ปลดฟ้าผ่า! Starbucks เลิกจ้างพนักงานกว่าพันตำแหน่งทั่วโลก หวังปรับโครงสร้างองค์กร เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานแบบรัดกุม หลังยอดขายลด 2% ในปีที่ผ่านมา
กลายเป็นข่าวใหญ่สะเทือนวงการ เมื่อบริษัทสตาร์บัคส์ (Starbucks) ร้านกาแฟแบรนด์ดัง ประกาศปลดพนักงาน 1,100 คนทั่วโลก โดย ไบรอัน นิคโคล (Brian Niccol) ประธานและ CEO คนใหม่ของสตาร์บัคส์ กล่าวถึงวัตถุประสงค์ที่เลิกจ้างพนักงานในครั้งนี้ไว้ว่า เป็นไปเพื่อ ‘ปรับโครงสร้างองค์กร‘ ให้ดียิ่งขึ้น และแก้ไขปัญหายอดขายที่ตกต่ำลงจากปีที่แล้ว
สื่อต่างประเทศรายงานว่า ผู้บริหารสตาร์บัคส์แจ้งข่าวร้ายแก่พนักงานผ่านจดหมายเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (24 กุมภาพันธ์ 2568) ระบุว่า “เราต้องการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพิ่มความรับผิดชอบ ลดความซับซ้อน และผลักดันการทำงานอย่างเป็นระบบที่ดีขึ้น”
ทั้งนี้ พนักงานที่จะถูกเลิกจ้าง จะได้รับข้อความยืนยันอย่างเป็นทางการภายในวันอังคาร ซึ่งนอกจากการเลิกจ้างพนักงานในองค์กรกว่าพันคนแล้ว Starbucks ยังวางแผนยกเลิกตำแหน่งงานที่ว่างอยู่ และยังไม่ได้บรรจุคนเข้ามาอีกหลายร้อยตำแหน่งด้วย
บริษัทของสตาร์บัคส์มีพนักงานกว่า 16,000 คนทั่วโลก การสั่งปลดพนักงานครั้งนี้ทำให้จำนวนลูกจ้างที่หายไปคิดเป็น 7 เปอร์เซ็นต์ของพนักงานทั้งหมด แต่ก็ยังมีพนักงานจำนวนมากที่ไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ โดยเฉพาะผู้ที่ทำหน้าที่คั่วกาแฟ บาริสต้า และพนักงานคลังสินค้า
นอกจากนี้ นิคโคลยังเคยกล่าวไว้ในเดือนมกราคมว่า จะมีการประกาศปลดพนักงานในฝ่ายอื่นด้วย ซึ่งจะเริ่มประกาศภายในช่วงต้นเดือนมีนาคม โดยให้เหตุผลที่ใกล้เคียงกัน ว่าเป็นไปเพื่อลดความซับซ้อนของโครงสร้าง หลังจากมีรายงานยอดขายจากร้านค้าทั่วโลกที่ลดลง 4 เปอร์เซ็นต์ในปี 2024 (สิ้นสุดในวันที่ 29 ธันวาคม 2567)
“ขนาดและโครงสร้างของเราอาจทำให้เราทำงานได้ช้าลง เนื่องจากมีระดับชั้นมากเกินไป ทั้งผู้จัดการที่ดูแลทีมเล็ก ๆ ซึ่งมีบทบาทส่วนใหญ่ เน้นไปที่การประสานงานเท่านั้น”
เมื่อฤดูใบไม้ร่วงที่ผ่านมา ไบรอัน นิคโคล ถูกทาบทามให้เข้ามาบริหารสตาร์บัคส์ เพื่อแก้ปัญหายอดขายที่ซบเซาลงอย่างเห็นได้ชัด เขารับคำและระบุว่าต้องการปรับปรุงเวลาในการให้บริการ โดยเฉพาะในช่วงเช้า และจะวางแผนทำให้ร้านกาแฟแห่งนี้ กลับมาเป็นศูนย์รวมของผู้คนในชุมชนอีกครั้ง
อีกทั้งเขายังสั่งให้ตัดบางเมนูออกจากรายการ และทดลองปรับอัลกอริทึ่มเกี่ยวกับการสั่งซื้อ เพื่อจัดการกับคำสั่งซื้อจากมือถือ และระบบไดรฟ์ทรู รวมถึงร้านในแต่ละสาขาให้ดียิ่งขึ้นด้วย
มีรายงานเกี่ยวกับปัญหาของร้าน Starbucks ในสหรัฐอเมริกา ระบุว่าลูกค้าเริ่มเบื่อหน่ายกับการขึ้นราคา และระยะเวลาในการรอคิวที่นานเกินไป ส่วนในจีนซึ่งเป็นตลาดใหญ่อันดับสองของสตาร์บัคส์ ต้องเผชิญกับการแข่งขันในตลาดที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะคู่แข่งร้านกาแฟที่ขายในราคาถูกกว่า
อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการณ์ล่าสุดในปี 2025 พบว่าบริษัทมียอดขายสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ หลังจากนิคโคลได้เข้ามาบริหารส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในหลายด้าน เช่น ไอเดียการไม่คิดเงินเพิ่ม สำหรับการเปลี่ยนนมเป็นชนิดอื่นที่ไม่ใช่นมวัว เป็นต้น ทำให้สามารถดึงดูดใจลูกค้ากลับมาใช้บริการได้อีกครั้ง.
อ้างอิง : msn.com
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- จีน ปลดแบน เกาหลีใต้ เตรียมรับ K-Content หลังแบนนาน 8 ปี เซ่นปม THAAD
- พนง.พันคน รับหนังสือเลิกจ้าง หลังโรงงานดังยุติผลิตรถยนต์ ปลายปีนี้
- ธนาธร ไม่แปลกใจเศรษฐกิจซบเซา รัฐใช้จ่ายเพื่อการลงทุนไปเพียง 58%
ข่าวล่าสุด
