“ชวน” ซัด “ทักษิณ” เคยเตือนอย่ามองประเทศเป็นธุรกิจ ระวังไม่มีแผ่นดินอยู่
ชวน หลีกภัย ลั่นวาจาซัด “ทักษิณ” ชี้ตนเป็นนักการเมืองรุ่นไม่โกง เคยเตือนอีกฝั่งว่าอย่าทำประเทศเป็นธุรกิจตัวเอง ระวังจะไม่มีแผ่นดินอยู่
วันนี้ (9 ม.ค.) นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ระบุถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พูดบนเวทีปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งนายกอบจ.เชียงรายว่า “มีอยู่คนหนึ่งหาว่าเราสร้างความวุ่นวาย ตั้งแต่แพ้การเลือกตั้งเมื่อปี 2544 ก็แค้นจนถึงทุกวันนี้ เขตเลือกตั้งมี 450 คน เลือกเขาแค่ 47 คน แก่แล้วยังลงเลือกตั้งอยู่” ว่า สิ่งที่ตนพูดเป็นความจริง ไม่ได้ว่าใคร และต้องรักษาความเป็นประชาธิปไตย
ดังนั้นหลักที่จะอยู่ได้คือต้องไม่ละเมิดกฎหมาย ซึ่งรัฐบาลก็เป็นส่วนหนึ่งที่ต้องรักษาหลักนิติธรรมเอาไว้ ไม่เช่นนั้นความเป็นธรรมก็จะไม่เกิดขึ้น เนื่องจากคนที่ได้เปรียบคือคนที่ละเมิดกฎหมาย ตนจึงย้ำเสมอว่าอะไรที่ไม่ยึดหลักกฏหมาย เล่นพวก เหมือนสมัยนายเศรษฐา ทวีสิน ยังเป็นนายกฯ ที่ฝั่งรัฐบาลมีโอกาสเลือกระหว่างหลักนิติธรรมหรือเลือกพวก ซึ่งก็เป็นที่น่าเสียดายที่เลือกอย่างหลัง
ยกตัวอย่างกรณีชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ตนก็เป็นคนแรกที่เตือนหมอด้วยการส่งหนังสือถึงเลขาธิการแพทย์ เพราะต้องการปกป้องหมอ เนื่องจากเชื่อว่าจะมีการทำอะไรบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง เตือนว่าอย่าไปเซ็นรับรองหรือให้ความเห็น มิฉะนั้นอาจย้อนกลับมาเล่นงานตัวเองในวันข้างหน้า ซึ่งตอนนี้ก็กำลังมีปัญหาอยู่จริง ๆ
ต่อมาเลขาธิการแพทยสภาได้เข้ามาช่วยตรวจสอบเรื่องนี้ เนื่องจากมีคนร้องเรื่องนี้เหมือนกัน ซึ่งการที่ “ทักษิณ” ปราศรัยและพาดพิงตนว่าสูงอายุแล้วยังจะสมัครผู้แทนอยู่นั้น ขอชี้แจงว่าตนสมัครผู้แทนเมื่ออายุครบตามกำหนด-อายุน้อยที่สุดในสมัยนั้นก็คือตนกับนายอุทัย พิมพ์ใจชน แถมยังได้เป็นผู้แทนพร้อมกับนายเลิศ ชินวัตร อดีตนายกฯ ผู้เป็นพ่อของนายทักษิณอีกด้วย รวมถึงเหลือตนอยู่คนเดียวที่เป็นต่อเนื่องทุกสมัยมาจนถึงปัจจุบัน รวม 17 สมัย เนื่องจากไม่ได้เข้ามาเล่นการเมืองเพื่อธุรกิจ
อีกทั้งตนมีทางเลือกว่าจะสอบเป็นผู้พิพากษาหรืออัยการ โดยตนและเนติบัณฑิตในรุ่นมี 130 คน เกือบทั้งหมดเป็นผู้พิพากษา อัยการ ประธานศาลฎีกา และองคมนตรี แต่ตนเป็นคนเดียวที่มาเล่นการเมืองเพราะต้องการเป็นปากเสียงให้ชาวบ้าน ไม่ได้หวังผลส่วนตัวหรือธุรกิจหรือเอาประโยชน์ให้กับครอบครัวแต่อย่างใด
หลังได้เป็นต่อเนื่องเรื่อยมา ความคิดที่จะล้มเลิกเมื่ออายุมากนั้นจึงไม่มี เพราะคิดว่ายังทำงานให้กับประชาชนได้อยู่ แต่หากมาทำธุรกิจแล้วได้กำไรแล้วเลิกก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง อีกทั้งคนที่อายุมากที่สุดในสภาก็เป็นพลตำรวจโท วิโรจน์ เปาอินทร์ และ นายไพโรจน์ โล่สุนทร จากพรรคเพื่อไทยไม่ใช่ตน ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ที่น่าเคารพแม้จะทำงานไม่มากเท่าตนก็ตาม แต่ยังคงอยู่ในการเมือง
ถึงกระนั้น ตนยอมรับว่าอยู่มานานจริง คนรุ่นใหม่อาจมีความรู้ดีกว่าเรา แต่บางเรื่องก็ไม่ได้มีความพร้อมเทียบเท่า เช่นการที่นายทักษิณบอกว่าตัวเองเป็นคนรุ่นใหม่ ส่วนตนเป็นนักการเมืองรุ่นเก่า ซึ่งเป็นคือรุ่นไม่โกง ไม่ซื้อเสียง ยึดมั่นระบบรัฐสภาตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และยึดถือความซื่อสัตย์สุจริตของกฎหมายเป็นหลัก อีกทั้งปัญหาส่วนหนึ่งที่รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันหาทางออกไม่ได้เป็นเพราะผู้ที่ไม่นำพาหรือยำเกรงกฎหมายบ้านเมือง ทุจริตฉ้อฉล บิดเบือนอำนาจ ขาดความตระหนักสำนึกต่อประเทศชาติและประชาชน ทำให้การใช้กฎหมายไม่เป็นผล
นอกจากนี้ “ชวน” ระบุว่าได้มีโอกาสรวบรวมหนังสือเรื่องการต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรมให้ภาคใต้ ที่ถูกเลือกปฏิบัติ สมัยนายทักษิณ ยังเป็นนายกรัฐมนตรี ที่เคยกล่าวว่าจะให้งบประมาณเฉพาะจังหวัดที่เลือกพรรคไทยรักไทยก่อน จนมาถึงรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ยังพูดอีกว่า จังหวัดภูเก็ตขอห้องประชุมไม่ให้ จนกว่าจะเลือกพรรคเพื่อไทย ซึ่งตนเคยเสนอรัฐบาลนายเศรษฐา และรัฐบาลปัจจุบันว่าควรจะชดเชยให้คนใต้ อย่าไปคิดว่าคนที่เขาพูดเพราะอิจฉาริษยา
ขณะที่เหตุการณ์ความไม่สงบในภาคใต้กำลังบานปลายจากนโยบายรัฐบาลทักษิณนั้น ตนคิดว่าคนที่ต้องทำหน้าที่ปกป้อง-แก้ปัญหาคือนักการเมือง ซึ่งตนก็เป็นหนึ่งในนั้นที่พยายามอยู่ พร้อมหาทางชดเชยกับสิ่งที่เกิดขึ้นอีกด้วย
ทั้งนี้การที่ตนให้สัมภาษณ์ทั้งหมดทั้งมวลนี้นั้น ไม่ได้อาฆาตหรือคาดแค้น “ทักษิณ” แต่อย่างใด ซึ่งตนเคยพูดไว้เมื่อประมาณ 17- 18 ปีก่อนว่า หากท่านทำเหมือนประเทศเป็นธุรกิจตัวเอง ทำอะไรไม่ถูกต้อง ระวังจะไม่มีแผ่นดินอยู่ ซึ่งมันก็เป็นเรื่องจริง จนคนมาปิดทองตนและว่าวาจาสิทธิ์
อย่างไรก็ดี ในฐานะนักการเมือง ตนยังโชคดีที่ทำงานได้อยู่ วัยนี้ยังทำอะไรได้ ความจำยังอยู่ไม่ถึงขั้นเลอะเลือนหรือจำอดีตไม่ได้ อาจไม่ปราดเปรื่องเหมือนคนรุ่นใหม่แต่สิ่งที่รู้ในอดีตก็ยังจำได้ ส่วนตัวเชื่อว่าคนรุ่นใหม่หวังดี แต่ไม่รู้ข้อเท็จจริง ซึ่งตนรู้ในบางเรื่องที่คนอื่นไม่รู้และต้องมาถามตน เช่น กรณีภาคใต้ที่กองทัพไม่มีข้อมูล ตนจึงอยากให้ตำรวจที่เคยทำงานในภาคใต้สมัยรัฐบาลทักษิณออกมาให้ข้อมูล เพราะแทนที่จะทำให้เหตุการณ์สงบเรียบร้อยเหมือนที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงแก้
ทว่าตอนนี้กลับมีแต่การนองเลือด สูญเสีย จนไม่เป็นที่สนใจของสังคมแล้ว ตนจึงอยากเล่าให้ฟังว่าตนยังทำหน้าที่ปกป้องระบบรัฐสภาหลักนิติธรรมให้กฎหมายบ้านเมืองศักดิ์สิทธิ์ ถูกเป็นถูกผิดเป็นผิด
ส่วนคำถามว่าจะเล่นการเมืองไปอีกนานเท่าไหร่นั้น “ชวน” ระบุว่าถ้าความหากความจำเลอะเลือน เดินไม่ไหว ประชาชนคงไม่เลือก โดยที่ผ่านมาต้องขอบคุณชาวตรังที่เลือกตนถึง 11 สมัย รวมถึงเป็นหนี้บุญคุณคนทั้งประเทศที่ได้เป็น สส.บัญชีรายชื่อ 6 สมัย ดังนั้นเลือกตั้งครั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์ได้บัญชีรายชื่อมา 3 คน ก็ยังชี้ว่าแม้พรรคจะตกต่ำอย่างไรก็ยังมีคนเลือก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ทักษิณเคยแฉ ตึก 25 ชั้นปอยเปต แหล่งคอลเซ็นเตอร์ ที่เดียวคนไทยตกตึก
- ‘ชวน หลีกภัย’ งดออกเสียง ไม่โหวต ‘พิธา’ ขึ้นเป็นนายกฯ ตรงตามมติพรรค
- เทพไท ชูหัวใจ “ชวน หลีกภัย” พร้อมฝากถึงคนลงมติ 34 เสียง ผสมพันธุ์ระบอบทักษิณ