ภูมิใจไหม? ประเทศไทย ติดอันดับถนนอันตรายที่สุดในโลก
สื่อต่างชาติยกสถิติ ประเทศไทย เป็นหนึ่งในประเทศที่ถนนอันตรายที่สุดในโลก อัตราเสียชีวิตบนท้องถนนสูงมาก
จากการรายงานของ Yahoo Finance เมื่อมีนาคม 2024 ประเทศที่มีถนนอันตรายมากที่สุดในโลก ประเทศไทยติดอันดับ 18 ประเทศที่มีอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนสูงมาก มีอัตราเสียชีวิตเฉลี่ยอยู่ที่ 32.7 คนต่อประชากร 100,000 คน
นี่เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ประเทศไทยถูกจัดให้เป็นประเทศที่มีถนนอันตรายที่สุด การขับรถเร็ว ขับขี่โดยไม่ปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเข้มงวด ถูกระบุว่าเป็นปัจจัยหลักที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงเหล่านี้
ประเทศไทยมักพบปัญหาจากพฤติกรรมการขับขี่ที่ไม่เหมาะสม เช่น การขับรถเร็วเกินกำหนด การขับขี่ขณะมึนเมา ไม่เคารพกฎหมายจราจร ฝ่าไฟแดง เล่นโทรศัพท์มือถือ ไม่ตรวจเช็คสภาพรถ
นอกจากนี้ การสวมหมวกกันน็อกและการคาดเข็มขัดนิรภัยในไทยยังคงเป็นเรื่องที่ประชาชนจำนวนมากละเลย ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุและการบาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิต
จากรายงานของฟอร์บส์ (Forbes) ระบุว่า ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์มีความเสี่ยงเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนสูงกว่าผู้ใช้รถใช้ถนนประเภทอื่นถึง 28 เท่า และมีโอกาสได้รับบาดเจ็บสูงกว่า 4 เท่า
ในปี พ.ศ. 2564 มีผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุบนท้องถนนเกือบ 83,000 คน และมีผู้เสียชีวิตมากถึง 5,932 คน ซึ่งถือเป็นสถิติที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2518
น่าเศร้าที่พบว่า เกือบ 2,251 ราย หรือประมาณ 38% ของผู้เสียชีวิตไม่ได้สวมหมวกนิรภัย และ 34% ของอุบัติเหตุที่ทำให้เสียชีวิต เกิดจากการขับรถเร็วเกินกำหนด
ทั้งนี้ หมวกนิรภัยช่วยลดความเสี่ยงการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุได้ถึง 37%
รัฐบาลไทยได้พยายามอย่างต่อเนื่องในการปรับปรุงความปลอดภัยบนท้องถนน ผ่านการรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงความปลอดภัย การออกกฎหมายเพื่อควบคุมพฤติกรรมการขับขี่ และการเพิ่มบทลงโทษสำหรับการละเมิดกฎหมายจราจร อย่างไรก็ตาม สถิติการเสียชีวิตยังคงสูงมาก โดยเฉพาะช่วงเทศกาลต่าง ๆ เช่น ปีใหม่หรือสงกรานต์ ที่มีการใช้รถใช้ถนนกันอย่างคึกคัก
อีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญทำให้ถนนในไทยอันตรายคือ สภาพถนนที่ไม่เหมาะสม ขาดการสร้างอย่างมีมาตรฐาน ดูแลอย่างต่อเนื่อง เช่น ถนนที่มีหลุมบ่อ สภาพผิวถนนไม่เสมอกัน ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
ประเทศไทยยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายในการลดจำนวนผู้เสียชีวิตและปรับปรุงคุณภาพความปลอดภัยบนท้องถนนเพื่อป้องกันอุบัติเหตุในอนาคต
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง