“เชษฐ์ สไมล์บัฟฟาโล่” เตือนพระ อย่าโลภ อ้างคำสอนพระพุทธเจ้า หากินเงินกฐิน พระบางรูปก็หนีไปเสพสุขเมืองนอก
ช่วงนี้ของทุกปีเข้าสู่เทศกาลทอดกฐินของวัดทั่วประเทศ รวมถึงกฐินสามัคคี ได้รับแรงศรัทธาจากพุทธศาสนิกชนจำนวนมาก บางวัดได้ยอดเงินทำบุญกฐินไปเกือบ 100 ล้านบาทเลยทีเดียว
ล่าสุด วรเชษฐ์ เอมเปีย หรือ “เชษฐ์ สไมล์บัฟฟาโล่” โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ยุคนี้ เอะอะ ก็จะอ้างแต่คำสอนของพระพุทธเจ้าท่าน เอามาหาแด_ก พระพุทธเจ้าท่านเน้นการปฏิบัติ ไม่เน้นคำพูดพร่ำครับผม ซึ่งพระพุทธเจ้าท่านสอนให้ปล่อยวางนะครับ
กฐิน เป็นศัพท์ในพระวินัยปิฎกเถรวาท เป็นชื่อเรียก ผ้าไตรจีวรที่พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้ภิกษุผู้อยู่ครบจำพรรษา 3 เดือนแล้ว สามารถนำมานุ่งห่มได้..แค่นั้นเอง
จะมาร้อยล้านพันล้านกันทำไม มากเงินมากความ ไหนจะคณะกรรมการ หรือพระบางท่านก็หนีไปเสพสุขเมืองนอกกันอีก
ต้องระมัดระวังนะครับ ต้องคิดให้ได้นะครับ เกิดแก่เจ็บตาย เป็นธรรมดา อย่าโลภนะครับ”
ใต้โพสต์ดังกล่าว ได้มีข้อเข้ามาแสดงความเห็นด้วยจำนวนมาก เช่น “ศาสนาไม่ได้อยู่ในอิฐปูน บุญก็ไม่ได้อยู่ที่หลังคาโบสถ์ ทุกคนเน้นแต่ทางลัด แต่ไม่เคยฝึกจิตและนำคำสอนพุทธองค์มาใช้เลย”
“ถูกค่ะ งานกฐินก้อให้พระครองผ้าค่ะไม่ใช่หารายได้เข้าวัด พระดีๆมีแต่พระไม่ดีเยอะค่ะ”
“ถูกต้องที่สุดครับ ในสมัยพุทธกาลทอดกฐินคือการทำจีวรใหม่ให้ภิกษุที่จีวรเก่าขาดแล้ว และที่ประชุมสงฆ์ก็จะลงมติว่าจะให้ภิกษุรูปใดครองไตรจีวรนั้น แต่กฐินสมัยนี้เป็นการหาเงินเข้าวัด (ถ้านำไปพัฒนาวัดก็ดีครับ) แต่พอมีเงินเยอะปัญหาก็ตามมาครับ”
“จริงครับผม ปฏิบัติ คือปฏิบัติที่ที่จิต ไม่ใช่ปฏิบัติที่คำพูด พูดเก่งเพราะอ่่นตำรามาเยอะ มีให้เห็นมาเยอะมากแล้วครับ”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เพจดังแฉ ‘พระปลัดใจป๋า’ วัดดัง เปย์สีกาไม่อั้น เลี้ยงหรูขอรถได้รถ
- เจ้าอาวาส โวยลั่น พระทุกองค์ใครไม่เคยชักว่าวในผ้าเหลืองบ้าง หลังภาพหลุดโชว์ของลับ
- ทิด กับ สมี ต่างกันอย่างไร รู้จักคำนี้หลังคนถกต้องเรียกอดีตพระทำผิดร้ายแรงว่าอะไร