ข่าวการเมือง

ศาลยกฟ้อง รังสิมันต์ โรม หมิ่น สว.อุปกิต ชี้ทำหน้าที่ตามสิทธิ สส.

ศาลยกฟ้อง คดี สว.อุปกิต เรียก 20 ล้าน รังสิมันต์ โรม ปมหมิ่นประมาท ชี้เอี่ยวยาเสพติด ศาลระบุเป็นการทำหน้าที่ตรวจสอบตามสิทธิ สส.

เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 67 ศาลแพ่งนัดฟังคำพิพากษาคดีหมายเลขดําที่ พ.5365/2566 ที่นายอุปกิต ปาจรียางกูร อดีต สว. เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) จำเลย กล่าวหาในความผิดฐานละเมิด และเรียกค่าเสียหาย 20 ล้าน

Advertisements

อ้างอิงจากเอกสารคำฟ้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า จําเลยโพสต์ข้อความผ่านแอปพลิเคชันเฟซบุ๊กผ่านบัญชีผู้ใช้งานของจําเลย กล่าวหาว่าโจทก์เป็นผู้สมคบค้ายาเสพติด และขณะพ้นสมัยประชุมวุฒิสภาแล้ว ไม่ทราบว่าโจทก์เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหา กับพนักงานสอบสวนแล้วหรือยัง

การกระทําของจําเลยเป็นการจงใจกล่าวหาโจทก์ในลักษณะใส่ความด้วยข้อความเท็จซึ่งผิดต่อกฎหมายว่า โจทก์เป็นผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดที่ระบาดในสังคม ทําให้โจทก์ได้รับความเสียหายต่อชื่อเสียง ทําให้ถูกดูหมิ่นเกลียดชังจากบุคคลที่ได้ฟังคํากล่าวหาของจําเลย และเชื่อในสิ่งทีจําเลยพูดและเขียนว่าเป็นความจริงจําเลยจงใจกระทําละเมิด ต่อโจทก์โดยผิดกฎหมาย ขอให้บังคับจําเลยชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์เป็นเงิน 20ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปีของต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชําระเสร็จ

จําเลยให้การว่า จําเลยกระทําไปในฐานะ สส. ที่มีหน้าที่ตรวจสอบ การทํางานของนักการเมือง และหน่วยงานราชการ โดยมีเจตนาสุจริตและเพื่อประโยชน์สาธารณะ ไม่ได้กระทําละเมิด จึงไม่ต้องรับผิด ขอให้ยกฟ้อง ซึ่งศาลกําหนดประเด็นข้อพิพาทว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมหรือไม่ และการกระทําของจําเลยเป็นการละเมิดต่อโจทก์หรือไม่

ศาลสืบพยานหลักฐานโจทก์และจําเลยแล้ว คดีเสร็จการพิจารณาและนัดฟังคําพิพากษา มีคําพิพากษาสรุปได้ว่า เห็นว่า ในประเด็นแรก ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าคําฟ้องโจทก์มีรายละเอียดครบถ้วน โดยระบุข้อกล่าวหาว่าจําเลยเผยแพร่ ข้อความและกระทําการใดที่ส่งผลต่อโจทก์อย่างไร พร้อมแนบหลักฐานชัดเจน เช่น บันทึกถ้อยคําและโพสต์ในสื่อออนไลน์ คําฟ้องจึงไม่เคลือบคลุม ในประเด็นที่ว่าจําเลยกระทําละเมิดต่อโจทก์หรือไม่ แม้ข้อเท็จจริงจะรับฟังได้ว่า จําเลยกล่าวหาว่าโจทก์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และโพสต์ข้อความบนสื่อออนไลน์และให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน

อ้างข้อมูลจากเจ้าพนักงานตํารวจและเอกสารที่ชี้ว่าโจทก์มีความเกี่ยวข้องกับยาเสพติดและโจทก์ถูกแจ้งข้อหาในคดีอาญาเกี่ยวกับยาเสพติด อยู่ระหว่างการดําเนินคดี และจําเลยจะยืนยันข้อเท็จจริงว่า โจทก์ถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่เมื่อพิจารณาพฤติการณ์แล้ว ถือว่าจําเลยเชื่อโดยมีมูลอันควรเชื่อว่าเป็นความจริงเนื่องจากมีการดําเนินคดีอาญาแก่โจทก์ตามที่จําเลยได้พูดจริง และโจทก์ก็ยอมรับข้อเท็จจริงดังกล่าว

Advertisements

ประกอบกับโจทก์ขณะนั้นดํารงตําแหน่ง สว.ซึ่งเป็นตําแหน่งที่อยู่ในสายตาของสาธารณะ การวิพากษ์วิจารณ์การทํางานโดยสุจริต ย่อมเป็นเรื่องที่ประชาชนทัวไปสามารถกระทําได้ จําเลยกระทําในฐานะ สส.ที่มีสิทธิตรวจสอบการทํางานของ สว.และวิพากษ์วิจารณ์เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน จําเลยจึงมีความชอบธรรมที่จะเปิดเผยให้ประชาชนทราบถึงข้อเท็จจริง

เมื่อไม่ปรากฏว่าจําเลยกระทําการโดยไม่สุจริต หรือมีเจตนาชั่วร้าย ประกอบกับข้อความที่จําเลยกล่าวและเผยแพร่ มีมูลความจริง และสอดคล้องกับหลักฐานในคดีอาญาที่เกี่ยวข้อง โดยไม่ปรากฏหลักฐานว่า จําเลยมีเจตนากลั่นแกล้ง หรือใส่ร้ายโจทก์โดยไม่มีมูล การกระทําของจําเลยจึงเป็นการทําหน้าที่ สส.ติชมด้วยความเป็นธรรม อันเป็นวิสัยของ สส.พึงกระทํา และจําเลย กระทําไปด้วยความสุจริต มิใช่กระทําในเรื่องส่วนตัว การกระทําของจําเลยจึงไม่เป็นการทําละเมิดต่อโจทก์ เมื่อจําเลยไม่ได้กระทําละเมิดต่อโจทก์ โจทก์จึงไม่อาจเรียกค่าเสียหายจากจําเลยได้พิพากษายกฟ้อง

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Nateetorn S.

ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button