‘พิธา’ มั่นใจ 3 ปี ‘พรรคประชาชน’ เปล่งประกาย เชื่อ ‘เท้ง’ ผ่านไปได้
พิธา มั่นใจ 3 ปี พรรคประชาชน เปล่งประกาย เทียบสถิติโพลครั้งแรกตนขึ้นมา 3 เปอเซนต์ เชื่อ เท้ง ผ่านไปได้ แบบที่ตนก็เคยผ่านไปได้
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากที่ ถึงผลนอร์ทกรุงเทพโพลที่ผลสำรวจพบว่า ประชาชนเกินครึ่งไม่เชื่อมั่นพรรคฝ่ายค้าน โดยนายพิธากล่าวว่า เวลาอ่านโพล ตนไม่ค่อยดูตัวเลขเท่าไร แต่จะดูว่าใครเป็นผู้ทำผลโพล ก่อนจะนำมาวิเคราะห์เพื่อดูข้อที่ควรปรับปรุง เชื่อว่าพรรคฝ่ายค้านก็จะนำมาปรับปรุง เพื่อให้กำลังใจไม่เสีย
เมื่อถามว่ามีช่องโหว่ใดที่พรรคประชาชนจะต้องปรับ นายพิธา กล่าวว่า ต้องใช้เวลา และหากดูตามเนื้อผ้าและติดตามการทำงานของผู้นำฝ่ายค้าน ทำได้เทียบเท่ากับมาตรฐาน เหมือนตอนที่เป็นพรรคก้าวไกล และเชื่อว่าจะสามารถทำงานและบริหารจัดการได้
ขณะเดียวกันเข้าใจว่ามีการโจมตีพรรคเยอะพอสมควร จึงขอใช้โอกาสนี้ในฐานะอดีตเพื่อนร่วมงานมา 5-6 ปี เห็นว่าพรรคประชาชนมีความตั้งใจทำงานเพื่อคนไทย ไม่ใช่เป็นพรรคประชาชนที่มีนามสกุลพม่า ไม่ใช่พรรคประชาชนบีอาร์เอ็นแน่นอนเพียงแต่บางปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เช่น ฝุ่น คอร์รัปชัน แรงงานต่างด้าวที่ไม่ขึ้นทะเบียนในระบบ ต้องได้รับการจัดการเพื่อผลประโยชน์ของคนไทย ฉะนั้น ที่มีกระบวนการบอกว่าเป็นพรรคประชาชนพม่า รวมทั้งมีการพูดว่า พรรคภูมิใจกัมพูชา ถือเป็นการใช้ชาตินิยมมาเป็นเครื่องมือในการทำลายล้างทางการเมือง
“ต้องขอวิงวอนไปถึงประชาชนว่า ไม่ได้เป็นประโยชน์กับใครเลย ยกเว้นคนที่ต้องการจะโจมตี และต้องการเบี่ยงประเด็นสำคัญ จึงขอแยกให้ออกว่าเป็นการโจมตี หรือเฟกนิวส์ หรือเป็นการพูดข้อเท็จจริง” นายพิธา กล่าว
เมื่อถามว่าพรรคประชาชนต้องใช้เวลานานเท่าไรถึงจะเปล่งประกาย นายพิธา กล่าวว่า ถามถูกคนแล้ว นิด้าโพลครั้งแรกของตน 3% และขึ้นถึง 45% ในระยะเวลา 3 ปี ฉะนั้น หากถามว่ามีเวลาเท่าไร ตนมองว่า มีเวลาตัดสินใจก่อนที่ประชาชนจะเข้าคูหา เชื่อว่าเป็นกระบวนการที่จะต้องผ่านทั้งอุณหภูมิการเมือง ความกดดัน และความอดทน เชื่อว่าหากตนผ่านไปได้ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ก็จะผ่านไปได้เช่นกัน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ‘พิธา’ ป้อง ‘อิ๊งค์’ อ่านไอแพด พูดผิดเป็นเรื่องธรรมดา เนื้อหาสำคัญกว่า
- เท้ง ณัฐพงษ์ ไม่เห็นด้วย ใช้ศาลรธน. เป็นเครื่องมือโจมตีทางการเมือง
- ‘พิธา’ น้อมรับผลเลือกตั้งนายก อบจ.ราชบุรี ลั่นซักวันต้องเป็นของเรา