จับตาใกล้ชิด แนวโน้มราคาบิทคอยน์ ร่วงเฉียด 3,071,475 บาท ส่งผลให้เกิดการล้างพอร์ตมูลค่ากว่า 36,399 ล้านบาท นักวิเคราะห์เตือนให้นักลงทุนเพิ่มความระมัดระวังจากความผันผวนในตลาดที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
รายงานจากกราฟเทรดสกุลเงินดิจิทัลล่าสุด เมื่อเช้าวันศุกร์ที่ 6 ธันวาคม 2567 เผยให้เห็นราคาซื้อ-ขาย บิทคอยน์ (Bitcoin) ร่วงลงอย่างรุนแรงเฉียดทะลุ 90,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3,071,475.28 บาทไทย หลังจากที่ทำสถิติราคาสูงสุดใหม่ได้ไม่ถึงวัน ส่งผลให้เกิดการล้างพอร์ตมูลค่ามหาศาล โดยราคาของ บิทคอยน์ ร่วงลงกว่า 6.3% ภายในเวลาเพียงแค่สามนาที จุดต่ำสุดอยู่ที่ $92,000 ก่อนที่จะดีดกลับขึ้นมาและรักษาระดับราคาไว้อยู่ในปัจจุบัน
จากการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วนี้ นักเทรดถูกล้างพอร์ตเป็นจำนวนกว่า 1.07 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3.4 หมื่นล้านบาท) ซึ่งกว่า 80% เป็นนักเทรดที่เปิด long position ส่วนนักเทรดที่เปิด ช็อต โพซิชั่น (short position) หรือ สถานะของผู้ขาย หรือเรียกว่า “ฐานะขาย” ก็เสียหายไปกว่า $285 ล้าน เช่นกัน ข้อมูลจาก CoinGlass ชี้ให้เห็นถึงความผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาดอย่างหนักหน่วง
นักวิเคราะห์ได้เตือนนักลงทุนให้เพิ่มความระมัดระวังในการเทรด โดยชี้ว่าไม่บ่อยนักที่ราคาสินทรัพย์จะเคลื่อนไหวเป็นเส้นตรง ควรหาจังหวะทำกำไรที่เหมาะสม ก่อนที่โอกาสทองจะหลุดมือไป ความผันผวนเช่นนี้เป็นสัญญาณของความไม่แน่นอนในตลาดที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
แนวโน้มของราคาบิทคอยน์ในอนาคต
จากการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญหลายคน ราคาบิตคอยน์ ยังมีโอกาสที่จะปรับขึ้นไปสูงกว่า 104,000 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นสถิติราคาล่าสุด และอาจสูงถึง 120,000 ดอลลาร์ ในช่วงบูลรัน (Bullrun) รอบนี้
อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์นี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ทั้งความเชื่อมั่นของนักลงทุน การสนับสนุนจากสถาบันการเงิน และสถานการณ์เศรษฐกิจโลก
การเคลื่อนไหวของราคาบิทคอยน์มีความสัมพันธ์กับปัจจัยเศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ช่วงที่ผ่านมาภาวะเงินเฟ้อในหลายประเทศยังคงสูงอยู่ แม้ธนาคารกลางหลายแห่งจะมีมาตรการดอกเบี้ยเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ แต่การลดความกังวลในตลาดก็ยังไม่เห็นผลชัดเจน
การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลเช่น Bitcoin จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในภาวะที่สินทรัพย์อื่นอาจมีความเสี่ยงสูงจากการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ย
ขณะเดียวกัน เศรษฐกิจไทย เองยังอยู่ในช่วงการฟื้นตัว แต่ยังไม่แข็งแกร่งเท่าที่ควร นักลงทุนชาวไทยที่สนใจ Bitcoin อาจได้รับผลกระทบจากความผันผวนของค่าเงินและเศรษฐกิจภายในประเทศ ซึ่งส่งผลต่อกำลังซื้อและการตัดสินใจลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล
บิทคอยน์คืออะไร?
Bitcoin (บิตคอยน์) คือ สกุลเงินดิจิทัลสกุลแรกของโลก ที่ทำงานบนเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) ซึ่งเป็นระบบฐานข้อมูลแบบกระจายศูนย์
อธิบายบิคอยน์ให้เข้าใจง่าย ๆ ลองนึกภาพแบบนี้ครับ สมมติว่าเรามีสมุดบัญชีเล่มใหญ่ ที่บันทึกธุรกรรมการเงินทั้งหมด โดยทุกคนสามารถเข้าถึงและดูข้อมูลในสมุดเล่มนี้ได้ ทุกครั้งที่มีการโอนเงิน ข้อมูลจะถูกบันทึกในสมุดของทุกคนพร้อมกัน และไม่สามารถแก้ไขหรือลบข้อมูลได้ นี่คือหลักการทำงานของบล็อกเชนแบบง่าย ๆ
สรุปแล้ว Bitcoin คือ สกุลเงินดิจิทัล ที่กำลังได้รับความนิยม และมีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงระบบการเงินของโลก แต่ก็มีความเสี่ยงที่ต้องระวัง ควรศึกษาข้อมูลให้เข้าใจก่อนตัดสินใจลงทุน
อ่านข่าวอื่น ๆ
- วิเคราะห์ปัจจัย ทำบิตคอยน์พุ่งทะลุ 3 ล้าน เทรดเดอร์ควรเตรียมตัว
- แนะนำ 5 กลยุทธ์การเทรดคริปโต ปี 2024 เพื่อกำไรที่ยั่งยืน
- ผู้สร้าง “บิตคอยน์” จะรวยขนาดไหน หากราคากลับไปจุดสูงสุดอีกครั้ง
อ้างอิง : Investing.com