ตัดเกรดแข้งหงส์แดง หลังเกม ลิเวอร์พูล ชนะ นิวคาสเซิล 2-0 นำจ่าฝูง 13 แต้ม

หลังเกม ลิเวอร์พูล พบ นิวคาสเซิล ตัดเกรดแข้งหงส์แดง โหดต่อเนื่อง! โซบอสซ์ไล ซาลาห์ นำทัพบด “สาลิกาดง” 2-0 นำจ่าฝูงทิ้งห่าง อาร์เซนอล 13 แต้ม เปิดบทวิเคราะห์ เอียน ดอยล์ เบื้องหลัง ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ โปรแกรมนัดที่ 27 เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา พร้อมคลิปไฮไลท์ประตูสำคัญ
ลิเวอร์พูลยังคงโชว์ฟอร์มร้อนแรง โกยแต้มนำโด่งเป็นจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก หลังเปิดรังแอนฟิลด์ เอาชนะ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด คู่แข่งในนัดชิงชนะเลิศคาราบาว คัพ ไปได้ 2-0 จากการยิงของโดมินิค โซบอสซ์ไลในครึ่งแรก และอเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ มาบวกเพิ่มครึ่งหลัง
ชัยชนะนัดนี้ทำให้ลูกทีมของอาร์เน่ สล็อต นำโด่งเป็นจ่าฝูง ทิ้งห่าง อาร์เซนอล อันดับ 2 ถึง 13 แต้ม แม้จะแข่งมากกว่า 1 นัดก็ตาม
มาดูกันว่า นักเตะ “หงส์แดง” แต่ละคนโชว์ฟอร์มกันอย่างไรบ้าง?

อลิสซอน เบ็คเกอร์ – 7
ครึ่งแรกแทบไม่ได้ออกแรง มีเพียงจังหวะเซฟลูกยิงของ วิลสัน ที่หลุดกรอบออกไป ครึ่งหลังมีจังหวะออกมาตัดบอลจากลูกครอสบ้าง แต่โดยรวมถือว่า “นิ่งสงบ”
เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ – 7
- ครึ่งแรกมีจังหวะจ่ายบอลสวยๆ ขึ้นหน้าหลายครั้ง แต่ก็เสี่ยงเกินจำเป็นในแดนตัวเอง ครึ่งหลังทำได้ดีขึ้น เมื่อพื้นที่เปิดมากขึ้น ถูกเปลี่ยนตัวออก

อิบราฮิมา โกนาเต้ 7
- แฟนๆ ชอบใจกับจังหวะเติมเกมขึ้นไป แต่ส่วนใหญ่แล้ว ทำหน้าที่ได้อย่างแข็งแกร่ง ช่วยสกัดกั้นเกมรุกของ “สาลิกาดง”
เวอร์จิล ฟาน ไดค์ 7
ช่วยให้นิวคาสเซิลเล่นเกมรุกได้ลำบากด้วยการยืนตำแหน่งสูง และรับมือกับลูกกลางอากาศได้อย่างมั่นใจ ช่วงท้ายเกม สบายๆ หลังทีมได้ประตูหนีห่าง

คอสตาส ซิมิกาส – 7
- เกมรับ ไม่มีอะไรผิดพลาด ประสานงานกับ ดิอาซ ทางฝั่งซ้ายได้ดี แม้จะไม่ใช่ฟูลแบ็คสไตล์เติมเกมรุกบ่อยๆ
ไรอัน กราเวนเบิร์ช – 7
- ยังคงพัฒนาฟอร์มการเล่นอย่างต่อเนื่อง มีส่วนร่วมทั้งเกมรุกและเกมรับ ถูกเปลี่ยนตัวออก
อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ – 8
มีส่วนร่วมกับประตูแรก ด้วยการจ่ายบอลออกข้าง คอยตัดเกม และเชื่อมเกมรุกได้ดี วิ่งขึ้นหน้าและจบสกอร์ด้วยตัวเองอย่างเฉียบคมเป็นประตูที่สองของทีม ก่อนถูกเปลี่ยนตัวออก

โมฮาเหม็ด ซาลาห์ – 8
เกือบได้จุดโทษในช่วงต้นเกม ส่วนครึ่งหลังเริ่มเล่นงาน ลูวิส ฮอลล์ แบ็คซ้ายของนิวคาสเซิลได้มากขึ้น แอสซิสต์ให้ แม็ค อัลลิสเตอร์ ยิงประตูที่สอง และเกือบสร้างโอกาสได้อีกหลายครั้ง ก่อนจะถูกเซฟในช่วงท้ายเกม


โดมินิค โซโบสซ์ไล – 9
- พลังงานล้นเหลือ “วิ่งพล่านทั่วสนาม” อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมและยิงประตูขึ้นนำให้กับทีม มีส่วนร่วมกับเกมตลอด แย่งบอลคืนได้หลายครั้ง ฟอร์มยอดเยี่ยมขนาดที่ เว็บไซต์ whoscored.com ยกเป็นแมน ออฟ เดอะแมตช์ ด้วยเรตติ้ง 8.70 คะแนน

