ข่าวการเมือง

จตุพร อัด รัฐบาล เหินเกริม ไม่สนใจประชาชน จวก ป.ป.ช. ปมชั้น 14

จตุพร อัด รัฐบาล เหินเกริม ลืมกำพืดของตัวเอง ไม่สนใจความรู้สึกประชาชน จวก ป.ป.ช. ทำงานช้าปมชั้น 14 ไม่รู้จะแล้วเสร็จกี่โมง

นาย จตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน อดีตแกนนำคนเสื้อแดง ได้ไลฟ์สดเฟซบุ๊ก รัฐบาลพรรคเพื่อไทยผลักดันตั้งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ สวนทางกับความรู้สึกของประชาชน ว่า ถ้าคิดว่าประเทศนี้มีไฟเขียวยกให้เป็นเจ้าของแล้ว จึงเกิดอาการเหลิง เหิมเกริม ละเลิงลำพองตัวกันให้เต็มที่ เมื่อไม่สนใจอะไรแล้ว ดังนั้นอยากจะทำอะไรก็ทำให้ยาวไปเลย

Advertisements

พร้อมกล่าวถึงการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ไต่สวนคำร้องกรณีชั้น 14 สนามกอล์ฟอัลไพน์ และการครอบงำพรรคการเมือง ที่มีแต่ความเอื่อยเฉื่อย ไม่รู้จะแล้วเสร็จกี่โมง จึงไร้วี่แววเวลาทำงานต้องแถลงผลการตรวจสอบให้ประชาชนได้รับรู้

กรณีชั้น 14 ถ้า ป.ป.ช.ไต่สวนแบบเงียบเชียบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็ให้ทำยาวไปกันเลยหรือประกาศยกคำร้อง ไม่มีความผิดไปเลย ส่วนการขอเวชระเบียนนั้น ไม่ได้นำประวัติผู้ป่วยมาเปิดเผยสาธารณะแต่ต้องการตรวจสอบการรักษาของหมอ รพ.ตำรวจ ถึงที่สุดแล้วการขอเวชระเบียนไม่ได้แสวงหาความลับผู้ป่วย แต่ต้องการหาว่า หมอได้ทำผิดกฎหมายหรือไม่

อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. โดยเชื่อว่า นายทักษิณ ชินวัตร ป่วยทิพย์อยู่ชั้น 14 จึงเสนอให้ตรวจสอบหมอเข้าข่ายปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.157

“ความลับของผู้ป่วยยังเป็นความลับ และได้รับการปกป้อง แต่เจตนา ป.ป.ช.ขอเวชระเบียนเพื่อต้องการดูการปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย และในส่วนนี้กฎหมายไม่ได้ปกป้อง และคุ้มครองการรักษาผู้ป่วยของหมอให้เป็นความลับ เรื่องนี้ ป.ป.ช.และ กสม.รู้และไม่ได้โง่จึงตั้งโจทย์ให้สอบสวนการทำหน้าที่ของหมอ ดังนั้นถ้า ป.ป.ช.ไม่มีน้ำยาเอาเวชระเบียนแล้ว ไม่รู้จะมีองค์อิสระแบบนี้ไว้ทำไม”

ส่วนนายสนธิ ลิ้มทองกุล ประกาศอาจจะลงถนนครั้งสุดท้าย นายจตุพร กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลเพื่อไทยได้เกิดทางการเมืองและเติบโตในอำนาจ ก็มาจากประชาชนลงถนนต่อต้านในสิ่งไม่ชอบธรรม สองมาตรฐาน แต่วันนี้กลับมาเล่นสำบัดสำนวนตอบโต้การลงถนนยังไม่มีเงื่อนไขให้ประชาชนต้องออกมา

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาทุกเหตุการณ์ที่ประชาชนลงถนน เงื่อนไขสำคัญล้วนมาจากรัฐบาลเป็นผู้ปลุกและก่อขึ้น คนจึงออกมาคัดค้านเต็มถนน และแกนนำในหตุการณ์ 14 ตุลา 16 หรือ 6 ตุลา 19 หรือพฤษภา 35 และเมษา-พฤษภา 53 ซึ่งพวกมีอำนาจการเมืองขณะนี้มาจากคนลงถนนทั้งนั้น จึงควรเข้าใจและต้องไม่อธิบายด้วยการลืมกำพืดของตัวเอง

สิ่งสำคัญที่ผ่านมา รัฐบาลได้ปลุกเงื่อนไขให้เกิดการลงถนนมาต่อเนื่องและไม่เข็ดขยาด ในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พยายามออกกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอยปลายปี 2556 ประกอบกับย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี พ้น เลขา สมช. เพื่อเอื้อประโยชน์พวกพ้อง และยังมีปัจจัยแก้ รธน. 50 มาผสมอีก คนจึงออกมาถนน ซึ่งไม่ได้มาจากการเชื่อและปลุกพลังของแกนนำอย่างนายสุเทพ เทือกสุบรรณ กลุ่ม กปปส. แต่เป็นเพราะรัฐบาลสร้างเงื่อนไข หาเรื่องขึ้นมาเองประชาชนจึงคัดค้าน

นายจตุพร กล่าวว่า อดีตแกนนำ นปช.ที่อยู่กับพรรคเพื่อไทย อธิบายโดยเรียกร้องให้โอกาสรัฐบาลทำงานก่อน ตนสงสัยว่า แล้วทำไมไม่ให้โอกาสรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ทำงานก่อน แต่คนพวกนี้กลับบิดเบือนว่า เพราะเขาตั้งรัฐบาลในค่ายทหารผิดหลักประชาธิปไตย

“รัฐบาลพรรคเพื่อไทยข้ามขั้ว ตระบัดสัตย์ ถ้าเป็นคนอื่นยังไม่ให้โอกาสเลย แล้วทำไมเป็นเพื่อไทยแล้วจึงต้องได้โอกาส พูดดูดี ดูหล่อกันทั้งนั้น พวกขี้ข้า ขี้ครอก อย่ามาแสดงความอวดรู้ไม่มีราคาเลย”

อีกทั้งกล่าวว่า บ้านเมืองในต่างประเทศ ยกย่องนักต่อสู้เป็นจิตวิญาญาณผู้นำสู่การเปลี่ยนแปลง แต่ไทยกลับยกย่องคนทำผิด ต้องคดีทุจริตคอร์รัปชันเป็นผู้นำจิตวิญญาณ สิ่งนี้จึงเป็นความแตกต่าง และที่สำคัญผู้นำจิตวิญญาณคนนี้ยังยอมรับในการถวายฎีกาว่า ได้กระทำความผิดจริง และได้สำนึกแล้ว พร้อมเคารพกระบวนการยุติธรรม แต่ไม่ยอมติดคุกสักวัน

พวกรัฐบาลพยายามมาบิดเบือนกรณีชั้น 14 ว่าเป็นการคุมขัง แต่ไม่เคยมีประกาศของ รมว.ยุติธรรม ให้ รพ.ตำรวจเป็นที่คุมขังนักโทษ ซึ่งให้เป็นเพียงสถานที่รักษานักโทษและต้องมีเจ้าหน้าที่คอยดูแล การโหมอธิบายชั้น 14 คือการบิดเบือนเพื่อหนีการติดคุก ส่วนประชาชนจับขังคุกคนแล้วคนเล่า ดังนั้น กรณีชั้น 14 ถ้าใหญ่คับบ้านคับเมืองกันแบบนี้ ปปช.ยกคำร้องไปเสีย ง่ายที่สุด ให้อยู่กันยาวไปเลย

รัฐบาลเพื่อไทยไม่มีความรู้สึกแคร์ประชาชนเลย ถ้าแคร์แล้วคงไม่ตั้งรัฐบาลข้ามขั้วแบบนี้ และที่สำคัญไปตั้งรัฐบาลตระบัดสัตย์กับฝ่ายปราบปรามประชาชน หาเสียงไม่จับมือ 3 ป. ไม่ร่วมรัฐบาลฝ่ายยึดอำนาจ จึงโกหกหลอกลวง โดยนายจักรภพ เพ็ญแข ยอมรับตรงไปตรงมาดีว่า ถ้าเพื่อไทยมัวสนใจแต่ประชาชน ไม่สนใจผู้มีอำนาจเดิม พรรคเพื่อไทยก็สูญพันธุ์ไปก่อน สะท้อนถึงธาตุได้ชัดเจน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Nateetorn S.

ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button