กรรชัย โฟนอินถาม ผู้อำนวยการสำนักวิศวกรรมยานยนต์ กรมขนส่งทางบก ชี้ผ่านการตรวจสภาพ ชำระภาษีเรียบร้อย ปมดัดอแปลงสภาพหลังตรวจสอบตอนนี้พบแล้ว 11 ถัง จะเพิ่มตอนไหนยังอยู่ในการพิสูจน์หลักฐาน
ชีพ น้อมเศียร ผู้อำนวยการสำนักวิศวกรรมยานยนต์ กรมการขนส่งทางบก เปิดเผยควาคืบหน้ากรณี “รถบัสทัศนศึกษา” โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี เกิดอุบัติเหตุจนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก โดยประเด็นที่กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์สืบเนื่องมาจากตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ารถมีการดัดแปลงสภาพ โดยมีจำนวนถังก๊าซ NGV ซึ่งเป็นหนึ่งในชนวนสลด พบมีจำนวนถังก๊าซเพิ่มเติมจากที่ตรวจสอบกับกรมขนส่งทางบก อัปเดต ณ ปัจจุบัน รถบัสคันเกิดเหตุติดตั้งถังก๊าซทั้งสิ้น 11 ถัง
ผอ.สำนักวิศวกรรมยานยนต์ฯ ยืนยันรถบัสคันที่เกิดเหตุเข้าตรวจสอบสภาพรถอย่างถูกต้องตามกฏหมายกับกรมขนส่งทางบก และมีการชำระภาษีประจำปีเรียบร้อย ขณะที่เมื่อวานซึ่งลงพื้นที่เพื่อเข้าตรวจเช็กสภาพหลังเกิดเหตุ ปรากฏยังไม่สามารถตรวจสอบสาเหตุได้ครบถ้วนเนื่องจากการติดขัดเรื่องสภาพการขนย้ายรถออกจากที่เกิดเหตุ แต่การสบสวนครั้งนี้บูรณาการ กรมการขนส่งทางบก ตำรวจภูธรภาค 1 เจ้าหน้าที่ปตท. คาดว่าไม่นานจะสามารถชี้แจงข้อเท็จจริงได้ทั้งหมด ตอนนี้รถไปเก็บไว้ที่อนุสรณ์สถาน และในวันนี้จะลงตรวจสอบเชิงลึกพร้อมกับแถลงสาเหตุการเกิดโศกนาฏกรรมดังกล่าวอีกครั้ง
ส่วนประเด็นดัดแปลงสภาพรถจะเกิดขึ้นหลังผ่านการตรวจสอบกับทางกรมการขนส่งไปแล้วหรือไม่นั้น ผอ.สำนักวิศวกรรมยานยนต์ฯ ยืนยันจากหลักฐานการจดทะเบียนมีการคีย์ข้อมูลในระบบว่า 3 ถัง แต่ในข้อมูลเชิงลึกจริง ๆ ในแต่บันทคกของแต่ละแถวจาก 3 ถังจะปรากฏเพิ่มจำนวนอีกแถวละสองถังทำให้ หลักฐานการจดทะเบียนกับกรมการขนส่งจึง เป็น 6 ถัง แต่ข้อเท็จจริงเมื่อไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเบื้องต้นพบแล้วจำนวน 11 ถัง ส่วนจะเพิ่มตอนไหนยังอยู่ในการพิสูจน์หลักฐาน
อย่างไรก็ดีเรื่องการเอาผิดบริษัทผู้ประกอบการ เวลานี้สั่งระงับใบประกอบการเดินรถชั่วคราวแล้วเพราะมีรถในประกอบการ 2 คัน จึงสั่งระงับห้ามเดินรถไว้ก่อนเพื่อดำเนินการสืบสวนว่าความผิดเกิดขึ้นจากตัวรถหรือคนขับหรือผู้ประกอบการไม่ดูแลรถยนต์ได้ดี ถ้าเข้าข่ายกรมขนส่งก็จะทำการเพิกถอนใบอนุญาต ส่วนคนขับก็ต้องถูกเพิกถอนใบอนุญาตด้วยถ้าพบมีความผิดเกี่ยวข้อง
ส่วนมาตรการอบรมคนขับกรณีรถเกิดข้อบกพร่องจะต้องทำอะไรบ้าง ตรงนี้อีกฝ่ายในฐานะหน่วยงานซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแล ก็ย้ำชัดเจนว่า ปกติก่อนขับรถในส่วนของคนขับจะต้องมีหน้าทีดูแลตรวจสอบความพร้อมในการเดินรถ เช่น ไฟหน้า-ไฟเลี้ยว-ไฟเบรค อุปกรณ์ปลอดภัยต่าง ๆ ซึ่งกรมขนส่งก็มีเจ้าหน้าไปตรวจดูแลเรื่องความปลอดภัยของสถานการณ์ประกอบการควบคู่ไปด้วย
ทั้งนี้ นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวหลังเป็นประธานในการประชุมหารือกรณีอุบัติเหตุรถโดยสารไม่ประจำทางเกิดเหตุเพลิงไหม้ ตอนนี้ได้สั่งการให้กรมการขนส่งทางบกเรียกรถโดยสารสาธารณะทั้งประจำทางและไม่ประจำทาง ที่ใช้เชื้อเพลิง CNG ทั้งหมดเข้ารับการตรวจสภาพรถภายใน 60 วัน , ยกระดับมาตรฐานการประกอบการขนส่งรถโดยสารประจำทาง (30) ทั้งระบบ (ด้านการประกอบการ การตรวจสภาพ และการให้บริการ) , การบูรณาการร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ และสถานศึกษาทั่วประเทศกรณีนำรถเช่าเหมาหรือรถโดยสารไม่ประจำทางไปใช้บริการ โดยให้ประสานงานกับสำนักงานขนส่งจังหวัดเพื่อตรวจสอบความปลอดภัยก่อนออกเดินทางทุกครั้ง
รวมถึงดำเนินการออกกฎหมายให้มีพนักงานประจำรถเช่นเดียวกับรถโดยสารประจำทาง โดยพนักงานและผู้ประจำรถต้องได้รับการอบรมและผ่านการทดสอบหลักสูตรการเผชิญเหตุและการช่วยเหลือผู้โดยสาร (Crisis Management) และดำเนินการออกกฎหมาย ระเบียบเพื่อให้ผู้ประกอบการต้องแนะนำข้อมูลและแนวทางเผชิญเหตุฉุกเฉินในการใช้บริการ (เช่นเดียวกับสายการบิน).
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- โหนกระแส วิเคราะห์ปมรถบัส ตรวจสอบยังไงถึงผ่านได้ วิศวกรใครเซ็นรับรอง
- เปิดไทม์ไลน์ อุบัติเหตุรถบัสทัศนศึกษา สพฐ.ตร. ยืนยันเสียชีวิตในรถ 23 คน
- ทนายบริษัทรถบัสไฟไหม้ แจงสาเหตุ ประตูฉุกเฉินเปิดไม่ได้ ทำสังคมอึ้ง
- รัฐบาล มอบเงินเยียวยา ครอบครัวผู้ประสบภัย ไฟไหม้รถบัส สูงสุด 2.4 ล้านบาท
