สุขภาพและการแพทย์

ผวา เครื่องดื่มยอดฮิตคนไทย เสี่ยงปนเปื้อนไมโครพลาสติก ต่อซองอนุภาคมหาศาล

เตือนภัยคอชาทั้งหลาย เวียดนามเผยผลวิจัย “ถุงกรองชา” เสี่ยงปนเปื้อนไมโครพลาสติกนับพันล้านอนุภาคต่อซอง คนไทยผวา เป็นเครื่องดื่มยอดฮิต บริโภคทุกวัน

“ชา” เป็นเครื่องดื่มดั้งเดิมที่อยู่คู่ชาวเอเชียอย่างยาวนาน ซึ่งปัจจุบันได้มีการพัฒนามาเป็นในรูปแบบ “ถุงกรองชา” เพื่อความสะดวกสบายในการชงดื่ม แต่ในขณะเดียวกัน การชงชาด้วยถุงกรองเหล่านี้ก็อาจเพิ่มความเสี่ยงในการรับ “ไมโครพลาสติก” อนุภาคพลาสติกขนาดจิ๋วที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เข้าสู่ร่างกาย

Advertisements

เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์ต่างประเทศ SOHA ได้รายงานถึงผลการวิจัยจาก Universitat Autònoma de Barcelona ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Chemosphere ซึ่งได้เปิดเผยผลการศึกษาเกี่ยวกับ “ถุงชา” ว่า เมื่อแช่ในน้ำร้อน ถุงชาเหล่านี้จะปล่อยไมโครพลาสติกออกมาได้ในปริมาณมหาศาล

ในการศึกษาดังกล่าวนี้ นักวิทยาศาสตร์จาก Universitat Autònoma de Barcelona ได้เตือนว่า ถุงชาเพียงซองเดียว สามารถปล่อยไมโครพลาสติกออกมาได้นับพันล้านอนุภาค โดยไมโครพลาสติกส่วนใหญ่เหล่านี้จะถูกดูดซึมโดยเซลล์ที่ผลิตเยื่อบุลำไส้ แต่บางส่วนก็สามารถแทรกซึมเข้าไปถึงนิวเคลียสของเซลล์ ซึ่งเป็นส่วนที่เก็บข้อมูลทางพันธุกรรม

Nguyen Huy Hoang หัวหน้าแผนกบำบัดด้วยออกซิเจนแรงดันสูง จากศูนย์วิจัยเขตร้อนเวียดนาม-รัสเซีย กล่าวเพิ่มเติมว่า ถุงชามักจะทำจากไนลอนชนิด food-grade หรือทอเป็นถุงผ้าโดยใช้ Polyethylene terephthalate (PET) ซึ่งเมื่อถุงชาเหล่านี้สัมผัสกับน้ำร้อนจัดใกล้จุดเดือด จึงทำให้สามารถปล่อยอนุภาคไมโครพลาสติกออกมาได้

ทางด้าน รองศาสตราจารย์ Do Van Dung อดีตหัวหน้าคณะสาธารณสุขศาสตร์ และอดีตรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์และเภสัชศาสตร์ในโฮจิมินห์ซิตี้ มีความเห็นพ้องต้องกันกับ Huy Hoang โดยกล่าวว่า ถุงชามีหลายประเภท เช่น ถุงชาพลาสติก (ถุงชาทรงปิรามิดที่ทำจาก Polyethylene terephthalate – PET) หรือถุงชากระดาษ ซึ่งถุงชาพลาสติกจะปล่อยไมโครพลาสติกได้ เนื่องจากอนุภาคพลาสติกจะกระจายออกในระหว่างกระบวนการแช่ชาในน้ำร้อน

Advertisements

ถึงแม้ว่าถุงชากระดาษจะทำจากกระดาษเป็นหลัก แต่ก็ยังมีการใช้พลาสติก เช่น โพลีโพรพิลีน หรือ โพลีเอทิลีน เพื่อปิดขอบถุงชา ซึ่งก็เพิ่มความเสี่ยงต่อการรับไมโครพลาสติกเข้าสู่ร่างกายได้เช่นกัน

“ไมโครพลาสติก” ส่งผลกระทบต่อสุขภาพมากแค่ไหน

รองศาสตราจารย์ Do Van Dung กล่าวว่า การวิจัยเกี่ยวกับไมโครพลาสติกยังถือว่าเป็นศาสตร์การศึกษาที่ค่อนข้างใหม่ แม้ว่าจะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง นักวิจัยกำลังพัฒนาวิธีการตรวจจับและวิเคราะห์ไมโครพลาสติก แต่ก็ยังมีข้อจำกัด และความท้าทายมากมาย เนื่องจากการขาดมาตรฐานในการประเมินการรับเอาไมโครพลาสติก และความยากลำบากในการระบุปัจจัยที่อาจก่อให้เกิดความสับสนของสารมลพิษที่เกี่ยวข้องกับไมโครพลาสติก

อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์ได้ยืนยันแล้วว่า ไมโครพลาสติกพบได้ทั่วไปในสิ่งแวดล้อม (ทั้งในน้ำฝน และอากาศ) และมีผลกระทบต่อเซลล์เพาะเลี้ยง และสัตว์ทดลอง

“แม้ว่าบางงานวิจัยจะแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างไมโครพลาสติกกับโรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคไต อัลไซเมอร์ หรือปัญหาการเจริญพันธุ์ในมนุษย์ แต่เนื่องจากความแตกต่างในการประเมินชนิดของไมโครพลาสติก ระดับการสัมผัสไมโครพลาสติก และความยากลำบากในการกำจัดปัจจัยที่อาจก่อให้เกิดความสับสน ผลลัพธ์จึงยังไม่ได้รับการยืนยัน” รองศาสตราจารย์ Dung กล่าว

จากการศึกษาในห้องปฏิบัติการและสัตว์ทดลอง พบว่าไมโครพลาสติกอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์ได้ แต่ถึงอย่างนั้น ในส่วนของขอบเขตของอันตรายที่ไมโครพลาสติกมีต่อสุขภาพของมนุษย์ยังไม่มีบทสรุปที่แน่ชัด

ทั้งนี้ หนทางที่ดีที่สุดที่ทุกคนสามารถทำได้ คือการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการดื่มชาเป็นประจำ รวมถึงชาวไทยที่นิยมดื่มชาชงแบบถุง โดยอาจพิจารณาเปลี่ยนไปการเลือกดื่มชาที่ชงจากใบชาโดยตรง หรือเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตถุงกรองชาจากวัสดุธรรมชาติ เช่น ผ้าฝ้าย หรือเยื่อไผ่ เพื่อลดความเสี่ยงในการได้รับไมโครพลาสติกเข้าสู่ร่างกาย

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Danita S.

นักเขียนบทความไลฟ์สไตล์ บันเทิง ประจำ Thaiger ติดตามทุกกระแส K-Pop และเท่าทันทุกเรื่องราวความบันเทิง ด้วยประสบการณ์มากกว่า 3 ปี จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ ช่องทางติดต่อ bell@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button