อภิปรายไม่ไว้วางใจ ทักษิณ 24 มีนาคม ชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ชี้ศึกซักฟอกพ่อนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ปัดก้าวก่ายงานบริหารรัฐบาล จี้วิปฝ่ายค้านแยกให้ออก พ่อกับลูก ต่างฐานะผู้นำบริหารราชการแผ่นดินยังไง
นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจวันที่ 24-25 มี.ค.2568 นี้ โดยระบุเป็นเรื่องการตกลงระหว่างวิป 3 ฝ่าย สุดท้ายฝ่ายรัฐบาลให้เวลาฝ่ายค้าน 28 ชม.
โดยในการประชุมวันที่ 24 มีนาคมถือเป็นการอภิปรายวันแรกจะเลิกเวลาประมาณ 05.30 น. ของวันที่ 25 มี.ค. จากนั้นในวันที่ 26 มี.ค.จะเริ่มลงมติในเวลา 10.00 น. ซึ่งนายชัยชนะชี้ชัดว่าต้องดูการอภิปรายของฝ่ายค้าน โดยต้องเป็นข้อเท็จจริงเพื่อให้ประชาชนได้รับฟัง
ขณะเดียวกันยังฝากไปยังวิปฝ่ายค้าน ตนจะขอรอดูและรับฟังข้อมูล ส่วนนายกรัฐมนตรีและนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้นฝ่ายค้านต้องแยกให้ออกในฐานะที่เป็นพ่อกับลูก และในฐานะที่เป็นนายกฯ บริหารราชการแผ่นดิน แต่จะไปแยกระหว่างพ่อกับลูกก็คงแยกไม่ได้
นายชัยชนะย้ำว่าการที่พ่อเป็นห่วงลูกเป็นสิ่งที่ไม่ผิด และนายทักษิณก็ไม่ได้เข้ามาก้าวก่ายบริหารรัฐบาลอยู่แล้ว ซึ่งเห็นว่านายกรัฐมนตรีไปนั่งเป็นประธานในที่ประชุมในการแก้ปัญหาแต่ละเรื่อง ต้องยอมรับว่าประเทศไทยเราในวันนี้ สิ่งที่รัฐบาลเดินหน้าแก้ไขคือ ปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นปัญหาหลักที่ต้องเร่งดำเนินการแก้ไข และนายกรัฐมนตรีต้องแสดงบทบาทให้เห็นว่าการแก้ไขปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจในครั้งนี้หนักกว่าวิกฤตต้มยำกุ้ง
ถามว่า “อภิปรายไม่ไว้วางใจ” อาจกระทบถึงปรับครม. กังวลหรือไม่ ?
อ้างอิงข้อมูลจากมติชนประเด็นผลพวงไปถึงขั้นจะต้องลงมือปรับเก้าอี้สำคัญในคม.กันเลยหรือไม่นั้น นายชัยชนะ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่กังวลอยู่แล้ว เรามีความมั่นใจในรัฐมนตรีทั้งสองคน ไม่ว่าจะเป็นนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว. ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคปชป. ทำงานช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่
โดยเฉพาะการเร่งออกเอกสารที่ดินทำกินมอบให้กับพี่น้องประชาชนที่มีที่ดินทับซ้อนระหว่างรัฐกับประชาชน ก็ต้องเร่งดำเนินการซึ่งตอนนี้ประมาณ 5 แสนไร่แล้ว
ส่วนนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.สาธารณสุข ในฐานะเลขาธิการพรรคก็เดินหน้าทำ MOU ระหว่างกรมอนามัยกับท้องถิ่น และการประปาส่วนภูมิภาค เพื่อการผลิตน้ำดื่มให้ถูกหลักอนามัยให้ประชาชนได้ใช้ และย้ำว่า เราไม่มีความกังวลในเรื่องนี้อยู่แล้ว
เมื่อถาม “พรรคประชาธิปัตย์” จะช่วยนายกรัฐมนตรีชี้แจงอย่างไรบ้าง ?
