นายกไม่หวั่น พร้อมรับมือ ทรัมป์ขึ้นภาษีไทย 36%

นายกอิ๊งค์ไม่หวั่น พร้อมรับมือ หลัง ทรัมป์ ประกาศขึ้นภาษีแบบครอบจักรวาลและภาษีต่างตอบแทน ส่งผลให้โดนภาษี 36%
จากกรณีที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกมาตรการกำแพงภาษีแบบครอบจักรวาล โดยสินค้าทุกชิ้นที่นำเข้าสู่ประเทศสหรัฐอเมริกา จะโดนภาษีร้อยละ 10 โดยจะเริ่มในเวลา 0.01 น.วันเสาร์ที่ 5 เม.ย. ตามเวลาท้องถิ่น
พร้อมกันนี้ นายทรัมป์ยังประกาศนโยบาย ภาษีต่างตอบแทน (reciprocal tariff) ต่อหลายสิบประเทศ ที่สหรัฐฯ ขาดดุลทางการค้าด้วยมากที่สุด โดยจะเก็บภาษีสินค้าที่นำเข้าจากประเทศเหล่านี้ในอัตราครึ่งหนึ่ง จากอัตราภาษีที่ประเทศเหล่านี้ตั้งไว้ต่อสินค้าจากสหรัฐฯ โดยจะเริ่มในวันที่ 9 เม.ย. ตามเวลาท้องถิ่น
นโยบายดังกล่าวของนายทรัมป์นั้น จะส่งผลให้สินค้าจากประเทศไทย โดนภาษีร้อยละ 36 มากกว่าประเทศจีน, ญี่ปุ่น, มาเลเซีย แต่ยังน้อยกว่า เมียนมา, เวียดนาม, ลาว และ กัมพูชา ตามที่มีรายงานไปก่อนหน้านี้นั้น
ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นนี้ว่า ที่จริงแล้ว เราต้องปรับโครงสร้างภาษีนำเข้ากับสหรัฐ และตั้งคณะทำงานเรื่องการเจรจาต่อรองกับสหรัฐอเมริกา ในส่วนของการปรับโครงสร้างภาษี เวลาเรานำเข้าไม่ได้เป็นสินค้าที่มากมายอะไร แต่พอเก็บภาษีแพง ก็ทำให้ไทยโดนเป็นอันดับต้นๆ 36% ซึ่งก็สูงพอสมควร เราถึงได้มีการเตรียมทั้งแผนระยะสั้นระยะยาว โดยระยะสั้นต้องดูว่าเราสามารถคุยเจรจาต่อรอง เพื่อช่วยผู้ประกอบการที่ส่งออก จะเยียวยาหรือช่วยอะไรได้บ้าง ขณะนี้กระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์ กำลังหาข้อสรุปให้ เพราะตัวเลข 36% เพิ่งออกมา
มาตรการต่างๆ ได้เตรียมความพร้อมไว้แล้ว ทั้งมาตรการเบื้องต้นและสิ่งที่กำลังจะคุยกันต่อ และที่จริงตัวเลขเฉลี่ยภาษีอยู่ที่ 9% แต่มีจำกัดว่าแต่ละประเภทสินค้าไม่ให้เกินเท่าไหร่ เช่น ข้าวโพดไม่ให้เกิดเท่าไหร่ จึงมีการนำตัวเลขนั้นมาเป็นค่าเฉลี่ย ซึ่งเป็นวิธีการคำนวณที่ไม่เคยมี ถึงต้องมาดูว่าสามารถบาลานซ์อะไรได้บ้าง ซึ่งเมื่อเช้านี้ก็ได้มีการพูดคุยกับนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง หลังมีตัวเลขออกมา แต่จริงๆ แล้ว ก็มีการพูดคุยกันมาสักพักแล้ว โดยเฉพาะเรื่องการตั้งทีมเจรจา จึงไม่ต้องเป็นห่วงในเรื่องนี้
เมื่อถามว่าใครจะเป็นผู้นำในการเจรจา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตอนนี้ยังอยู่ในการดูแลของปลัดกระทรวงพาณิชย์ และปลัดกระทรวงการคลัง อย่างไรก็ตาม ตัวแทนที่จะไปพูดคุย ต้องดูด้วยว่าจะไปพูดคุยกับใคร ในระดับไหน เนื่องจากมีหลายขั้น แต่ในระดับทำงาน ก็จะให้ปลัดไปพูดคุยกับทางนั้น รวมถึงรัฐมนตรี
เมื่อถามว่า ตัวเลขที่ออกมา ได้มีการประเมินถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับไทยมาน้อยแค่ไหนหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรามีมาตรการที่จะดูแลผู้ประกอบการ แต่เรื่องของความเสียหายคิดว่า ยังสามารถเจรจาได้อยู่ เพราะตัวเลข 36% ยังไม่ได้ Activate มีแค่ Activate บางหัวข้อ พอได้ตัวเลขมา ถ้ามีการต่อรองและปรับโครงสร้างภาษี ให้สมเหตุสมผล ยิ่งสมัยนี้เป็นแบบ More for Iess - less for More ไม่ได้เป็นแบบเติมที่จะมาเยอะใส่กัน หรือน้อยก็ต้องน้อยทั้งคู่ เป็นเรื่องการต่อรองกัน ซึ่งอันนี้แหละเดี๋ยวจะลงดีเทล
เมื่อถามว่าเป้าหมายที่จะไปต่อรอง จะให้ลดลงเท่าไหร่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะขอให้รายละเอียดอีกครั้ง
ส่วนเรื่องตัวเลขเขาคิด 72% พอจะทราบหรือไม่ว่าตัวเลข 72% นี้ มาจากไหน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โหย 72 นี่ อย่างที่บอกว่า คือวิธีการคิดตัวเลข แต่จริงๆ แล้ว ตัวเลขเฉลี่ยของเราอยู่ที่ 9% แต่วิธีคิดของเขา 72 คือการเอาตัวเลขทั้งหมดที่ลิมิตไปด้วยมาคิดเป็น 72% แล้วครึ่งนึงก็คือ 36% ก็เลยกลายเป็นตัวเลขนี้ ซึ่งเป็นวิธีคิดอีกแบบหนึ่ง เราก็ไม่เคยคิดแบบนี้ แต่ก็เข้าใจแล้ว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- “ทรัมป์” สั่งตั้งกำแพงภาษีนำเข้าสินค้าทั่วโลก ไทยอ่วมโดน 36%
- ทรัมป์ เซ็นคำสั่งตั้งกำแพงภาษี รถยนต์-ชิ้นส่วน 25% ไทยอาจโดนด้วย
- ทรัมป์ ขู่ตั้งกำแพงภาษี 200% สินค้าแอลกอฮอล์ จากอียู ส่อเค้าสงครามการค้า
ติดตาม Thaiger The บน Google News: