ส่องมาตรฐาน “รถบัส” สหรัฐฯ คุมเข้มรถ-คนขับ รับมือเหตุฉุกเฉิน
เพจดัง เผยมาตรฐานธุรกิจรถบัสนักเรียน ในสหรัฐฯ คนขับต้องฝึกรับมือกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน และติดตั้งจีพีเอสบนรถ ผู้ปกครองสามารถติดตามตำแหน่งของเด็กได้
หลังจากเหตุสลดเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ที่ผ่านมา เมื่อรถบัสทัศนศึกษาของนักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี เกิดไฟไหม้ บริเวณหน้าศูนย์การค้าเซียร์รังสิต ถนนวิภาวดี ขณะเดินทางไปยังศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. สำนักงานกลาง ณ จังหวัดนนทบุรี คร่าชีวิตนักเรียนและครู 23 ราย
ด้านเพจเฟซบุ๊ก Money Disruptor ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัยและธุรกิจของ “รถโรงเรียน” ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งขึ้นชื่อว่ามีความปลอดภัยสูง และมีข้อบังคับเข้มงวดที่สุดในโลก ซึ่งธุรกิจรถโรงเรียนนั้นเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงที่สุดในสหรัฐฯ ทั้งยังเผยว่าปัจจุบันมีเด็กกว่า 26 ล้านคนในประเทศสหรัฐอเมริกาและแคนาดา โดยสารผ่านรถโรงเรียนจำนวน 5 แสนคัน แต่ถูกบริหารเพียง 3 บริษัทใหญ่ ได้แก่ Blue Bird Corporation, Thomas และ IC
รัฐบาลจะสนับสนุนเงินรายได้ส่วนหนึ่ง จึงทำให้รถโรงเรียนต้องผ่านข้อบังคับที่เข้มงวด และต้องมีการออกแบบรถที่มีระบบความปลอดภัยสูงกว่ารถโดยสารปกติ ประกอบไปด้วย 4 ข้อ ดังนี้
- การออกแบบรถ
รถบัสจะต้องมีสีเหลือง “National School Bus Glossy Yellow” เพื่อให้แยกแยะได้ชัดเจน มองเห็นได้ง่าย ในทุกสภาพอากาศ ต้องมีไฟกะพริบ ใช้แจ้งให้ผู้ขับขี่อื่น ๆ หยุดรถ ขณะนักเรียนกำลังเดินขึ้นหรือลง รวมทั้งต้องมีพนักพิงสูงและการแบ่งพื้นที่ ป้องกันเด็กในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ
รวมทั้งรถบัสสมัยใหม่จะมีระบบติดตาม GPS ติดตามผ่านแอปพลิเคชัน เพื่อแจ้งเตือนผู้ปกครอง เมื่อรถใกล้ถึงจุดรับส่ง และต้องมีกล้อง เพื่อตรวจตราพฤติกรรมของนักเรียนและคนขับ
2. ระบบป้องกันหากเกิดเพลิงไหม้
ในกรณีที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้น ภายในตัวรถต้องมีวัสดุกันไฟ เพื่อชะลอไม่ให้ไฟลุกลาม รวมทั้งมีระบบดับไฟอัตโนมัติ และระบบป้องกันการลุกไหม้ของถังน้ำมันเชื้อเพลิง นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งทางออกฉุกเฉินหลายแห่ง เช่น ประตูหลัง ช่องหลังคา และหน้าต่างด้านข้าง เพื่อให้เด็ก ๆ สามารถออกจากรถได้อย่างรวดเร็วหากเกิดเหตุฉุกเฉิน
3. กฏระเบียบที่เข้มงวด
รถบัสนักเรียนได้รับมาตรฐานความปลอดภัยของยานยนต์ (FMVSS) ที่เฉพาะเจาะจง เช่น การป้องกันการชน มาตรฐานการเบรก และความแข็งแรงของโครงสร้าง ซึ่งมีกฎที่เข้มงวดและถูกตรวจสอบบ่อยกว่ารถโดยสารปกติ ส่วนผู้ขับขี่ต้องได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับวิธีการรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน ทั้งยังต้องผ่านการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม และต้องมีใบขับขี่เชิงพาณิชย์พิเศษ
4. ปรับมาใช้พลังงานสะอาด
ในปี 2021 รัฐบาลสนันสนุนงบถึง 5000 ล้านดอลลาร์ หรือ 162 ล้านบาทเพื่อเปลี่ยนรถโรงเรียนให้เป็นรถที่ลดการปล่อยมลพิษ ลดเสียงรบกวน และไม่ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งรถโรงเรียนส่วนใหญ่จะมีเวลาและเส้นทางการวิ่งที่ชัดเจน และมีเวลาจอดพักนานกว่าปกติ จึงเหมาะกับการใช้งานรถไฟฟ้า
ทั้งนี้ ด้วยมาตรฐานและการตรวจสอบที่เข้มงวดที่สุดในรอบเกือบ 100 ปี ทำให้ธุรกิจรถโรงเรียนในสหรัฐฯ มีผู้ดำเนินธุรกิจเพียงไม่กี่รายที่ผ่านคุณสมบัติ อย่างไรก็ตามการจะดำเนินธุรกิจได้ ต้องพึงระลึกเสมอว่าสิ่งสำคัญที่สุด คือ ความปลอดภัยของเด็กนักเรียน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง