เจี๊ยบ อมรัตน์ เปิดศึกโซเชียล ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ซัดอย่าบ้าน้ำลาย เมาตำแหน่งองครักษ์พิทักษ์นายก ย้ำเหตุผลทก้าวไกลจำเป็นลบนโยบายแก้ 112 จากเว็บไซต์ ทำตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ก่อนฟาดคลิปคนเสื้อแดงตาสว่างหลังหลงเชื่อวาทะกรรมนักโต้วาทีมา 20 ปี
ถึงจะเป็นหน้าหนาวแต่อุณหภูมิการเมืองกลับร้อนสวนทางฤดูกาลก่อนสิ้นปี โดยเฉพาะตั้งแต่เกิดกรณี สนธิ ลิ้มทองกุล ออกปลุกปรกระแสม็อบใหญ่ผ่านปมเอ็มโอยู MOU 44 ซึ่งฟากฝั่งของเต้น ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ในฐานะตัวแทนที่ปรึกษาของนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร จำเป็นต้องออกมาปรามด้วยการวิเคราะห์สถานการณ์การเคลื่อนไหวของกลุ่มสนธิ โดยอ่านเกมของอดีตผู้นำม็อบเสื้อเหลืองว่ายังไม่เห็นสัญญาณของม็อบใหญ่
แถมยกเหตุผลใหฐ่หลักๆ ของการชุมนุมใหญ่ได้ต้องมีองค์ประกอบ 3 ประการนี้
ข้อแรกต้องมีพรรคการเมืองอย่างน้อย 1 พรรคร่วมขบวน
ข้อที่สองต้องมีความเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนต่างๆ ผนึกกำลังกัน
ข้อสามต้องมีความเคลื่อนไหวของคนการเมือง หรือคนที่มีเครือข่ายมีพลังทางการเมือง นั่งพูดคุยปรึกษาวางแผนเตรียมการ มีถึงขั้นติดต่อเครื่องเสียง ติดต่อเวที จัดเตรียมระบบเทคนิคขยายผลการชุมนุมออกไปสู่สาธารณะ
ต่อมาบนเฟซบุ๊กของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ยังโพสต์แสดงความเห็นร่ายยาวเกี่ยวกับ ความเห็นส่วนตัวที่เห็นด้วยกับร่างแก้ไขพ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหมของส.ส.พรรคเพื่อไทย แม้จะถูกอีกฝ่ายมองว่าต้องการลดทอนอำนาจของ “กองทัพ” ให้อยู่ภายใต้อำนาจ “ฝ่ายการเมือง” หรือไม่ โดยเฉพาะขั้นตอนการปรับโครงสร้างกลาโหมและมีการตั้งกฎเหล็กสกัดการเคลื่อนกำลังพลเพื่อต่อต้านการปฏิวัติ รัฐประหาร
อย่างไรก็ดีในโพสต์ใส่ความเห็นอย่างละเอียดยิบเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ปรากฏเนื้อหาช่วงหนึ่งทีคล้ายจะไปพาดพิง อดีตพรรคก้าวไกลเรื่องแก้กฏหมาย มาตรา 112 โดยข้อความจากโพสต์นายณัฐวุฒิ ระบุ “ผมคิดแบบนี้คงไม่มีใครเหมาว่าพูดกับชนชั้นนำเจ้าของใบอนุญาตที่ไหน ผมพูดกับประชาชนซึ่งมีสิทธิ์เห็นด้วยหรือเห็นต่าง ถ้าการพูดอะไรแบบนี้เป็นการพูดกับชนชั้นนำเสียหมด พรรคการเมืองหนึ่งที่ต้องคดีแก้ไข ม.112 ซึ่งผมแสดงจุดยืนไปแล้วว่าไม่เห็นด้วยทั้งการยุบพรรคและเล่นงานกันด้วยข้อหานี้ แต่พรรคนั้นลบนโยบายเรื่องนี้ออกจากเว็บไซต์และไม่มีการนำกลับมาอีกเลย ไม่รู้เป็นการพูดกับประชาชนหรือสื่อสารกับใคร”
