นายกฯ ปัดตอบปมเลือกตั้งสหรัฐฯ ยันใครชนะความสัมพันธ์ยังมั่นคง
นายกอิ๊งค์ ปัดตอบปมเลือกตั้งสหรัฐอเมริกา 2024 ขณะที่กระทรวงต่างประเทศยันใครชนะ ความสัมพันธ์ระหว่างไทยและสหรัฐฯแน่นแฟ้นเหมือนเดิม
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางออกจากท่าอากาศยาน 2 กองบิน 6 (บน.6) ไปยังนครคุนหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำโขงครั้งที่ 8 และการประชุมผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือเศรษฐกิจอิรวดี เจ้าพระยา แม่โขง ครั้งที่ 10 ระหว่างวันที่ 6-7 พฤศจิกายนนี้ โดยผู้สื่อข่าวได้ถามถึงการเลือกตั้งชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งนายกฯ ปฏิเสธจะให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นดังกล่าว
ขณะที่นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ออกมาระบุถึงประเด็นนี้ ว่า ต้องรอความชัดเจนผลการเลือกตั้งก่อน ถึงจะสามารถพูดได้ ส่วนจะมีผลต่อนโยบายของรัฐบาลไทยหรือไม่หากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เป็นประธานาธิบดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่า เรื่องนี้เคยให้สัมภาษณ์ไปแล้ว บุคคลใดจะมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ หรือจะมีการเปลี่ยนตัว แต่ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ยังคงมั่นคง เรียกได้ว่าเข้มแข็ง หรือมีความชัดเจนในทุกด้าน รวมถึงมีความร่วมมือกันอย่างดี
ดังนั้นไม่ว่าใครจะมาก็ตามประเทศไทยและสหรัฐฯ มีความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกันมายาวนาน ดังนั้นการเมือง ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและสหรัฐฯ ยังคงจะเหมือนเดิม ขึ้นอยู่กับการพูดคุยของผู้นำทั้งสองประเทศและทุกภาคส่วน เพราะความจริงแล้วรัฐบาลเข้ามาดูในเรื่องของนโยบาย แต่ความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกันมีหลายระดับและหลายมิติ ซึ่งทุกภาคส่วนต้องไปด้วยกันทั้งภาครัฐ หรือจีทูจี เอกชน และภาคประชาชน ดังนั้นทั้ง 3 ระดับนี้ดีอยู่แล้ว ใครจะมาเป็นหัวเรือจึงไม่มีปัญหาก็ดำเนินความสัมพันธ์เช่นนี้ต่อไป โดยย้ำขอให้รอผลการเลือกตั้งก่อนว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายหรือไม่ และหลังจากนั้นจึงจะมีการพูดคุยกับผู้ที่เกี่ยวข้อง
โดยเฉพาะรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ใครจะมาดำรงตำแหน่งนี้ และจะมีนโยบายอย่างไร แต่ขณะนี้ยังเป็นเพียงการคาดการณ์ จึงยังไม่อยากให้รายละเอียดไปมากกว่านี้ เพราะอาจจะส่งผลต่อการพูดคุยในอนาคต ดังนั้นขอให้รอฟังทุกสิ่งทุกอย่างให้แน่นอนก่อน แต่ยืนยันว่าใครมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ ยังคงมั่นคงแน่นแฟ้น และนี่คือนโยบายสำคัญของนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการเห็นประเทศไทยมีบทบาทและต้องการเห็นความร่วมมือกับทุกประเทศเป็นไปอย่างดี และมีความยุติธรรมเพื่อผลประโยชน์ของทั้งสองประเทศ
ทั้งนี้ผลคะแนนล่าสุดเมื่อช่วงเวลาประมาณ 10.55 น. พบว่าเป็น โดนัลด์ ทรัมป์ ที่เป็นฝ่ายนำ กมลา แฮร์ริส
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ‘ทรัมป์’ ได้คะแนนทะลุ 200 เสียง เข้าใกล้เก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ
- ‘กมลา’ ทำคะแนนตีตื้นเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่ ‘ทรัมป์’ ยังนำ
- ผลเลือกตั้งสหรัฐ 2024 ‘ทรัมป์’ เริ่มทำแต้มทิ้งห่าง ‘กมลา’ ยังไม่หมดหวัง