“พายุอัลเฟรด” เข้าถล่มชายฝั่งทางตะวันออกของออสเตรเลีย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 รายจากเหตุน้ำท่วม บาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง
เมื่อวานนี้ (9 มีนาคม) เจ้าหน้าที่ออสเตรเลียได้รายงานว่ามีผู้เสียชีวิตยืนยันแล้ว 1 ราย และมีผู้บาดเจ็บหลายคน หลังฝนตกหนักท่วมชายฝั่งตะวันออกของออสเตรเลีย แม้จะรอดพ้นกระแสลมรุนแรงของพายุไซโคลนอัลเฟรด ที่ถือว่าเป็นพายุลูกแรกมที่เข้าถล่มในรอบ 51 ปี
สำนักอุตุนิยมวิทยาระบุในแถลงการณ์ว่า เศษซากของพายุไซโคลนได้พัดเข้าฝั่งในช่วงค่ำของวันเสาร์ ห่างจากบริสเบนไปทางเหนือ 55 กิโลเมตร (34 ไมล์) และจะเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกเข้าสู่แผ่นดิน นำฝนตกหนักมาด้วย
แมตต์ คอลโลปี ผู้จัดการสำนักอุตุนิยมวิทยากล่าวว่า “ภัยคุกคามที่แท้จริงตอนนี้คือฝนตกหนักถึงรุนแรงเฉพาะพื้นที่ ซึ่งอาจนำไปสู่น้ำท่วมฉับพลันและน้ำท่วมแม่น้ำ”
พายุไซโคลนพบได้บ่อยในเขตร้อนทางตอนเหนือของควีนส์แลนด์ แต่หาได้ยากในพื้นที่อากาศอบอุ่นทางตะวันออกเฉียงใต้ที่มีประชากรหนาแน่น ซึ่งติดกับรัฐนิวเซาท์เวลส์
ตำรวจรายงานว่า ชายวัย 61 ปีที่หายตัวไปในแม่น้ำที่มีน้ำท่วมใกล้เมืองดอร์ริโกในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ได้รับการยืนยันแล้วว่าเป็นผู้เสียชีวิตรายแรกจากวิกฤตครั้งนี้ หลังพบร่างของเขาเมื่อวันเสาร์
นายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบานีสกล่าวว่า รถบรรทุกทหาร 2 คันที่เข้าร่วมในการตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉินได้พลิกคว่ำในเมืองทรีเกเกิลในรัฐนิวเซาท์เวลส์เมื่อวันเสาร์ ทำให้บุคลากรทางการทหารบาดเจ็บ 13 นาย โดยรถบรรทุกคันหนึ่งออกนอกถนนและพลิกคว่ำหลายครั้งลงไปในทุ่ง ส่วนอีกคันพลิกตะแคงขณะหักหลบเพื่อหลีกเลี่ยงการชน
จากบุคลากรทหารจากบริสเบนทั้งหมด 32 นายที่อยู่ในรถ มี 6 นายที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส รัฐมนตรีกลาโหมริชาร์ด มาร์เลสกล่าวว่า ผู้บาดเจ็บทั้งหมดถูกนำส่งโรงพยาบาลและคาดว่าทุกคนจะฟื้นตัวได้
ตำรวจรายงานว่า มีผู้หญิงหนึ่งคนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเมื่ออาคารอพาร์ตเมนต์สูญเสียหลังคาในเมืองโกลด์โคสต์ซึ่งเป็นเมืองชายแดนของควีนส์แลนด์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยมีผู้หญิงคนนี้เป็นหนึ่งใน 21 คนที่ถูกอพยพออกจากอาคาร
เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า คู่สามีภรรยาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเมื่อต้นไม้หักโค่นทะลุเพดานห้องนอนของพวกเขาในโกลด์โคสต์ ระหว่างที่มีลมแรงและฝนตกหนักเมื่อคืนวันพฤหัสบดี
เดวิด คริสซาฟุลลี่ นายกรัฐมนตรีรัฐควีนส์แลนด์กล่าวว่า บ้านและธุรกิจกว่า 330,000 แห่งประสบปัญหาไฟฟ้าดับเนื่องจากพายุตั้งแต่วันพฤหัสบดี นับเป็นไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐที่เกิดจากภัยธรรมชาติ ขณะที่นิวเซาท์เวลส์รายงานว่ามีอาคารถึง 45,000 แห่งที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ในวันเสาร์ แต่เจ้าหน้าที่ระบุว่าหลายหมื่นแห่งได้รับการเชื่อมต่อไฟฟ้ากลับมาแล้วในช่วงท้ายของวัน
สำนักอุตุนิยมวิทยารายงานว่า แม่น้ำหลายสายในควีนส์แลนด์และนิวเซาท์เวลส์กำลังเอ่อล้นตลิ่งหลังจากมีฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ตำรวจเปิดเผยว่า ชายที่พบศพเมื่อวันเสาร์เป็นผู้เสียชีวิตเพียงรายเดียวจากการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม 36 ครั้งที่ทีมฉุกเฉินดำเนินการในตอนเหนือของนิวเซาท์เวลส์ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นรถที่พยายามขับข้ามน้ำท่วม
อ้างอิง : apnews.com
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
