ตอบดราม่า “เดอะวอยซ์ไทยแลนด์ 2024” ทำไมไม่ร้องเพลงสากล

somkiarเผยแพร่: 30 ก.ย. 2567 15:56 น.| อัปเดต: 30 ก.ย. 2567 15:56 น.

285

ตอบคำถามหลังเกิดประเด็นดราม่า “เดอะวอยซ์ไทยแลนด์ 2024” ทำไมปีนี้ไม่มีผู้เข้าแข่งขันร้องเพลงสากล ทั้งที่ก่อนหน้านี้ทุกซีซันจะมีคนนำเพลงสากลมาร้องประกวด

กลายเป็นประเด็นดราม่าสำหรับรายการแข่งขันร้องเพลงสุดยิ่งใหญ่อย่าง เดอะวอยซ์ไทยแลนด์ (The Voice Thailand) ปี 2024 ในรอบ บลายออดิชั่น (Blind Auditions) ที่ปีนี้เกิดข้อสงสัยว่าทำไมผู้เข้าแข่งขันในรายการถึงนำแต่เพลงไทยมาร้องประกวด ไม่มีใครนำเพลงสากลมาใช้เหมือน ซีซันที่ผ่าน ๆ มาเกิดเป็นข้อสงสัยให้กับแฟนคลับรายการนี้จนนำไปตั้งกระทู้บนพันทิปและกลายเป็นดราม่าที่รู้สึกว่าปีนี้รายการกร่อยที่ไม่มีเพลงสากลรู้สึกไม่ค่อยมีแบบ ว้าว เท่าปีก่อน ๆ วันนี้มีคนมาให้ได้คำตอบแล้ว

Advertisements

ผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ Nutthavud Punsaichur ที่ทำหน้าที่เป็น Music Director ในรายการ เดอะวอยซ์ไทยแลนด์ 2024 ได้มีคำตอบในประเด็นนี้ว่า “เหตุผล.. ทำไม The Voice ปีนี้ไม่มีเพลงสากล สาเหตุหลัก คือ เรื่องของค่าลิขสิทธิ์เพลง

นี่คือคำพูดจากเฟสพี่โอ๋ผู้จัดรายการเดอะว๊อยซ์ ซึ่งพี่โอ๋เป็นอดีตผู้บริหารค่ายวอร์เนอร์ มิวสิค จากการตอบประเด็นที่เพจ รีวิวเรื่อยเปื่อยเขียนถึง “ขอขอบคุณเพราะรีวิวได้ตรงใจมาก รู้สึกอยากพูดอธิบายแต่กลัวดราม่า แต่อดไม่ไหวขอเล่าและระบายเรื่องลิขสิทธิ์เพลงสากลในปัจจุบัน.. ตัวเองเกิดและเติบโตมาจากค่ายเพลง Inter ทำวงการเพลงมา15ปี ฟังเพลงสากลมาครึ่งชีวิต ทำไมจะไม่อยากมีเพลงสากลในรายการ.. อยากตะโกนนนนนน ออกไปให้คนดูรู้ว่า ปีนี่สถานการณ์การเก็บลิขสิทธิ์เพลงสากลมันเปลี่ยนไป

ปัจจุบันการเผยแพร่ มันเข้าถึงกันทั่วโลก เพราะฉะนั้นการใช้เพลงสากลในรายการต้องทำเรื่องไปขอเจ้าของลิขสิทธิ์ที่เป็นคนเขียนเนื้อร้องและทำนองเอง ไม่ได้ขอผ่านองค์กรในประเทศเหมือนตะก่อน ซึ่งบางเพลงมีคนถือสิทธิ์ 4-5 คน เพราะฉะนั้นกว่าจะทำเรื่องขอลิขสิทธิ์แต่ล่ะเพลง กว่าจะหาเจอว่าใครถือสิทธิ์ครบใน1 เพลง ใช้เวลาเป็นเดือนๆกว่าจะได้ในแต่ล่ะเพลง ซึ่งในการทำงานการถ่ายทำเราไม่สามารถใช้เพลงนั่นได้ทันเพราะยังไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของครบ และอีกเรื่องคือราคา ค่าลิขสิทธิ์การใช้เพลงนั้นอยู่ที่ประมาณ 1,500-8,000 ฟังดูแล้วไม่แพง แต่อย่าลืมคูณ 37 เข้าไป เพราะเป็นเงิน US$

สำหรับรายการเรื่องค่าลิขสิทธิ์ไม่ใช่ประเด็นหลักเพราะเราอยากให้มีเพลงสากลอยู่แล้ว แต่สุดท้ายไม่กล้าใช้ถ้าเราไม่ได้ขออนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ ไม่คุ้มกัยการโดนฟ้อง เอาจริงเพลงสากลที่ร้องในรอบ blind นี่เราเอามาออกEp ท้ายๆๆ เพราะเพลงที่ร้องยังเคลียร์ไม่ครบเลย …. ทำไงดี เครียดโว้ย”

Advertisements

“นี่คือจุดล่มสลายของการทำคอนเสิร์ต รายการเพลง คือเรื่องค่าลิขสิทธิ์ ซึ่งผมเองผู้เป็นทั้งฝ่ายผู้รับค่าลิขสิทธิ์ และฝ่ายผู้จ่าย(ผู้จัด) ก็ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ จริง ๆ แล้วมันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของโลกที่เร็ว เลยทำให้ระบบการจัดเก็บ ตามไม่ทันกับความเป็นจริง ดังนั้น คนที่จัดคอนเสิร์ตได้จริง คือคนที่ถือลิขสิทธิ๋เพลงเท่านั้น ซึ่งถ้าเป็นฝั่งไทย ก็หนีไม่พ้นเจ้าใหญ่อย่าง GMM ,RS สมัยก่อนสักสิบปีที่ผ่านมา คนจัดจะเลื่ยงไปใช้เพลงสากล เพราะเป็นระบบการจัดเก็บกลาง จึงทำให้ง่ายต่อการขอ แต่ตอนนี้เพลงสากลก็เริ่มมีปัญหา น่าเป็นห่วงวงการจริง ๆ

ผมเคยต้องทิ้งงานไปอัลบั้มนึง ซึ่งเป็นงานบรรเลงเพลงสากลเก่าๆ เหตุเพราะหาผู้แต่งได้ไม่ครบทุกเพลง ซึ่งงานนั้นผมหาได้เกือบครบขาดไปเพลงนึง คือ เพลง Besame Mucho ซึ่งจากการค้นหาบอกเป็นเพลงเก่าที่้มีอายุเกิด50ปี หาชื่อผู้แต่งทำนองไม่ได้ ทำให้ไม่สามารถขอโค๊ตผลิตซีดีจากกระทรวงพาณิชย์ได้…. ล่าสุด3ปีที่แล้ว เคยประกาศขายแมคที่เพิ่งซื้อมาเพื่อทำอัลบั้ม เพราะจะทำอัลบั้มเพลงเก่า แล้วเจอค่าลิขสิทธิ์ที่รวมแล้ว ยังไงก็ไม่มีทางได้ทุนคืน ผมเลยตัดสินใจล้มกระดาน เพราะไม่อยากให้น้องที่เป็นเจ้าของโปรเจคต้องเจ็บตัว มีละครเวทีเรื่องนึง ที่ทำเรื่องย้อนวัย ที่ขนาดคนจัดเป็นเจ้าใหญ่ของวงการ ก็ไม่สามารถใช้เพลงที่เป็นชื่อละครได้ เพราะเจอการเรียกค่าลิขสิทธิ๋ที่ไม่สมดุลกับความเป็นจริง
เห็นใจทั้งสองฝ่ายครับ ยังไงก็หวังว่าจะมีการจัดการที่ลงตัวในเร็ววัน”

หลังจากได้มีโพสนี้ออกไปก็มีคนเข้ามาคอมเมนต์ เข้าใจและขอแชร์ต่อเพื่อนำให้ได้รับรู้ถึงปัญหาของทีมงานที่ต้องรับมือกับเรื่องความละเอียดอ่อนของลิขสิทธิ์เพลง เช่น ขออนุญาติแชร์น่ะครับ หลายๆคนไม่เข้าใจเรื่องแบบนี้ครับแล้วก็ไปพูดต่อแบบที่เข้าใจกันผิดๆ , ขออนุญาติแชร์น่ะครับ หลายๆคนไม่เข้าใจเรื่องแบบนี้ครับแล้วก็ไปพูดต่อแบบที่เข้าใจกันผิดๆ

รวมถึงหนึ่งในโค้ชของรายการซีซันล่าสุดอย่าง โอ๊ต ปราโมทย์ ก็ได้แชร์โพสดังกล่าว พร้อมแคปชั่น 💵💴💶💷 เพื่อตอบคำถามถึงสาเหตุในดราม่าครั้งนี้เพื่อให้แฟนรายการได้รู้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในรายการ