สมัยแล้ว ก่อนหน้านี้ก็เป็นคุณพ่อของคุณไผ่ เป็นมาอีก 8 สมัย ชีวิตของคนกำแพงเพชรอยู่กับครอบครัวคุณไผ่มานับสิบๆปี ดิฉันอยากถามว่าคุณภาพชีวิตของท่าน จังหวัดของท่าน ผลผลิตทางการเกษตร ราคาสินค้าเกษตร มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอย่างจับต้องได้บ้างไหมคะ ?
ดิฉันอยากให้ประชาชนทั้งประเทศได้ลองตรองดู บางตระกูล ที่ชนะเลือกตั้งอยู่ในพื้นที่มาอย่างยาวนาน เค้าอาจะใส่ซองไปงานศพงานบุญงานบวชหรือช่วยท่านคราวละห้าร้อยพันนึง แต่กี่สิบปีมาแล้วที่ช่วยกันมาแบบนี้บ้านของท่านหรือทุกอย่างในชีวิตท่านดีขึ้นบ้างไหมคะ หรือว่ามันก็เหมือนเมื่อ 10ปี 20ปีที่ผ่านมา แต่มีแค่ สส. เขตบ้านท่านกับคนในเครือข่ายที่ดูแล้วจะได้กินดีอยู่ดีและมีฐานะดีขึ้นๆหรือไม่?
6) สส.หรือนักการเมือง ที่คุยโวโอ้อวดว่า สามารถโยกเอางบมาลงพื้นที่ตัวเองได้ ท่านคิดว่าเค้าเป็น สส. ที่ดีหรือไม่ ? การจัดสรรงบประมาณควรจัดแบบไหน? ควรถูกจัดสรรไปให้พื้นที่ที่มีปัญหาก่อน หรือควรจัดแบบพรรคกูพวกกูต้องได้ก่อน?
ยกตัวอย่างเช่น ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งที่เกิดขึ้นในประเทศไทยต้องแก้ไขเรื่องการบริหารจัดการทั้ง 22ลุ่มน้ำ โดยต้องเรียงลำดับตามความเร่งด่วน เพราะถ้าแก้เรื่องน้ำทำไม่สำเร็จก็ไม่มีวันที่จะมีจังหวัดไหนได้อยู่อย่างสงบสุขต้องมากังวลว่าจะท่วมจะแล้งกันอยู่ร่ำไป ปัญหาเช่นนี้มันเป็นปัญหาที่ต้องมองภาพรวมทั้งประเทศแล้วเอาเงินไปแก้ในจุดที่สำคัญเร่งด่วนก่อน
แต่ถ้าหากใช้ระบบมือใครยาวสาวได้สาวเอา สส. หรือพรรคการเมือง สามารถโยกงบมาลงในบางพื้นที่ได้เยอะๆ นั่นอาจแปลว่าได้ไปเบียดเบียนหรือไปตัดทอนเอามาจากคนพื้นที่อื่นจังหวัดอื่นที่เค้าอาจจะเดือดร้อนมากกว่าด้วย ซึ่งการดูดงบจากทั้งประเทศไปลงในพื้นที่ของพรรคใดพรรคนึงสุดท้ายประเทศนี้แก้ไขปัญหาอะไรทั้งระบบไม่ได้เลย และพื้นที่นั้นๆที่งบไปลงก็แก้ไขปัญหาพื้นที่ตัวเองไม่ได้เช่นกัน เพราะมันไม่ตรงจุด เหมือนกับว่าบ้านจะพังแต่มีคนปะผุซ่อมแต่ห้องนอนตัวเองสุดท้ายบ้านทั้งหลังมันจะถล่มลงมาอยู่ดี และสุดท้ายการโยกเอางบไปลงพื้นที่ตัวเอง ท่านคิดว่าเค้าเอามาแก้ปัญหาให้ประชาชนจริงๆหรือเอามาให้ผู้รับเหมาและคนในเครือข่ายได้ดื่มกินกันละคะ ? ลองตอบในใจก็ได้
ดังนั้น สส.หรือนักการเมือง ที่คุยโวโอ้อวดว่า สามารถโยกเอางบมาลงพื้นที่ตัวเองได้ สำหรับดิฉันคนพวกนี้คือตัวถ่วงความเจริญของชาติค่ะ
7) ในประวัติศาสตร์ไม่เคยมีมาก่อน ที่ สส. จะไปยุ่งกับงบประมาณในพื้นที่อื่น? เป็นคำพูดที่เบาปัญญาและตื้นเขิน รวมถึงแสดงให้เห้นว่าไม่เคยสนใจการอภิปรายงบประมาณเลย
ในการอภิปรายงบประมาณ วาระ 1 ในทุกๆปี เช่นปีนี้ สส. พรรคประชาชนคนหนึ่งๆ จะพูดถึงปัญหาการจัดสรรงบประมาณในภูมิภาค บางคนพูดถึงภาครวมทั้งประเทศ และยังมีการตั้งข้อสังเกตเสมอว่า มีบางจังหวัดบางเขตที่เชื่อมโยงกับรัฐมนตรีบางกระทรวงแล้วมีงบมาลงเยอะผิดปกติหรือไม่? อยู่เสมอ และในห้องกรรมธิการงบประมาณ ถ้างบไหนไม่สมเหตุสมผล สามารถที่จะให้เหตุผลและเสนอตัดได้ ดิฉันไม่เข้าใจว่า บางคนเป็น สส. กันมาตั้งกี่สมัยแล้ว ทำไมไม่มีความรู้เรื่องงบประมาณเลย วันๆเอาเวลาไปทำอะไร? การที่คนแบบนี้ได้เป็น สส. ดิฉันคิดว่ามันช่างเสียโอกาสประเทศและสิ้นเปลืองทรัพยากรสิ้นดี!
หรือถ้าหากหมายถึง ในอดีตปกติ สส. เขาจะไม่ยุ่งกัน งบใครงบมันไม่เหยียบตีนกัน มึงไม่เล่นกู กูก็ไม่เล่นมึง ไอ้การเมืองแบบนี้ก็ควรเลิกได้แล้ว สส. เป็นปากเสียงให้กับคนในพื้นที่ที่เลือกตัวเองมาจริง แต่ก็มีหน้าที่รักษาผลประโยชน์ของคนทั้งประเทศเช่นกัน ถ้าอะไรที่มันไม่ถูกไม่ควร เป็น สส. ก็ควรจะพูดถึงปัญหา ถ้าเป็น สส. แล้วไม่มีปัญหาไม่มีความกล้าหาญที่จะแก้ไขในสิ่งผิดก็เสียชาติเกิดเปล่าๆ แล้วโดยเฉลี่ยส่วนใหญ่พวกบอกว่า ไม่ยุ่งงบกัน เงินที่ลงในพื้นที่ไม่ได้ถึงประชาชนหรอก ถึงผู้รับเหมาซะมากกว่า เลยต้องปกป้องกันนักหนา
8 ) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อยู่ภายใต้การนำของเครือข่ายเดิมๆมากี่ปีแล้วค่ะ ไล่ชื่อกลับไปจะ รมว หรือ รมช เปลี่ยนกี่ชื่อทุกคนรู้ว่าเป็นโควตาจริงๆของใคร กี่ปีกี่ชาติมาแล้ว ชีวิตเกษตรกรในประเทศดีขึ้นบ้างหรือยังคะ? ราคาพืชผลทางการเกษตรดีขึ้นบ้างไหม? เรามีเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้เกษตรกรเพิ่มขึ้นไหม? หรือชีวิตเกษตรกรก็ยังเหมือนเดิม
พูดกันโหดๆนะ ประชาชนประเทศนี้ไม่ได้โง่ ทุกคนรู้อยู่แก่ใจว่าเงินที่ใช้สร้างพรรค เงินที่ใช้ดึงดูด สส. เงินที่ใช้ดูแลเครือข่าย เค้าหาจากไหน แต่ไอซ์เข้าใจ เข้าใจจริงๆ มีประชาชนบางกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากอะไรแบบนี้ แต่มันคือการปะผุไปวันๆ ท่านมองภาพรวมประเทศของเราวันนี้สิคะ ชีวิตของเกษตรไทยทำไมถึงได้ยากจนอยู่แบบนี้ทั้งๆที่งบประมาณแต่ละปีมันไม่ใช่น้อยๆ
9) สุดท้ายนี้ ดิฉันไม่เห็นความจำเป็น ในการโต้เถียงกับคนอย่างคุณ ไผ่ ลิกค์ วิญญูชนที่มีสติปัญญาฟังเค้าพูดแล้วก็ตีความเองได้ว่าคนๆนี้เป็นอย่างไร แต่ดิฉันอยากชี้ให้ประชาชนทั้งประเทศได้มองเห็นถึงโครงสร้างอำนาจ ที่ค้ำจุนทำให้คนเช่นนี้ ได้มาเป็น สส. นั่นคือสิ่งที่เราต้องช่วยกันทำลายทิ้ง
พอกันทีกับการ บีบให้จนแล้วแจก กดให้โง่แล้วปกครอง ปล่อยให้ป่วยแล้วรักษาภาษีควรจะกระจายอย่างเป็นธรรมเพื่อไปแก้ปัญหาให้ทุกๆชีวิตในประเทศอย่างตรงจุด ไม่ใช่ใช้อำนาจรวบไว้ที่เดียว แล้วค่อยแจกกลุ่มเป้าหมายเพื่อสร้างบุญคุณ ให้ระบบนี้อยู่ไปเรื่อยๆิ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ไขข้อสงสัย ไอซ์ รักชนก เจอคนกำแพงเพชรรวมตัวโวย ยื่นหนังสือถึงพรรคปชน.ทำไม
- ไอซ์ ฟาดไผ่ ลิกค์ เดือด ถามใช้สมองที่มีคิดไม่ออกจริงๆหรอ
- หมอวรงค์ เฮ! ศาลฯชี้ สุจริต ชนะคดี พิธา-ก้าวไกล ฟ้อง 24 ล้าน
ติดตาม The Thaiger บน Google News: