เฉลยแล้ว หลุมดำปริศนาน่ากลัว กลางแปซิฟิก เห็นบนกูเกิลแม็ป คืออะไร

ไขสงสัย ‘หลุมดำปริศนา’ กลางมหาสมุทรแปซิฟิก ที่ปรากฏให้เห็นบนในกูเกิลแม็พ แท้จริงคืออะไร หลุมใต้พิภพ หรือ ฐานทัพลับสุดยอด
หลาย ๆ คนคงจะยังจำกันได้ กับจากภาพถ่ายดาวเทียม Google Maps ปี 2021 ที่ปรากฏภาพรูปทรงสามเหลี่ยมสีดำสนิทกลางมหาสมุทรแปซิฟิก โดยทันทีที่ภาพนี้ถูกเผยแพร่ออกไป วัตถุลึกลับดังกล่าวถูกเรียกแทนว่า “หลุมดำ” ก่อนจะนำไปสู่การเกิดขึ้นของข่าวลือสุดพิสดารบนโลกออนไลน์
ภาพถ่ายดาวเทียมนี้ ถูกแชร์ครั้งแรกบนเว็บไซต์ Reddit และแม้ว่าคำบรรยายภาพจะระบุว่าเป็น “เกาะ” แต่ความคิดเห็นเชิงคาดเดาต่าง ๆ ก็หลั่งไหลเข้ามามากมาย จนกระทั่งสื่อแท็บลอยด์หลายสำนักนำไปตีข่าว ไอเดียสุดแปลกเหล่านั้นมีตั้งแต่ หลุมลึกใต้พิภพ ไปจนถึง ฐานทัพทหารลับสุดยอด ที่ถูกจงใจเบลอภาพ
ล่าสุด ปริศนาเหล่านั้นก็ได้รับการไขกระจ่างแล้วในที่สุด โดยความจริงได้ปรากฏว่า สิ่งที่เห็นนั้นไม่ใช่หลุมดำ แต่เป็น เกาะร้าง แห่งหนึ่งที่ปกคลุมไปด้วย ป่าไม้หนาทึบ ทั้งยังมีการออกมายืนยันอย่างเป็นทางการเพิ่มเติมด้วยว่า แท้จริงแล้วคือ “เกาะโวสตอก” (Vostok Island) หนึ่งใน 33 เกาะที่เป็นส่วนประกอบของสาธารณรัฐคิริบาสในมหาสมุทรแปซิฟิกใต้
อ้างอิงจากรายงานของสำนักข่าว BBC ระบุไว้ว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นเกาะปะการัง ที่มีพื้นที่ราว ๆ 0.1 ตารางไมล์ หรือ 0.25 ตารางกิโลเมตร โดยตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่งประเทศออสเตรเลียไปทางทิศตะวันออกประมาณ 4,000 ไมล์ (ประมาณ 6,400 กิโลเมตร)
และสีดำสนิทที่ปรากฏในกูเกลแม็พก็เป็นเพราะ ต้นปิโซเนีย (Pisonia trees) ที่ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่นทั่วทั้งเกาะ จนแทบจะปกคลุมพื้นที่ภายในเกาะทั้งหมด ต้นไม้เหล่านี้มีสีเขียวเข้ม แต่เมื่อขึ้นรวมกันอย่างหนาแน่น จึงดูมืดทึบอย่างยิ่งเมื่อมองจากวงโคจรระดับต่ำของโลก
ต้นปิโซเนียนั้นเติบโตขึ้นหนาแน่นและใกล้ชิดกันมาก ขนาดที่ว่าพืชชนิดอื่นไม่สามารถเติบโตไปท่ามกลางพวกมันได้ เนื่องจากพวกมันบดบังแสงแดดจนหมดสิ้น
ทั้งนี้ นักสำรวจชาวรัสเซียได้ค้นพบเกาะโวสตอกในปี 1820 เกาะแห่งนี้ไม่เคยมีร่องรอยของการอยู่อาศัยของมนุษย์มาก่อน จากบทความหนึ่งในนิตยสาร Pacific Islands Monthly เมื่อปี 1966 ได้ระบุว่า นับตั้งแต่นั้น จวบจนปัจจุบันก็ไม่เคยมีผู้อยู่อาศัยถาวรบนเกาะนั้น ซึ่งคาดว่าสาเหตุหลักน่าจะเป็นเพราะบนเกาะไม่มีแหล่งน้ำจืดที่พอจะดำรงชีวิตอยู่ได้
ข้อมูลจาก livescience
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ฮือฮา ค้นพบ หลุมดำยักษ์ ใหญ่สุดเท่าที่เคยเจอ มวลเท่าดวงอาทิตย์ 30 พันล้านดวง
- เผยภาพ ‘หลุมดำ’ ใจกลางทางช้างเผือก ครั้งแรกในประวัติศาสตร์
- ภาพถ่าย “หลุมดำ” ภาพแรกของประวัติศาสตร์มวลมนุษยชาติ