ประวัติ อนุชา สะสมทรัพย์ บ้านใหญ่นครปฐม มากบารมี นั่งเก้าอี้ รมช.สาธารณสุข

ประวัติ เสี่ยหมวย อนุชา สะสมทรัพย์ บ้านใหญ่นครปฐม มากบารมี นั่งเก้าอี้ รมช.สาธารณสุข พี่น้องตระกูลใหญ่ เคยเป็นมาแล้วทั้ง รัฐมนตรี-รัฐมนตรีช่วยพาณิชย์
ภาพของชายวัย 71 ปี ก้มลงกราบเท้าพี่ชายของตน ที่คอยสนับสนุนจนสำเร็จ คือช่วงเวลาที่สรุปเส้นทางการเมืองอันยาวนานของ อนุชา สะสมทรัพย์ ได้เป็นอย่างดี จาก “น้องเล็ก” แห่งตระกูลการเมืองที่ทรงอิทธิพลที่สุดในจังหวัดนครปฐม ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขในคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ได้สำเร็จ เป็นการรอคอยที่สิ้นสุดลงด้วยตำแหน่งในฝ่ายบริหารครั้งแรกในชีวิต
ประวัติ อนุชา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ครม.อิ๊งค์ 2
- อนุชา สะสมทรัพย์
- ชื่อเล่น หมวย
- ปริญญาตรี บริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาการจัดการทั่วไป จากมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต
- ปริญญาโท ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาสังคมศาสตร์เพื่อการพัฒนา จากมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม
- อายุ 71 ปี
- รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข
- เริ่มดำรงตำแหน่ง 30 มิถุนายน พ.ศ. 2568
- เส้นทางการเมือง สส.นครปฐม และอดีต สว.นครปฐม
- พี่น้องชาย 3 คน เผดิมชัย ไชยยศ และไชยา สะสมทรัพย์

เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2568 หลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี แพทองธาร 2 ชื่อของนายอนุชา ในโควตาพรรคชาติไทยพัฒนา ได้รับโปรดเกล้าฯ ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ข่าวดังกล่าวได้เปลี่ยนบรรยากาศที่บ้านพักของเขาในนครปฐมให้คึกคักทันที
บรรดาแพทย์ พยาบาล และนักการเมืองท้องถิ่น ต่างเดินทางเข้ามาแสดงความยินดีกับสมาชิกคนล่าสุดของตระกูล “สะสมทรัพย์” ที่ได้เข้าร่วมคณะรัฐมนตรี ท่ามกลางการเฉลิมฉลองนั้น นายอนุชาได้แสดงความเคารพต่อพี่ชาย เผดิมชัย สะสมทรัพย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ด้วยการก้มลงกราบ ซึ่งพี่ชายได้กล่าวห้ามปรามน้องชายด้วยความเอ็นดูว่า “เป็นรัฐมนตรีแล้ว ทำแบบนี้ไม่ได้”
การเดินทางสู่ตำแหน่งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย แม้จะเติบโตในตระกูลที่หยั่งรากลึกทางการเมือง บ้านใหญ่สะสมทรัพย์ มีพี่ชายอีก 3 คนที่ล้วนเคยดำรงตำแหน่งทางการเมืองสำคัญ ได้แก่ นายเผดิมชัย, นายไชยยศ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายไชยาผู้ล่วงลับ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
“ผมรู้สึกตื่นเต้นและดีใจมาก” นายอนุชาเปิดใจกับผู้สื่อข่าวในวันนั้น “รู้ข่าวตอน 9 โมงเช้า ไม่ได้เตรียมอะไรไว้ต้อนรับเลย โชคดีที่พอมีซาลาเปากับข้าวหลาม” คำกล่าวที่เรียบง่ายนี้อาจดูขัดกับภาพลักษณ์ของนักการเมืองผู้คร่ำหวอด แต่สำหรับคนในพื้นที่แล้ว นี่คือบุคลิกที่เข้าถึงง่ายซึ่งเป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้เขาครองใจชาวนครปฐมมาอย่างยาวนาน
เส้นทางบนถนนการเมือง
นายอนุชา หรือที่คนใกล้ชิดเรียกว่า เสี่ยหมวย เริ่มต้นเส้นทางการเมืองระดับชาติจากการเป็นสมาชิกวุฒิสภา จังหวัดนครปฐม ก่อนจะลงสนามเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ได้รับชัยชนะครั้งแรกในปี 2550 ภายใต้สังกัดพรรคพลังประชาชน
อนุชาได้รับเลือกตั้งอีกครั้งในปี 2554 ในนามพรรคเพื่อไทย หลังจากการเว้นวรรคเมื่อพ่ายแพ้การเลือกตั้งในปี 2562 เขาก็กลับมาทวงเก้าอี้ สส. นครปฐม ได้อีกครั้งในการเลือกตั้งปี 2566 สังกัดพรรคชาติไทยพัฒนา ซึ่งเป็นพรรคปัจจุบัน
การได้รับเลือกเป็น สส. ถึง 3 สมัย ใน 3 พรรคการเมืองที่แตกต่างกัน แสดงให้เห็นถึงฐานเสียงส่วนตัวที่แข็งแกร่ง ซึ่งผูกพันกับตระกูลสะสมทรัพย์มากกว่าอุดมการณ์ของพรรคการเมืองใดพรรคหนึ่ง
การเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ถือเป็นความท้าทายครั้งใหม่สำหรับนักการเมืองวัย 71 ปีผู้นี้ ต้องเผชิญกับความคาดหวังในการพัฒนาระบบสาธารณสุขของประเทศ กระทรวงที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน
อย่างไรก็ตาม สำหรับชาวนครปฐมและผู้สนับสนุน การมีรัฐมนตรี ที่เป็นปากเสียงให้กับพวกเขาคือชัยชนะที่สำคัญ นายอนุชาได้ให้คำมั่นสัญญาทันทีที่ทราบข่าวว่า “จะขอทำหน้าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขให้ดีที่สุด มีอะไรเข้าหาได้เหมือนเดิม บ้านใหญ่เปิดต้อนรับชาวบ้านทุกเวลา”
ด้านชีวิตส่วนตัว นายอนุชากับนางสุมลรัตน์ สะสมทรัพย์ มีบุตร 4 คน เครื่องราชอิสริยาภรณ์ ที่ได้รับได้แก่
- พ.ศ. 2567 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)
- พ.ศ. 2554 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 1 ประถมาภรณ์ช้างเผือก (ป.ช.)
- พ.ศ. 2548 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ชั้นที่ 6 เหรียญทองดิเรกคุณาภรณ์ (ร.ท.ภ.)

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ประวัติ สุดาวรรณ รมว.อว. คนใหม่ ทายาทโรงแป้งดัง อดีตรมต.อายุน้อยที่สุด
- เปิดประวัติ “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รักษาการนายกฯ หลัง แพทองธาร หยุดปฏิบัติหน้าที่
- ประวัติ บิ๊กแก้ว เต็งหนึ่ง ว่าที่ รมว.กลาโหม คนใหม่ ภายใต้ ครม.อิ๊งค์ 2
ติดตาม The Thaiger บน Google News: