ถกสนั่น เพื่อนบ้านจอดรถในบ้านคนอื่น ชาวเน็ตเสียงแตก สรุปใครผิด
เจ้าของบ้านแชร์เคสเพื่อนบ้านสุดป่วน นำรถยนต์มาจอดภายในบ้าน ทำให้เข้า-ออกไม่สะดวก ชาวเน็ตเสียงแตก เจ้าของบ้านโดนติเสียเอง
ปัญหาเพื่อนบ้านไม่เคยหมดไป หลังผู้ใช้ Pantip รายหนึ่งแชร์ประสบการณ์ของเพื่อนบ้านเจ้าปัญหาที่มาขอจอดรถในพื้นที่บ้าน จนนานวันเข้าเธอเริ่มไม่พอใจ แต่ไม่สามารถห้ามปรามได้ เนื่องจากเพื่อนบ้านและแม่ของเธอนั้นรู้จักกันกัน เกรงว่าจะผิดใจกันในอนาคต
เจ้าของโพสต์เล่าว่า บ้านของเธอเป็นทาวน์เฮาส์ติดกัน อาศัยอยู่มา 30 กว่าปี พื้นที่บ้านนั้นจอดรถได้แค่ 2 คัน ปัญหาคือเพื่อนบ้านซื้อรถยนต์คันใหม่ไว้ให้ลูกขับไปทำงานที่จังหวัดอื่น แต่เมื่อเวลาผ่านไปลูกของเพื่อนบ้านก็ลาออกจากงานและกลับมาอยู่บ้าน ทำให้ที่จอดรถยนต์ไม่เพียงพอ
ด้านเจ้าของบ้านเปิดใจว่า เธอมีบ้าน 2 หลัง ส่วนใหญ่แล้วจะนอนค้างที่บ้านอีกหลังมากกว่า แต่ถ้ามีธุระก็จะเข้ามาพักอาศัยที่บ้านหลังนี้ ซึ่งเธอใช้ชีวิตแบบนี้เป็นประจำตั้งแต่ที่ซื้อบ้านมา โดยจะมีบางช่วงที่เธอไม่ได้อยู่บ้านประมาณ 1 เดือน เพื่อนบ้านก็จะมาขอจอดรถ ซึ่งแม่ของเธออนุญาตเพราะคิดว่าจะจอดรถไว้ไม่นาน
ขณะนี้ ลูกของเพื่อนบ้านจอดรถอยู่ที่เดิมมากว่า 1 ปีแล้ว ตัวเธอเองเริ่มลำบากในการใช้บ้านเพราะที่จอดมันอยู่ในร่มกันฝนตกแดดออก รวมทั้งเวลาที่เธอจะขนของขึ้นรถจะเกิดปัญหากับรถของเพื่อนบ้านที่จอดอยู่ ซึ่งบ้านอีกหลังกับบ้านสวนน้ำนั้นน้ำไม่ค่อยไหล เธอจึงต้องใช้ทั้งน้ำประปากับน้ำกรองดื่ม เวลาขนย้ายน้ำก็ค่อนข้างลำบาก เพราะรถที่จอดขวางประตูอยู่ เธอเคยโทรศัพท์ให้มาเคลื่อนย้ายรถแล้ว แต่อีกฝ่ายนั้นไม่รับและไม่โทรกลับ นอกจากนี้ยังเคยจอดรถขวางประตูเข้าบ้านจนขนของเข้า-ออกไม่ได้
ตอนนี้เธอรู้สึกว่าเพื่อนบ้านเริ่มรุกล้ำชีวิตส่วนตัวมากเกินไป เมื่อเธอส่งข้อความไปว่าจะออกจากบ้าน ฝ่ายนั้นก็โทรมาถามว่าจะไปข้างนอกทำไม รวมทั้งถามว่าจะกลับมาเมื่อไหร่ เพื่อนบ้านเริ่มจะไล่เธอที่เป็นเจ้าของบ้านแล้ว กลายเป็นว่าถ้าจะไปบ้านตัวเองต้องเกรงใจเขา ปัญหาคือแม่เป็นคนอนุญาตให้เขานำรถเข้ามาจอดได้ และขอให้เธออย่าเพิ่งพูดอะไรเพราะกลัวผิดใจกันก่อนหน้านี้ ทั้งคู่เคยมีปัญหากันหลายครั้ง ฝั่งเพื่อนบ้านเป็นคนเอาแต่ใจและชอบเอาชนะ จนภายหลังเธอเริ่มถอยออกมา และไม่สนิทกันเหมือนแต่ก่อน
ตัวเธอคิดวิธีแก้ปัญหาอยู่หลายทาง ทั้งการพูดคุยกันตรง ๆ การล็อครั้วบ้าน รวมทั้งจะกลับบ้านบ่อย ๆ เพื่อให้เขาตัวว่าไม่สะดวกใจจะให้จอดรถ เพราะเท่าที่ดูตอนนี้เพื่อนบ้านยังไม่รู้ว่ากำลังสร้างปัญหา นอกจากนี้ยังพยายามมาขอซื้อบ้าน ทั้งที่เธอบอกแล้วว่าไม่ขาย ตลอดเวลาที่ผ่านมา เพื่อนบ้านเป็นฝ่ายพึ่งเธอ ถ้าจะไม่คบกันต่อก็ไม่มีผลอะไร แต่ก็ไม่อยากทะเลาะกันแรงเพราะกลัวปัญหาจะบานปลาย
ทั้งนี้ หากเธอไม่อยู่บ้านก็ยินดีที่จะให้เข้ามาจอด แต่ถ้าเธอกลับมาอยู่บ้านก็ไม่ควรจะรบกวนกัน เนื่องจากต้องเข้าออกบ้านตลอด ไม่สามารถกำหนดเวลาที่แน่ชัดได้ เช่น ถ้าเธอทำธุระในเมืองแล้วอยากแวะเข้าห้องน้ำ ก็อยากจะแวะที่บ้านของเธอเอง สุดท้ายเธอไม่สามารถใช้ชีวิตแบบนี้ต่อไปได้ เพราะเพื่อนบ้านสร้างปัญหาไม่จบไม่สิ้นเสียทีพร้อมทั้งขอคำแนะนำจากชาวเน็ต หากเจอสถานการณ์เช่นนี้จะทำอย่างไรดี
ภายหลังกระทู้้กดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป มีผู้เข้ามาวิจารณ์การกระทำของเพื่อนบ้านเป็นจำนวนมาก โดยมองว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมและไม่เห็นใจเพื่อนร่วมโครงการ นอกจากนี้ยังแนะนำให้ใช้มาตรการเด็ดขาด เช่น การล็อครั้วบ้าน เพื่อไม่ให้เพื่อนบ้านนำรถยนต์เข้ามาจอดได้
ในขณะที่ชาวเน็ตอีกฝั่งหนึ่งกลับมองว่า เจ้าของบ้านควรจะไปปรับความเข้าใจกับแม่ของเธอเสียก่อน เนื่องจากกรรมสิทธิของบ้านนั้นเป็นของครอบครัว เธอมีสิทธิ์ภายในบ้านหลังนี้ ฉะนั้นแล้วควรจะพูดคุยกันให้เข้าใจว่าไม่ควรปล่อยให้เพื่อนบ้านมาเอาเปรียบจนส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน
อย่างไรก็ตาม มีผู้เข้ามาเสนอว่า หากเพื่อนบ้านจะนำรถเข้ามาจอดจริง ๆ ไม่ควรจะให้จอดฟรี ควรเปลี่ยนเป็นการคิดเงินแบบรายเดือนแทน อาจคิดค่าบริการเดือนละ 400 บาท ถือเป็นค่าเสียพื้นที่ในบ้าน เปรียบกับการเสียห้องไปห้องหนึ่ง หรืออาจจะทำสัญญารายปี หากเพื่อนบ้านอยากจะจอดรถเป็นเวลานาน และทิ้งท้ายไว้ว่า เจ้าของบ้านไม่ควรปล่อยให้เพื่อนบ้านเข้ามาเอาเปรียบ และบุกรุกพื้นที่ใช้สอยเช่นนี้ เพราะอาจเกิดปัญหาบานปลายหรือผิดใจกันในอนาคตได้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง