ชัชชาติ ขอคนกรุงไม่ต้องกังวลสถานการณ์น้ำเหนือ ชี้ปีนี้แตกต่างกับตอนปี 2554 ยืนยันไม่ประมาทและเตรียมพร้อมรับมือและป้องกัน
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมรับมือน้ำท่วมว่า ขณะนี้ กทม. ได้ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนืออย่างใกล้ชิด เนื่องจากยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและตกหนักบางพื้นที่ ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาอาจมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
ขอย้ำว่าไม่ต้องกังวล เพราะสถานการณ์น้ำแตกต่างจากช่วงปี 2554 โดยสิ้นเชิง และศักยภาพของเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ ยังสามารถรองรับน้ำดี โดยปัจจุบันมวลน้ำจากแม่น้ำยมไหลลงมาถึง จ.สุโขทัย และมีอัตราการระบายน้ำที่จุดเฝ้าระวังก่อนถึงกรุงเทพมหานครที่สถานีบางไทร เฉลี่ยอยู่ที่ 989 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งยังไม่ถึงอัตราการระบายน้ำที่ต้องเฝ้าระวัง ที่อยู่ที่ 2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และคาดว่ามวลน้ำจะมาถึงกรุงเทพมหานคร ใช้เวลาประมาณ 6 วัน หรือราววันที่ 2 กันยายนนี้ แต่มั่นใจรับมือได้ เนื่องจากกรมชลประทานก็ได้บริหารจัดการน้ำ และกรุงเทพมหานครสามารถรับน้ำได้ถึง 3,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
อย่างไรก็ตามยอมรับว่า สิ่งที่น่ากังวล คือ ปริมาณน้ำฝนที่จะตกลงมาในพื้นที่กรุงเทพมหานคร หากสูงกว่า 200 มิลลิลิตร อาจทำให้มีน้ำท่วมจังในบางจุด แต่ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา กทม. ก็ได้จัดทำระบบโครงสร้างพื้นฐานหลายอย่าง ทั้งเขื่อนกันน้ำ และระบบป้องกันต่างๆ เชื่อว่าจะสามารถบริหารจัดการ
อย่างไรก็ตาม กทม. ก็ไม่ประมาทได้เตรียมพร้อมการบริหารจัดการน้ำและระบบป้องกันน้ำท่วมต่างๆ ทั้งตรวจสอบความแข็งแรงและจุดรั่วซึมของแนวป้องกันน้ำท่วมบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย และคลองมหาสวัสดิ์ รวมความยาวประมาณ 80 กิโลเมตร พร้อมยังได้เสริมแนวคันกั้นน้ำถาวรริมเจ้าพระยาตลอดแนวให้สูงขึ้นกว่าเมื่อปี 2554 ที่เกิดมหาอุทกภัย ในระดับ 2.80-3.50 ม. และได้นำกระสอบทรายทำเป็นแนวเขื่อนชั่วคราวในบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร (แนวฟันหลอ) รวมถึงได้ตรวจสอบความพร้อมของสถานีสูบน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา 96 สถานี และบ่อสูบน้ำตามแนวริมแม่น้ำเจ้าพระยาทั้ง 2 ฝั่งในช่วงน้ำทะเลหนุนสูง
สำหรับชุมชนนอกคันกั้นแม่น้ำเจ้าพระยา 16 ชุมชน 731 ครัวเรือน ในพื้นที่ 7 เขตที่อาจได้รับผลกระทบและความเดือดร้อนจากน้ำท่วม ได้สั่งการให้สำนักงานพื้นที่เขตดุสิต พระนคร สัมพันธวงศ์ บางคอแหลม ยานนาวา บางกอกน้อย และคลองสาน ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมขนย้ายสิ่งของขึ้นสู่ที่สูง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนหากเกิดปัญหาระดับน้ำสูงขึ้น รวมถึงได้เตรียมเครื่องสูบน้ำสำรอง เรือผลักดันน้ำ วัสดุอุปกรณ์ กระสอบทราย พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการเร่งด่วนเคลื่อนที่ เพื่อคอยช่วยเหลือประชาชนหากเกิดเหตุน้ำท่วมในพื้นที่ ตลอด 24 ชั่วโมง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- รัฐบาล ชี้ “น้ำท่วม 67” ยังไม่น่าห่วงเท่าปี 54 ย้ำงบดูแลพอ ประสาน กสทช. ขยายสัญญาณพื้นที่อุทกภัย
- อัปเดต น้ำท่วมสุโขทัย ระดับน้ำแม่น้ำยม ยังไม่พ้นวิกฤต เช็กพื้นที่เฝ้าระวังพิเศษ 3 อำเภอ
- กรมอุตุฯ เผยสาเหตุน้ำท่วมภาคเหนือ 67 แนะ ปชช. ติดตามประกาศใกล้ชิด
