ทรัมป์ เพิ่มภาษีนำเข้าจีน 20% แคนาดา-เม็กซิโก กระทบราคาสินค้า

ทรัมป์ เปิดศึกการค้า เตรียมขึ้นภาษีจีน 20% พร้อมพุ่งเป้า แคนาดา-เม็กซิโก 25% กระทบสินค้านำเข้า อุตสาหกรรมยานยนต์ น้ำมันดิบ สินค้าเกษตร ส่งผลกระทบวงกว้าง
เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2568 สำนักข่าว abcnews รายงานว่า ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ (Donald Trump) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เตรียมเดินหน้าเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศพันธมิตรทางการค้าสำคัญของสหรัฐฯ โดยเพิ่มภาษีนำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกเป็น 25% และเพิ่มภาษีจากจีนเป็น 20% ในปี 2024 ที่ผ่านมา สหรัฐฯ มีมูลค่าการค้าสินค้ารวมเกือบ 2.2 ล้านล้านดอลลาร์
ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินทางเศรษฐกิจเพื่อใช้เป็นเหตุผลในการขึ้นภาษี โดยอ้างว่ามาตรการนี้จะช่วยลดการหลั่งไหลของผู้อพยพผิดกฎหมายและยาเสพติดข้ามพรมแดน แต่พลังงานนำเข้าจากแคนาดา รวมถึงน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และไฟฟ้า จะถูกเก็บภาษีในอัตราต่ำกว่าที่ 10% เพื่อลดผลกระทบต่อครัวเรือนอเมริกันในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและตะวันกลางที่พึ่งพาพลังงานจากแคนาดา

ผลกระทบจากการขึ้นภาษีจะรุนแรงในอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยมีห่วงโซ่อุปทานที่เชื่อมโยงระหว่างสหรัฐฯ เม็กซิโก และแคนาดามากกว่า 1 ใน 5 ของรถยนต์และรถกระบะที่ขายในสหรัฐฯ ผลิตในแคนาดาหรือเม็กซิโก ในปีที่ผ่านมาสหรัฐฯ นำเข้ารถยนต์และรถกระบะมูลค่า 79,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 2,683,827,500,000 บาท จากเม็กซิโก และ 31,000 ล้านดอลลาร์ (1,053,147,500,000 บาท) จากแคนาดา รวมถึงชิ้นส่วนยานยนต์อีกกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 3,397,250,000,000 บาท
ด้าน ‘สก็อตต์ ลินซิคอมบ์’ นักวิเคราะห์การค้าจากสถาบันคาโต้ เปรียบการขึ้นภาษี 25% เหมือน “การขว้างระเบิดใส่ห่วงโซ่อุปทาน” และคาดว่าราคารถยนต์ในสหรัฐฯ อาจเพิ่มขึ้นประมาณ 3,000 ดอลลาร์ หรือ 1,019,175 บาทต่อคัน

ไม่เพียงเท่านั้น ‘น้ำมันดิบ’ ยังเป็นอีกหนึ่งสินค้าสำคัญที่จะได้รับผลกระทบ แคนาดาเป็นผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดให้สหรัฐฯ มูลค่า 98,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2024 โรงกลั่นน้ำมันอเมริกันโดยเฉพาะในภาคตะวันกลางถูกออกแบบให้กลั่นน้ำมันดิบหนักจากแคนาดา การขึ้นภาษีอาจส่งผลให้ราคาน้ำมันสูงขึ้นโดยเฉพาะในภาคตะวันกลาง
ส่วน ‘สินค้าอุปโภคบริโภค’ จากจีนก็จะได้รับผลกระทบไม่น้อย โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ของเล่น เกม อุปกรณ์กีฬา เสื้อผ้า และรองเท้า ซึ่งมีมูลค่านำเข้ารวม 32,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 1,087,120,000,000 บาท

อุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็จะได้รับผลกระทบเช่นกัน ในปี 2023 สหรัฐฯ นำเข้าเตกีลามูลค่า 4,600 ล้านดอลลาร์ (156,273,500,000 บาท) จากเม็กซิโก และเหล้าจากแคนาดามูลค่า 537 ล้านดอลลาร์ หรือ 18,243,232,500 บาท โดย ‘คริส สวองเกอร์’ ประธานสภาสุราสหรัฐฯ กล่าวว่า การขึ้นภาษีจะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคชาวอเมริกันและนำไปสู่การปลดพนักงานในอุตสาหกรรมบริการ
สินค้าเกษตรก็ไม่รอดพ้นผลกระทบ สหรัฐฯ นำเข้าสินค้าเกษตรมูลค่ากว่า 90,000 ล้านดอลลาร์ (3,057,525,000,000 บาท) จากเม็กซิโกและแคนาดา รวมถึง 47% ของผักนำเข้า และ 40% ของผลไม้นำเข้าทั้งหมด การขึ้นภาษี 25% อาจผลักดันให้ราคาอาหารสูงขึ้น ซึ่งจะเป็นผลกระทบซ้ำเติมผู้บริโภคที่ยังคงเผชิญกับราคาอาหารที่สูงอยู่แล้ว
นอกจากนี้ เกษตรกรอเมริกันยังกังวลว่าแคนาดา เม็กซิโก และจีนจะตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีสินค้าเกษตรของสหรัฐฯ เช่น ถั่วเหลืองและข้าวโพด เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในสมัยที่ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีครั้งแรก มาร์ค แมคฮาร์ก เกษตรกรจากรัฐเนบราสก้า กล่าวว่า แม้รัฐบาลทรัมป์จะเคยช่วยเหลือเกษตรกรด้วยเงินสนับสนุนหลายพันล้านดอลลาร์ แต่เกษตรกรก็ยังต้องการขายสินค้าในตลาดมากกว่าได้รับเช็คจากรัฐบาล
การขึ้นภาษีครั้งนี้อาจจุดชนวนสงครามการค้าครั้งใหม่ เมื่อทั้งสามประเทศคู่ค้าหลักของสหรัฐฯ เตรียมมาตรการตอบโต้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลกในระยะยาว
ข้อมูลจาก : abcnews
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ด่วน! ทรัมป์ สั่งยุติความช่วยเหลือทางทหารยูเครน หลังปะทะคารมเดือดในทำเนียบ
- “ทรัมป์” เซ็นให้ ภาษาอังกฤษ เป็นภาษาประจำสหรัฐฯ ครั้งแรกตั้งแต่สร้างชาติ
- ทรัมป์ จ่อขาย “บัตรทอง” 175 ล้าน ทางลัดกรีนการ์ด ขอสัญชาติเมกา