
แห้ว รีเจนซี่ เล่าความหลัง ช่วงเลิกกับ “ลูกน้ำ พาเมล่า” 20 ปีที่แล้ว ยอมรับเป็นปีอุทกภัย แต่ชีวิตก็แบบนี้ ส่วนรักใหม่ที่อเมริกา แฮปปี้ดี
เมื่อวันที่ 8 พ.ค. ที่ผ่านมา นายเกมศักดิ์ แจ้งทิพย์นาง หรือ เหลือเฟือ จ๊กม๊ก ตลกดังเพื่อนซี้ นายปณิธาน สังข์ประเสริฐ หรือ “แห้ว รีเจนซี่” อดีตตลกตัวพ่ออายุ 63 ปีที่ย้ายถิ่นฐานไปอยู่ที่อเมริกาจนห่างหายจากวงการไปนับสิบปี ได้พาเจ้าตัวมาสัมภาษณ์เบื้องหลังชีวิตว่าเป็นอย่างไรบ้าง ตั้งแต่ไปอยู่เมืองนอก เนื่องจากมีข่าวลือเรื่องตกอับ รายได้ต่ำ และเผยความในใจเกี่ยวกับอดีตคนรัก “ลูกน้ำ พาเมล่า” แบบหมดเปลือก
เหลือเฟือ เล่าว่า จุดเริ่มต้นที่สนิทกับ “แห้ว” เพราะเคยทำงานด้วยกันมาหลายรายการ โดยเฉพาะทริปที่ตนและอีกฝ่ายไปญี่ปุ่นประมาณปี 2543 ซึ่งตอนนั้นเป็นปีอุทกภัย แผ่นดินสะเทือนพอดี แต่เราก็ไปสนุกกัน กระทั่ง “ข่าว” มันมาถึงไทย (เปิดภาพข่าวแห้ว-ลูกน้ำ เลิกกันขึ้นมา)
“มีแต่นักข่าวทั้งนั้น โอเคว่ากันไป ชีวิตมันก็อย่างนี้แหละ 20 กว่าปีไง ปีนั้นปี 2000 ปีนี้ 2025 ก็ 25 ปีผ่านไปแล้ว” แห้วกล่าว

แห้ว เล่าย้อนเส้นทางอาชีพตลกว่า ตนเป็นคนกรุงเทพฯ เรียนรามคำแหง เริ่มแรกคืออยู่กับคณะสี่ดอกจิกซึ่งเป็นคณะตลกของมหาวิทยาลัยฯ ทำกิจกรรมกับชมรมลูกทุ่งสุโขทัย ต่อมาสี่ดอกจิกมาเห็นตน จึงให้นามบัตรไหว้ ทำให้สุดท้ายได้ไปเป็นตลกคาเฟ่ก่อนที่จะไปอยู่กับ “เต่า เชิญยิ้ม”
ทั้งนี้ตนยอมรับว่าเป็นคนที่มีพรสวรรค์น้อย แต่พรแสวงเยอะ ต้องจดมุขตลกไว้มาท่องจำ เรียนรู้ไปเรื่อย ๆ ถึงจังหวะในการเล่น แล้วก็ได้บวช 2 อาทิตย์ จากนั้นมีบริษัทโฆษณาชื่อดังติดต่อมา จนกลายเป็นที่รู้จักและเป็นนามสกุลมาถึงทุกวันนี้ ถ่ายละคร ตอนนั้นไม่มีทีมตลก ก็เลยมาอยู่กับ น้ากล้วย เชิญยิ้ม ก่อนจะไปอยู่อเมริกา
“ชีวิตผกผันต้องดูแลคุณแม่ป่วยโรคไต ที่เก็บหอมรอมริบมาเริ่มน้อยลง ต้องหาปัจจัยมาช่วยรักษาแม่ มีผู้ใหญ่ที่อยู่อเมริกาให้ความกรุณา ชวนไปทำงาน วิถีชีวิตเลยเปลี่ยนไปอีกรูปแบบนึง ระหกระเหินไปอยู่อเมริกา 2 ปีกว่า คุณแม่ก็เสีย เลยใช้ชีวิตตัวเองอยู่ที่โน่นไปเลย ไม่มีอะไรต้องห่วงแล้ว ใช้ชีวิตของเราไป” แห้ว กล่าว