นายชัยชนะ กล่าวว่า การตอบคำถามเป็นเรื่องของนายกฯ ถ้าอะไรที่เกี่ยวข้องแล้วนายกฯ มอบหมายในส่วนของรัฐมนตรีที่พรรคประชาธิปัตย์ดำรงตำแหน่งก็ต้องชี้แจงตามท่านนายกฯ มอบหมาย
ส่วนของการทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติถ้าข้อมูลไหนเป็นข้อมูลข้อเท็จจริงก็รับฟัง แต่ข้อมูลผิดและบิดเบือนตามข้อบังคับการประชุมต้องทำหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยนายชัยชนะยังตอบถึงความพร้อมที่ฝ่ายค้านประกาศให้ฝั่งวิปรัฐบาลเตรียมตัวนำหมอน มุ้ง มาอยู่ที่อาคารรัฐสภา 3 วัน 2 คืน ประเด็นนี้โดยสรุปเป็นเรื่องที่ฝ่ายค้านต้องไปเตรียมมา หมอน มุ้ง มาแทน
อีกฝ่ายเน้นว่า ฟากฝั่งนายกแพทองธารคงไม่ต้องเตรียมขนาดนั้น คิดว่าจิตสำนึกของส.ส.ทุกคนมีอยู่แล้ว ถ้ามีการประชุมก็นั่งประชุมช่วยกันในการทำงาน คิดว่าการมีอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลยินดีเปิดให้อยู่แล้วและเปิดกว้างด้วยในการอภิปรายได้เต็มที่ ถ้าไม่จบต่อเวลาได้อีก แต่เอาข้อมูลถ้าอภิปรายซ้ำหลายๆ เรื่องอย่าให้ประชาชนเบื่อแล้วกัน
ทั้งนี้ ก่อนการอภิปรายฯ ฝ่ายค้าน นำโดย “พรรคประชาชน” ได้มุ่งล็อกเป้า “ซักฟอกเดี่ยว” นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร เพียงคนเดียว โดยข้อมูลจาก Matichon Online ย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์การอภิปรายไม่ไว้วางใจ รวมรอบล่าสุด 47 ครั้ง นายกฯ อุ๊งอิ๊งถือเป็นคนที่ 5 บนทำเนียบผู้นำไทยที่ถูกฝ่ายค้านยื่นอภิปรายเพียงคนเดียว
iLaw เปิดข้อมูล 1 สัปดาห์ก่อนเริ่มอภิปรายไม่ไว้วางใจ
หนึ่งสัปดาห์ก่อนเริ่มอภิปราย เสียงฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลเป็นอย่างไรบ้าง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทย (สส.) มีอยู่ที่ 493 คน ไม่เต็มจำนวน 500 คน ประกอบไปด้วยสองฝั่ง ดังนี้
สส. พรรคฝ่ายรัฐบาล 318 เสียง
- พรรคเพื่อไทย 142 เสียง
- พรรคภูมิใจไทย 69 เสียง
- พรรครวมไทยสร้างชาติ 36 เสียง
- พรรคกล้าธรรม 24 เสียง
- พรรคประชาธิปัตย์ 21 เสียง*
- พรรคชาติไทยพัฒนา 10 เสียง
- พรรคประชาชาติ 9 เสียง
- พรรคชาติพัฒนา 3 เสียง
- พรรคไทรวมพลัง 2 เสียง
- พรรคประชาธิปไตยใหม่ 1 เสียง
- พรรคเสรีรวมไทย 1 เสียง
* พรรคประชาธิปัตย์จำนวนจริง คือ 25 เสียง แต่ไม่โหวตเห็นชอบนายกรัฐมนตรีครั้งที่ผ่านมา 4 เสียง
สส. พรรคฝ่ายค้าน 166 เสียง
- พรรคประชาชน 143 เสียง
- พรรคพลังประชารัฐ 19 เสียง
- พรรคไทยสร้างไทย 3 เสียง
- พรรคเป็นธรรม 1 เสียง
ส่วนที่เหลือยังคงเป็นเสียงที่ไม่มีฝ่ายชัดเจนซึ่งอาจโหวตอย่างไรก็ได้อีกเก้าเสียงจากพรรคต่างๆ ได้แก่
สส. พรรคประชาธิปัตย์สี่เสียงที่ไม่ลงมติให้แพทองธารเป็นนายกรัฐมนตรี คือ ชวน หลีกภัย, บัญญัติ บรรทัดฐาน, จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์, สรรเพชญ บุญญามณี เพราะไม่เห็นด้วยที่ประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลเพื่อไทย
สส. จากพรรคไทยสร้างไทยสามเสียง ซึ่งพรรคนี้มีสส. สามคนที่ลงชื่อในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจแต่อีกสามคนไม่ได้ลงชื่อ ซึ่งสามคนนี้ยังเคยลงมติสนับสนุนให้แพทองธารเป็นนายกรัฐมนตรี สส. จากพรรคไทยก้าวหน้าหนึ่งเสียง และพรรคพลังประชารัฐอีก 1 เสียง.
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- รู้จัก ทนายเอี้ยง นิติศักดิ์ มีขวด จากเด็กใต้สู่ทนายความ เส้นทาง 20 ปี ยึดมั่นในความยุติธรรม
- ดิว อริสรา ส่งทนายแจง ตร. ไม่ได้ตั้งใจหนีไปไต้หวัน ยันจะรีบกลับมาเคลียร์
- ทักษิณ ไม่ซีเรียส สทร. คนชอบแปล สุดที่รัก เผยเองถ้าเกลียดแปลอะไร
ข่าวล่าสุด