ด้วยเหตุนี้ ต่อมาทาง อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล หรือ “เจี๊ยบ” อดีตสส.ก้าวไกลจึงรีบออกมาตอบกลับความเห็นดังกล่าวทันทีว่า “ไม่น่าเชื่อว่านักโต้วาทีอย่างณัฐวุฒิ ใสยเกื้อจะเมาตำแหน่งที่ปรึกษานายกจนลืมไปว่าเหตุผลที่ #พรรคก้าวไกล จำเป็นต้องลบนโยบายแก้ไขม.112 ออกจากเว็บไซต์เป็นการทำตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ก่อนตำหนิอีกฝ่ายแทนที่จะร่วมมือกันเร่งแก้รัฐธรรมนูญให้สำเร็จเพื่อจำกัดขอบเขตอำนาจศาล
”ที่เลือกเอาเรื่องแบบนี้มาพูดตีกินเนียน ๆ ไปวัน ๆ ก็แค่พอให้คุ้มค่าอาหารเม็ด ไม่ใช่แค่หมดราคาแต่น่าสมเพช ระยำ !“
นอกจากนี้ เจี๊ยบ อมรัตน์ ยังนำคลิปวิดีโอความยาว 1.43 นาที ซึ่งเป็นอดีตคนเสื้อแดงรายหนึ่งพูดถึงนายณัฐวุฒิ ทำนองว่า “อย่าบ้าน้ำลาย ตอนนี้สิ่งที่เคยเชื่อมา ปัจจุบันมีแต่ความเหลือเชื่อ ทั้งนี้โพสต์ของนางอมรัตน์ยังแท็กหาเฟซบุ๊กของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ พร้อมแฮชแท็ก #คนเสื้อแดง #ไอ้เต้น
ตัดภาพกลับมาที่ภาพใหญ่เกมอำนาจขั้วการเมืองส่อเดือดทะลุปรอทจริงเท็จแค่ไหน ล่าสุด วันนี้ (12 ธ.ค.) พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทยพร้อมด้วย วรชัย เหมะ อดีตสส.เพื่อไทย และอรรถชัย อนันตเมฆ หรือ “โด่ง” อดีตแกนนำ นปช.หรือกลุ่มคนเสื้อแดง แถลงถึงกรณีนายสนธิ ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีขอให้หยุดดำเนินการตาม MOU 2544 ระหว่างไทย-กัมพูชา
นายพร้อมพงศ์ กล่าวถึงข้อเรียกร้องของนายสนธินั้นบิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อหวังผลทางการเมือง เป็นการพยายามดิสเครดิตรัฐบาลและการที่นายสนธิให้เวลา 15 วันแล้วจะยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าศาลจะตัดสินว่าขัดหรือไม่ขัดรัฐธรรมนูย นายสนธิก็จะให้ยกเลิก MOU44 อยู่ดี ซึ่งเป็นการหาเรื่องกันชัดๆ ขอถามกลับว่าในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายสนธิเว้นวรรคหายไปไหน ทำไมรักชาติแบบเว้นวรรค
ทั้งนี้ ข้อเรียกร้องที่นายสนธิขอให้เปิดเวทีสาธารณะเพื่อดีเบตเรื่อง MOU44 ล่าสุดฝั่งของ 3 เกลอเพื่อไทยขอรับคำท้านายสนธิ โดยให้มาคุยกันว่า MOU44 ไม่ดีตรงไหนและจะอธิบายว่าดีอย่างไรด้วย.
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เจี๊ยบ อมรัตน์ เหน็บนายกฯ ปมสามีคนใต้ คำ ผกา ถามแรง มีผัวทุกภาคไม่ดียังไง
- สนธิ ยื่นหนังสือ ร้องนายกฯ ยกเลิก MOU 44 ไทย-กัมพูชา มวลชนหนุน บุกทำเนียบ
- นายกอิ๊งค์ รับอ่านหนังสือค้าน MOU 44 สนธิ แล้ว ปัดเปิดเวทีสาธารณะ
ข่าวล่าสุด
