ผู้เชี่ยวชาญอเมริกาชี้ “ปลานี้ดีที่สุดในโลก” เหนือกว่าปลาแซลมอน บังเอิญไทยเราก็มี!
ปลาเป็นอาหารแคลอรี่ต่ำ โปรตีนสูง อุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย สมาคมโรคหัวใจแห่งอเมริกาและแนวทางการบริโภคอาหารสำหรับชาวอเมริกัน แนะนำให้ผู้ใหญ่บริโภคอาหารทะเล (รวมถึงปลา) สัปดาห์ละสองส่วน แต่ประมาณ 90% ของชาวอเมริกันยังทำตามเป้าหมายนี้ไม่ได้
มีตัวเลือกมากมายหากคุณต้องการทานอาหารทะเลให้มากขึ้น แต่มีปลาชนิดหนึ่งที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการเป็นพิเศษ ที่คุณควรพิจารณาเพิ่มเข้าไปในเมนู นั่นก็คือ ปลาซาร์ดีน
ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการชาวอเมริกัน ซาแมนท่า คาเซตที่ กล่าวว่า ปลาซาร์ดีนเป็นปลาที่ดีที่สุดในโลกที่ควรมีอยู่ในอาหารของคุณ ปลาซาร์ดีนกระป๋องคือดาวเด่นแห่งโลกอาหารทะเล ด้วยราคาที่ไม่แพง เก็บรักษาง่าย ทั้งคุณค่าทางโภชนาการสูง นี่คือเหตุผลว่าทำไมพวกมันถึงครองตำแหน่งสูงสุด”
ปลาซาร์ดีนเป็นปลาที่คุ้นเคยกับคนไทย ปลาซาร์ดีนอาศัยอยู่ในทะเลและน้ำกร่อยบริเวณปากแม่น้ำ ในประเทศไทย ปลาซาร์ดีนมักจะถูกนำมาปรุงเป็นเมนูต่างๆ เช่น แกงส้มปลาซาร์ดีนกับผักบุ้ง ปลาซาร์ดีนทอด ปลาซาร์ดีนต้มขมิ้น หรือลูกชิ้นปลาทอดกรอบ
ประโยชน์ของปลาซาร์ดีน
ปลาขนาดเล็กเหล่านี้อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 จากทะเล ซึ่งเป็นไขมันที่ขึ้นชื่อในเรื่องฤทธิ์ต้านการอักเสบ และช่วยส่งเสริมสุขภาพสมอง หัวใจ และระบบเผาผลาญ โอเมก้า 3 ยังสามารถป้องกันภาวะซึมเศร้าได้อีกด้วย ปลาซาร์ดีนกระป๋องมีสารอาหารทรงพลังเหล่านี้มากกว่าปลาแซลมอนเสียอีก
ตามข้อมูลจากเว็บไซต์สุขภาพ Web MD ของสหรัฐอเมริกา การศึกษาจากฮาร์วาร์ด พบว่า เพียงแค่บริโภคปลาซาร์ดีนสัปดาห์ละหนึ่งถึงสองส่วน ก็จะได้รับกรดไขมันโอเมก้า 3 เพียงพอที่จะลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจได้มากกว่า 33%
นอกจากนี้ โพแทสเซียม แมกนีเซียม และสังกะสี ในปลาซาร์ดีน สามารถช่วยลดความดันโลหิต และปรับปรุงระดับไขมันในเลือดได้อีกด้วย
นอกเหนือจากปริมาณโอเมก้า 3 แล้ว ปลาซาร์ดีนยังเป็นแหล่งแคลเซียมที่ดีที่สุดแหล่งหนึ่งในอาหารอีกด้วย ผู้เชี่ยวชาญ Samantha เขียนว่า: “ปลาซาร์ดีนกระป๋องหนึ่งกล่องให้ปริมาณแคลเซียมเทียบเท่ากับนมหนึ่งแก้ว นอกจากนี้ ปลาซาร์ดีนยังอุดมไปด้วยวิตามินดีจากธรรมชาติ ซึ่งเป็นสารอาหารที่ไม่เพียงแต่ช่วยในการดูดซึมแคลเซียมเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันและสุขภาพกระดูกอีกด้วย”
ยิ่งไปกว่านั้น ปลาทุกชนิด รวมถึงปลาซาร์ดีน ดีต่อสุขภาพดวงตา มีหลักฐานบางอย่างบ่งชี้ว่า กรดไขมันโอเมก้า 3 ในปลาซาร์ดีนและอาหารอื่นๆ สามารถลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเกี่ยวกับดวงตา รวมถึงจอประสาทตาเสื่อม นอกจากนี้ยังสามารถช่วยบรรเทาอาการตาแห้งได้อีกด้วย
ปลาชนิดนี้ยังสามารถช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ดีขึ้นได้อีกด้วย งานวิจัยชิ้นหนึ่งในปี 2021 ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Clinical Nutrition พบว่า ผู้ที่มีภาวะก่อนเป็นเบาหวานมีความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และโรคหัวใจลดลง เมื่อพวกเขานำปลาซาร์ดีนมาใส่ในอาหารของพวกเขาสองครั้งต่อสัปดาห์
สุดท้ายนี้ ปลาซาร์ดีนมีสารอาหารมากมายที่สามารถช่วยลดการอักเสบหรือภาวะเครียดจากออกซิเดชันในโรคหัวใจหรือภาวะอื่นๆ สารอาหารที่มีผลกระทบนี้ ได้แก่ แคลเซียม โพแทสเซียม แมกนีเซียม สังกะสี เหล็ก ทอรีน อาร์จินีน…
ซาแมนท่า กล่าวเสริมว่า ปลาซาร์ดีนมีรสชาติเข้มข้น ดังนั้นคุณอาจต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินของคุณ เมื่อเพิ่มปลาชนิดนี้เข้าไปในอาหาร หากคุณเพิ่งเริ่มกินปลาซาร์ดีน ลองนำพวกมันมาผสมผสานในมื้ออาหาร แทนที่จะกินเดี่ยวๆ แนวทางในการอร่อยกับปลาซาร์ดีน มีดังนี้
บดปลาซาร์ดีน แล้วผสมกับอะโวคาโด เพื่อทำซอสทาขนมปัง
กินปลาซาร์ดีนกับพาสต้า ผัดกับกระเทียมและน้ำมันมะกอก
ทอดปลาซาร์ดีน เสิร์ฟคู่กับมะนาวสดและสมุนไพร เพื่อสร้างสมดุลของรสชาติ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ปลาแองเกลอร์ ปลาน่ากลัวน้ำลึก โผล่ขึ้นผิวน้ำครั้งแรก หวั่นสัญญาณเตือนภัยธรรมชาติ
- นักวิจัยเผย โสดนานเกินไป อันตราย ร่างกายสร้างโปรตีนพิษ 5 ชนิด ทำลายสุขภา
- เตือนแล้วนะ “เนื้อไก่” 4 ส่วนนี้ สกปรกที่สุด ไม่ควรกิน ปรสิตเยอะ
ข่าวล่าสุด
ข่าวต่างประเทศ พ่อลืมปืนในรถ หนูน้อย 4 ขวบ คว้ายิงขมับดับ สยองมื้ออาหารเย็นร้านพิซซ่า
ข่าว จู่ๆ ช็อกทั้งคัน ลุงวัย 51 นั่งรถทัวร์มาดีๆ ปลุกไม่ตื่น คนขับเจอตัวแข็งไปแล้ว
