“ทักษิณ” ฟ้องเอาผิด จับมือดีตัดต่อภาพทำเสียชื่อ สารภาพทำไปเพราะเห็นต่าง
ทักษิณ ฟ้องเอาผิด มือดีตัดต่อภาพก่อนอัพลงเฟซบุ๊กทำเสียชื่อ เจ้าตัวสารภาพทำไปเพราะเห็นต่างทางการเมือง ทำมาแล้วมากกว่า 2 ปี
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องนำกำลังบุกค้นและเข้าจับกุม นายนิรุติ ระไวสมาน อายุ 51 ปี บ้านหลังหนึ่งใน ต.ท่าทราย อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร พร้อมยึดของกลางเป็น ยึดของกลางโทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง, เครื่องแท็บเล็ต จำนวน 1 เครื่อง ซึ่งได้ลงชื่อเข้าใช้บัญชีแพลตฟอร์มเฟซบุ๊ก ที่มีการตัดต่อ ดัดแปลงและเผยแพร่ภาพถ่าย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ค้างอยู่
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก ฝ่ายกฎหมายของ นายทักษิณ ได้ตรวจพบบัญชีผู้ใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ แพลตฟอร์มเฟซบุ๊ก ที่ปรากฏภาพถ่าย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี น.ส.แพรทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และบุคคลผู้มีชื่อเสียงหลายคน ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ บางภาพถูกตัดต่อ ดัดแปลง ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ และพิมพ์ข้อความโดยรู้อยู่แล้วว่าไม่เป็นความจริงเพิ่มเติมลงในภาพดังกล่าว มีเจตนาทำให้เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชังและได้รับความอับอาย
โดยนำภาพที่ถูกตัดต่อดัดแปลงเหล่านั้นไปโพสต์ให้แพร่หลายผ่านแพลตฟอร์มเฟซบุ๊ก ที่เปิดแพร่หลายเป็นสาธารณะ บุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ และให้มีการแชร์ส่งต่อๆ กันไป โพสต์ซ้ำหลายครั้งต่อเนื่องเรื่อยมา ประชาชนทั่วไปผู้พบเห็นเกิดความเข้าใจผิด สร้างความเกลียดชัง เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย นายทักษิณ จึงได้มอบอำนาจให้ทนายความนำหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ขอให้ดำเนินคดีกับเพจเฟซบุ๊กดังกล่าว
ต่อมาชุดสืบสวนได้ทำการตรวจสอบจนทราบว่า ผู้ก่อเหตุ คือ นายนิรุติ ระไวสมาน จึงนำกำลังเข้าตรวจค้นและตรวจสอบ โดยจากการตรวจสอบภายในห้องพักปรากฎภาพของกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคประชาชน แปะอยู่ตามผนังห้อง อีกทั้งพบหลักฐานเป็นภาพตัดต่อใส่ร้ายข้อความอันเป็นเท็จจำนวนมากในคอมพิวเตอร์ จึงทำการจับกุม
จากการสอบปากคำนายนิรุติ รับสารภาพว่า เป็นเจ้าเพจเฟซบุ๊กลมเปลี่ยนทิศ ที่มีการตัดต่อ ดัดแปลง ภาพของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร และบุคคลผู้มีชื่อเสียงทางการเมืองในอดีตอีกหลายคนจริง โดยเป็นผู้ลงมือตัดต่อดัดแปลงและโพสต์ภาพด้วยตนเอง ผ่านโทรศัพท์มือถือและเครื่องแท็บเล็ตของกลาง และยังเป็นเจ้าของบัญชีผู้ใช้งานแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์อีกหลายแพลตฟอร์มที่มีการโพสต์ภาพในลักษณะนี้ โดยทำไปเพราะความเห็นต่างการเมือง และได้ทำมานานกว่า 2 ปีแล้ว
เบื้องต้นจึงแจ้งข้อหานําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่ปรากฏเป็นภาพของผู้อื่นและภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติม หรือดัดแปลง ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด โดยประการที่น่าจะทําให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสามปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท”มาตรา 16 แห่ง พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560 ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ทักษิณ เร่งบี้ค่าไฟเหลือ 3.70 บาท เล็งเห็นช่องทาง และอาจลดได้ต่อเนื่อง
- แพทยสภา เผยกำลังพิจารณา ข้อมูลรักษาตัว ทักษิณ ตอนนี้ยังเป็นความลับ
- ทักษิณ อัด นิด้าโพล “มั่ว” บอกขึ้นช่วยหาเสียง ไม่มีผลกับการเลือก อบจ.