หลุยส์ ดิอาซ – 8
- วูบวาบตั้งแต่เริ่มเกม แอสซิสต์ให้ โซบอสซ์ไลยิงประตูแรก สร้างความหวาดหวั่นให้กับแนวรับนิวคาสเซิลด้วยการลากเลื้อย อีกทั้งยังเกือบยิงประตูได้ ก่อนที่ในครึ่งหลังถูกเปลี่ยนตัวออก
ดิโอโก้ โชต้า – 6
สร้างโอกาสให้ โซโบสซ์ไล ก่อนจบครึ่งแรก แต่ยังไม่สามารถเก็บบอลได้ดีนัก อย่างไรก็ดีรวมๆ ถือว่าอันตรายมากขึ้น โดยเฉพาะจังหวะสอดทะลุจากแดนกลาง กระทั่งถูกเปลี่ยนตัวออก
ขอบคุณคลิป : @TrueVisionsOfficial.
ตัดเกรดบรรดา 4 ตัวสำรอง กัคโป-เอ็นโด-ควอนซาห์-โจนส์
โคดี้ กัคโป (ลงแทน ดิโอโก้ โชต้า นาทีที่ 62) 6 คะแนน : ลงมาวาดลวดลายเงียบๆ ทางปีกซ้าย มีเพียงจังหวะยิงลูกจักรยานอากาศในช่วงท้ายเกมที่หวุดหวิดเท่านั้น
วาตารุ เอ็นโด (ลงแทน ไรอัน กราเวนเบิร์ช นาทีที่ 77) 7 คะแนน : สร้างเสียงเชียร์จากแฟนๆ ได้ด้วยการเข้าปะทะที่หนักแน่น
จาเรลล์ ควอนซาห์ (ลงแทน เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ นาทีที่ 77) 6 คะแนน : ลงมาทำหน้าที่แบ็คขวาได้ตามมาตรฐาน
เคอร์ติส โจนส์ (ลงแทน อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ นาทีที่ 87): เนื่องจากเวลาที่เหลือน้อยเกินไป จึงไม่มีการให้คะแนน.



“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ภายใต้ฝีมือ “อาร์เน่ สล็อต” โอกาสทำลายสถิติพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้
แชมป์เร็วสุด?
- ลิเวอร์พูลคงต้องลุ้นเหนื่อย หากหวังจะทาบสถิติคว้าแชมป์เร็วสุดของตัวเอง ที่เคยทำไว้ในฤดูกาล 2019-20 ด้วยการคว้าแชมป์ก่อนจบฤดูกาล 7 นัด
- การทาบสถิติของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (2000-01) และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (2017-18) ที่คว้าแชมป์ก่อนจบฤดูกาล 5 นัด ดูจะเป็นเป้าหมายที่เป็นไปได้มากกว่า
- ส่วนสถิติคว้าแชมป์เร็วสุดตลอดกาลของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (1999-2000 และ 2012-13) และ อาร์เซนอล (2003-04) ที่ 4 นัดก่อนจบฤดูกาล คงต้องลุ้นหนักหน่อย
- สำหรับวันที่คว้าแชมป์เร็วที่สุด คือ 14 เมษายน 2001 โดย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลิเวอร์พูลต้องทิ้งห่าง อาร์เซนอล ให้ได้มากกว่านี้ หากหวังจะทำลายสถิตินี้
ที่แน่ๆ หากลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ในปีนี้ พวกเขาจะทำได้เร็วกว่าแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งล่าสุดของพวกเขาเอง ที่เกิดขึ้นในวันที่ 25 มิถุนายน 2020 ในฤดูกาลที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19
ชนะขาดลอยที่สุด
ปัจจุบันลูกทีมของสล็อต ต้องโกยแต้มทิ้งห่างจ่าฝูงเพิ่มอีก 7 แต้ม จึงจะทำลายสถิติชนะขาดลอยที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก
ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ครองสถิตินี้ไว้ด้วยการทิ้งห่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถึง 19 แต้ม ในฤดูกาล 2017-18 พร้อมกับคว้าแชมป์ด้วยคะแนนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 100 แต้ม
อย่างไรก็ดี ลิเวอร์พูลมีโอกาสเก็บแต้มสูงสุดได้ 97 แต้มในฤดูกาลนี้.
ที่มา : BBC, Liverpool Echo




อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ลิเวอร์พูล พบ นิวคาสเซิ่ล ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 2024/25 พร้อมช่องถ่ายทอดสด 26 ก.พ. 67
- สื่ออังกฤษเผย 1 สตาร์ดังลิเวอร์พูล อาจไม่ได้เหรียญแชมป์พรีเมียร์ลีก
- (คลิปไฮไลท์) เฮ7นัดรวด หงส์แดงเปิดรังเฉือนลีลล์ การันตีเข้ารอบ ชปล.