ข่าว

โหนกระแส วิเคราะห์ปมรถบัส ตรวจสอบยังไงถึงผ่านได้ วิศวกรใครเซ็นรับรอง

รายการโหนกระแส เชิญผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์กรณีรถบัสทัศนศึกษา อายุที่จดทะเบียนครั้งแรกปี 2513 ไม่ใช่สาระสำคัญ เครื่องยนต์-ระบบเกียร์ โครงสร้างตัวถังเปลี่ยนใหม่หมดแล้ว จี้ไล่เช็กให้ชัด ติดตั้งหลังจากขนส่งตรวจสอบสภาพไปแล้วหรือไม่

พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์ กล่าวกับโหนกระแสวิเคราะห์ถึงปัญหาในส่วนของรถบัสบัสทัศนศึกษา โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี เกิดอุบัติเหตุ ทำให้มีนักเรียนและครูผู้เสียชีวิต 23 และบาดเจ็บจำนวนมาก โดยผู้เชี่ยวชาญเริ่มกล่าวในประเด็นภาพรวมของตัวรถ จากเหตุการณ์นี้ในแง่วิศวกรรมจะไม่คำนึงถึงตัวรถ เพราะไม่ใช่สภาพปี 2513 แล้วทั้งเครื่องยนต์-ระบบเกียร์ โครงสร้างตัวถังเปลี่ยนใหม่หมดแล้ว

Advertisements

ดังนั้นจึงต้องมาดูว่าการเปลี่ยนตัวถังเปลี่ยนเครื่องยนต์นั้นเปลี่ยนเมื่อปีไหน ? รวมถึงการเปลี่ยนถูกตรวจสอบถูกต้องตามหลักเกณฑ์หรือไม่

ผู้เชี่ยวชาญยังเปรียบเทียบกรณีตัวถังถูกสร้างขึ้นใหม่นั้น ไม่ต่างอะไรกับ “ต่อรถบัสขึ้นมาใหม่” ซึ่งต้องอยู่ภายใต้ข้อกำหนดกรมการขนส่งทางบก เหตุนี้อายุที่จดทะเบียนครั้งแรกจึงไม่ใช่สาระสำคัญ

ประเด็นจากนี้ต้องรีบไปเช็กสภาพการต่อเติมโดยตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ได้ โดยเฉพาะเรื่องของการดัดแปลงสภาพตัวรถเพราะในทะเบียนแจ้งว่าเป็นก๊าซซีเอ็นจี (CNG) 3 ถัง แต่ที่เห็นมีมากกว่านั้น แถมยังติดตั้งเพิ่มนอกจากตำแหน่งเดิมเพราะมีซ้อนกันด้านบนอีกต่อโยงมาถึงตำแหน่งด้านหน้ารถใกล้เคียงกับตำแหน่งคนขับ ตรงนี้ต้องตรวจสอบกรณีติดตั้งเพิ่มเติม ติดตั้งหลังจากขนส่งตรวจสอบสภาพรถแล้วหรือตรวจก่อน

ถ้าติดตั้งก่อนทำไมกรมขนส่งไม่แก้ในทะเบียน ทำไมตรวจไม่เจอ การดัดแปลงในสภาพเป็นรถติดก๊าซจะต้องมี 1. วิศวกรเซ็นรับรอง ต้องถามว่าวิศวกรที่เซ็นเป็นใคร ตอนเซ็นตรวจสอบชัดเจนหรือไม่เกี่ยวกับจำนวนว่ามีกี่ถัง ?

พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ
ภาพ Youtube @honekrasaeofficial

2. ขนส่งตรวจดูวิศวกรมีการเซ็นรับรองหรือไม่ ? ถ้าเซ็นแล้วได้ตรวจให้แน่ชัดเกี่ยวกับจำนวนถัง, ตำแหน่งที่ติดตั้งถูกต้องไหม เนื่องจากข้อมูล ณ ปัจจุบัน ปัญหาคือมีแต่สิ่งไวไฟรอบตัวรถ ด้านหลังมีเครื่องยนต์มีถังก๊าซที่โยงมาด้านหน้า และเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ไฟรุกเร็ว

Advertisements

ตอนท้ายแขกรับเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์ กล่าวอีกว่าเรื่องนี้ยังเปลี่ยนแปลงทฤษฎีใหม่หมดที่ก่อนหน้านี้ทุกคนเชื่อกับก๊าซ CNG (NGV) เพราะตามทฤษฎีระบุแรงดันสูงมาก ถ้าเกิดรั่วจะสูงพุ่งขึ้นข้างบนอย่างรวดเร็ว โอกาสติดไฟน้อย แต่ในกรณีนี้สมมติถ้ามาจากสาเหตุก๊าซรั่วตามที่มีรายงาน เมื่อก๊าซรั่ว จากนั้นจะพุ่งขึ้นข้างบนก็จะติดพื้นรถจึงธรรมดาที่จะฟุ้งกระจายมาเจอสะเก็ดไฟที่ว่าก็อาจเป็นไปได้ ฉะนั้นจึงต้องเปลี่ยนแนวคิดใหม่เกี่ยวกับในรถที่ติดก๊าซ NGV หรือ CNG โดยบังคับให้ตัวรถต้องมีรูระบายเมื่อเกิดการรั่วของก๊าซได้ด้วย

ข้อมูลนี้ยังสอดคล้องกับที่ เพจ Drama-addict ลงโพสต์ตั้งคำถามจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยวันเกิดเหตุ ซึ่งเล่าว่า “ประเด็นนี้น่าสนใจ เขาอธิบายว่าตามทฤษฎี ก๊าซ CNG ปกติจะมีแรงดันสูงมาก หากเกิดการรั่วไหลมันจะพุ่งขึ้นข้างบนและโอกาสติดไฟค่อนข้างน้อย ยกเว้นว่าจะมีการติดตั้งในพื้นที่ที่มีการกีดขวางการพุ่งของแก๊ส อย่างตำแหน่งที่ติดตั้งล้อรถด้านหน้าใกล้ตำแหน่งคนขับ ถ้ารถชนแบริเออร์แล้วท่อแก๊สเสียหายก๊าซรั่วแต่ว่าไม่สามารถพุ่งขึ้นบนได้เพราะติดตรงจุดนั้นก็จะทำให้เกิดการลุกไหม้ได้”.

เพจ Drama-addict แชร์เหตุกู้ภัยเล่าเรื่องรถบัสดัดแปลงสภาพรถ ตัวถังก๊าซ
ภาพ Facebook @Drama-addict
แฟ้มภาพ

 

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button