นักท่องเที่ยวอเมริกันวัย 41 ปี ดับสลดกลางป่าแอมะซอน หลังร่วมพิธีดื่ม ‘ชาอายาวัสกา’ ในพิธีกรรมชำระล้างจิตวิญญาณ คาดอวัยวะภายในล้มเหลวเป็นเหตุเสียชีวิต
นักท่องเที่ยวอเมริกันวัย 41 ปีเสียชีวิตหลังพิธีกรรม ดื่มชาอายาวัสกา นิติเวชฯ คาดอวัยวะภายในล้มเหลว ย้อนกลับไปปี 2567 พลเมืองสหรัฐดับหลายราย
เว็บไซต์ต่างประเทศ แชร์อุทาหรณ์เตือนใจนักท่องเที่ยว กรณีของนักท่องเที่ยวชายชาวอเมริกันวัย 41 ปี ดับสลด หลังจากเข้าร่วมพิธีกรรมดื่มชาอายาวัสกา (Ayahuasca) เป็นชาสมุนไพรหลอนประสาทแบบดั้งเดิม กลางป่าแอมะซอนในประเทศเปรู เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่เดือนหลังจากที่สถานทูตสหรัฐฯ ในเปรูเพิ่งออกประกาศเตือนถึงอันตรายของสารหลอนประสาทดังกล่าว
สำนักข่าวท้องถิ่น Canal N Peru รายงานว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ที่ผ่านมา ณ ที่พักเชิงจิตวิญญาณแห่งหนึ่งในเขตซานตา มาเรีย เด โอเคอัล (Santa María de Ojeal) แคว้นโลเรโต กลางป่าฝนแอมะซอน พบร่างของนักท่องเที่ยวชาวอเมริกันจากรัฐแอละแบมา วัย 41 ปี เสียชีวิตไม่นานหลังจากดื่มชาอายาวัสกาในพิธีกรรม
‘นายนาร์ซิโซ โลเปซ’ ผู้ประสานงานแผนกนิติเวชศาสตร์ในแคว้นโลเรโต เผยผลการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ผู้เสียชีวิตมีอาการภาวะอวัยวะภายในล้มเหลวหลายส่วน มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรงคือมีน้ำในช่องเยื่อหุ้มปอด ตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน ขณะนี้ร่างของผู้เสียชีวิตถูกส่งไปยังห้องเก็บศพกลางในเมืองอีกีโตส เพื่อชันสูตรอย่างละเอียดหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดต่อไป
มีรายงานเพิ่มเติมว่า นักท่องเที่ยวผู้เคราะห์ร้ายไม่ได้แจ้งว่าตนเองกำลังรับประทานยาปฏิชีวนะในขณะที่ดื่มชาอายาวัสกา เชื่อกันว่าการดื่มชาชนิดนี้ร่วมกับยาปฏิชีวนะอาจก่อให้เกิดปฏิกิริยาข้างเคียงที่รุนแรงได้
สำหรับ ‘อายาวัสกา’ เป็นเครื่องดื่มที่ได้จากการปรุงยาหลอนประสาทแบบดั้งเดิม มีส่วนประกอบหลักจากเปลือกของเถาวัลย์ Banisteriopsis caapi และพืชที่มีสารไดเมทิลทริปตามีน (DMT) หรือสารออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ในอดีตชนเผ่าพื้นเมืองในแถบแอมะซอนใช้ในพิธีกรรมทางจิตวิญญาณและการรักษาโรคมาอย่างยาวนาน แต่ชาอายาวัสกาถูกนำมาทำการตลาดเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว โดยโฆษณาว่าเป็นพิธีกรรมหรือการชำระล้างจิตวิญญาณ
ทั้งนี้ สาร DMT เป็นส่วนประกอบสำคัญของอายาวัสกาที่ผิดกฎหมายในหลายประเทศ รวมถึงสหรัฐอเมริกา
เหตุการณ์น่าสลดครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่สถานทูตสหรัฐอเมริกาในเปรูเพิ่งออกประกาศเตือนด้านสุขภาพเมื่อเดือนมกราคม ที่ผ่านมา โดยเตือนนักท่องเที่ยวอย่างชัดเจนว่า “ไม่ควรบริโภคหรือใช้สารหลอนประสาทแบบดั้งเดิม มักเรียกกันว่า อายาวัสกา หรือ กัมโป”
ในประกาศเตือนระบุถึงผลกระทบด้านลบต่อสุขภาพหลายประการ ในระยะสั้นผู้ที่บริโภคเข้าไปอาจมีอาการคลื่นไส้, อาเจียน, อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น อาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต ส่วนผลกระทบระยะยาวอาจทำให้เกิดอาการทางจิต (Psychosis), มีปัญหาการนอนหลับ, โรคทางระบบประสาทรวมทั้งเห็นภาพหลอนอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ สถานทูตยังได้เปิดเผยว่า “ในปี 2567 มีพลเมืองสหรัฐฯ หลายรายเสียชีวิตหรือป่วยหนัก รวมถึงมีอาการทางสุขภาพจิต หลังจากบริโภคชาอายาวัสกา”
ข้อมูลจาก : independent
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ตำรวจสอบสวนกลาง ทลาย แหล่งผลิตน้ำสมุนไพรผิดกฎหมาย ส่วนผสมสุดช็อก
- หมอหมู เตือนสติคนไทย “ฉีดสมุนไพรเข้าเส้นเลือด” อย่าหาทำ เสี่ยงตายเฉียบพลัน
- จ่อแจ้งจับ หมอสมุนไพร ปมลูกสาวร้อง แม่ป่วยมะเร็งถูกพาไปรักษา สุดท้ายสมองตาย
ติดตาม The Thaiger บน Google News:
ข่าวล่าสุด
