เกินไปไหม แม่ร้องสื่อ ลูกชายป.3 หูอักเสบ ครูทำโทษ ให้เพื่อนหยิกหูจนกว่าจะร้อง
แม่ร้องสื่อ ลูกชายป.3 หูอักเสบ หลังถูกครูทำโทษ ให้สลับกันหยิกหูกับเพื่อนจนกว่าจะร้อง ยืนยัน เอาผิดถึงที่สุด ฐานทำเกินกว่าเหตุ
เมื่อประมาณวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพ เด็กชายมีใบหูเขียวช้ำทั้งสองข้าง พร้อมระบุแคปชั่นประกอบว่า “ณ โรงเรียนแห่งหนึ่งในหางดง สั่งสอนเด็กด้วยการชี้แนะให้เด็กทำร้ายร่างกายกันเอง ซึ่งเป็นเด็กผู้หญิงกับเด็กผู้ชาย ให้ดึงหูกันถ้าไม่ร้องห้ามหยุด”
ผู้เป็นแม่เล่าว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา ลูกชายของตนเรียนอยู่ชั้นป.3 ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ในอ.หางดง จ.เชียงใหม่ เพิ่งกลับมาจากการไปทัศนศึกษา เมื่อมาถึงบ้านคนในครอบครัวสังเกตเห็นความผิดปกติของใบหู แดงเป็นเลือด จึงได้พยายามเค้นถามแต่ก็ไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน จึงตัดสินใจถามครูประจำชั้น และได้ทราบว่าครูผู้ชายที่ดูแลตอนไปทัศนศึกษาสั่งทำโทษให้ผลัดกันหยิกหูกับเด็กหญิงคู่กรณีจนกว่าคนใดคนหนึ่งจะร้อง เพราะลูกชายไปขู่เอาเงินจากเพื่อน
ด้าน ครูผู้ชาย ได้ติดต่อกลับมาพูดคุยกับแม่ของเด็ก พร้อมอธิบายวา “ครูให้เด็กหยิกหูกัน 10 ครั้ง ถ้าใครไม่ร้องไม่ให้หยุด ดังนั้นน้องผู้หญิงจึงหยิกหูลูกตนอย่างแรงเพื่อให้ร้องครูถึงจะหยุดทำโทษ”
แม่ของเด็กป.3 รู้สึกว่าการลงโทษเด็กนักเรียนแบบนี้มันเกินกว่าเหตุไปมาก หลังจากนั้นจึงพาลูกชายไปตรวจร่างกาย แพทย์วินิจฉัยว่า “หูอักเสบ” ก่อนจะพาไปแจ้งความกับเจ้าหน้าตำรวจที่ สภ.หางดง เพื่อเอาผิดครูผู้ชายคนดังกล่าว
ทั้งนี้แม่ของเด็กชายป.3 ก็ยังได้มีการอัปเดตเพิ่มเติมเรื่อย ๆ ว่า มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งติดต่อมาให้ลบโพสต์ก่อนหน้านี้ แต่แม่เลือกที่จะไม่ลบ เพราะหลังจากโพสต์ไปแล้วจึงได้ทราบว่ามีเด็กคนอื่น ๆ ที่ถูกกระทำคล้าย ๆ กันในที่แห่งเดียวกัน แต่ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ทาง ผอ.โรงเรียนที่เกิดเหตุได้มีการติดต่อมาให้เข้าไปพูดคุยกันที่โรงเรียนในวันจันทร์ที่จะถึงนี้
นอกจากนั้นแม่เด็กป.3 ก็ได้โพสต์ภาพใบหูของลูกชายหลังจากผ่านมา 3 วัน ใบหูของน้องยังคงมีอาการบวม ช้ำจนเป็นสีม่วง และมีรอยแผลอยู่
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- แฉครู ร.ร.ย่านปทุมฯ ไล่เด็กลาออก เพราะเขียนอ.อ่าง ไม่ได้ ก่อนเหยียดอาชีพแม่ค้า
- ฝ่ายปกครอง รร.ดัง ทำโทษโหด ใช้ไม้เรียวตีมือนร.จนนิ้วแตก-เข้าเฝือก
- ทำโทษเด็ก ‘ครูตบนักเรียน’ ผิดกฎหมายไหม วิธีฟ้องร้องเอาผิดครูทำเกินกว่าเหตุ
อ้างอิงจาก : FB ธนัญชนก ธัญญะผล, Thananchanok Thanyapho