ส่วนกระแสข่าวว่าตนไปเป็นแรงงานรายได้ต่ำ ทำงานที่ซูเปอร์มาร์เก็ตเข็นผักขายนั้น “แห้ว” ชี้แจงว่า ไม่ใช่แบบนั้น ตนไปอยู่ซูเปอร์มาร์เก็ต แผนกผักจริง แต่หน้าที่เข็นผักเป็นเรื่องธรรมดา อีกอย่างตนก็ไม่ได้เข็นผักจนรวย เพราะเก็บหอมรอมริบหลายอย่างจนได้กรีนการ์ด อยู่ถูกต้องตามกฎหมาย ทำงานได้ปกติ จากนั้นก็กลับมาเมืองไทยเยี่ยมพี่น้องปีละ 1-3 ครั้ง
ต่อมาเมื่อเก็บเงินได้ก้อนหนึ่ง ตนก็ไปอยู่ที่ LA (Los Angeles) และแต่งงานกับสาวไทย แต่สุดท้ายก็ย้ายมาอยู่ที่นอร์ทแคโรไลน่า มาซื้อบ้านแทน เพราะถูกกว่า เนื่องจากที่ LA ค่าครองชีพสูง
“พี่เป็นรูปเป็นร่างเป็นกอบเป็นกำได้ เพราะมีภรรยาที่ดี เขาเก่งฉลาด เขาเก็บ เขาทำธุรกิจ มีดอกมีผลขึ้นมา ทำให้เราเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา แล้วที่มีข่าวขึ้นมาเรื่องบ้าน ตัวเองไม่ได้อวดอ้างนะ แต่หลวงพ่อพระที่มาสวดที่บ้าน ท่านเจตนาดีเอาไปลงเฟซบุ๊กท่าน แล้วนักข่าวเขาเอาข่าวนี้มาตี”

นอกจากนี้ ตอนที่ตนไปขายขนมเปี๊ยะกับป๋าเทพที่ตลาดเลียบด่วนนั้น คนก็ว่าตกอับ แล้วไปเทียบกับคนขาขึ้นคนอื่นที่ไปขายขนมเปี๊ยะเหมือนกันนั้น ตนไปอยู่นิ่งไม่ได้ต้องหาอะไรทำ ทั้งนี้ขอฝากถึงคนหาหนทางไม่เจอว่า “ตัดอีโก้ตัวเองให้หมด ทำตัวเองให้มีกินมีใช้ทุกวันได้ถือว่านัมเบอร์วัน”
อย่างไรก็ตาม วันนี้ตนอายุ 63 แล้ว สุขภาพแข็งแรง ใช้ชีวิตที่อเมริกา ชอบไปเที่ยวยุโรป อยากมีลูกมาก แต่ก็ไม่มี เพราะตกลงกับภรรยาว่าเราคงไม่มีวาสนา กระนั้นตอนนี้ตนเป็นเซฟซูชิ มีร้านกาแฟ ซึ่งฝั่งภรรยาก็มีเหมือนกัน เขา (ภรรยา) เก่งทำธุรกิจ มีความสามารถ และเราเป็นคนเห็นความสำคัญของเขา และอยู่ข้าง ๆ ตลอดเวลา
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ชีวิตปัจจุบัน แห้ว รีเจนซี่ อดีตสามี พาเมล่า เบาว์เด้นท์ เริ่มต้นชีวิตใหม่ที่อเมริกา
- ปิดตำนาน ประวัติ “อาฉี เสียงหล่อ” ตลกน้ำดี ทิ้งคำอมตะ “บัดซบจริง ๆ เลย” ไว้ในความทรงจำ
- ตลกดังป่วยกะทันหัน พักงานลิเก รักษาตัวในโรงพยาบาล
ติดตาม The Thaiger บน Google News: