คำผกา วิสาสะส่องโซเชียลคนอกหัก ถึงลัทธิกลัวผีทักษิณ อวยความซิวิไลซ์จากกองทัพ
โพสต์ไม่หยุดหย่อน ทุก 5 นาที อ้างเหตุทนไม่ได้ คำผกา ถือวิสาสะผ่าน X ส่องโซเชียลคนอกหัก ก่อนหยิบโพสต์ ใบตองแห้ง อธึกกิต มาโต้กลับประเด็นการเมือง แพทองธาร ขึ้นนายกฯ หญิง ลัทธิกลัวผีทักษิณอย่าตกเป็นเหยื่อ ไม่พลาดแตะถึงด้อมส้มผลผลิตจากความคิดคนเสื้อแดง 20 ปี แล้วไปไฮบริดกับสลิ่มเฟส 1 ก่อนบอกกลไกโปร่งใสส่วนหนึ่งยกเป็นความซิวิไลซ์จากกองทัพ
ผลพวงอุณภูมิการเมืองร้อน ลามแผดเผาเกือบทุกหัวระแหง โดยเฉพาะนาทีนี้หลังจาก “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร นั่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ก็เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ทั้งที่เป็นบวกและลบ จากขั้วการเมืองที่แตกเป็นทุนเดิมอยู่ 2 ฝ่าย
ล่าสุด แขก คำผกา ที่ตอนแรกก็เริ่มวันอย่างสดใส ลงทวิต “สวัสดีวันจันทร์” ก่อนตกบ่ายจะนั่งอัดคลิปไลฟ์สดพร้อมจั่วหัวแล้วใส่ประเด็นร้อนตามหัวข้อแบบไม่รอช้า
คำผกาวิสาสะส่องโซเชียลคนอกหัก https://t.co/g1yafFQq95
— Kam Phaka (@kamphaka) August 19, 2024
“คำผกาวิสาสะส่องโซเชียลคนอกหัก” พาดหัวเรียกแขกของคำผกาที่ร่ายยาวทั้งความเห็นและมุมมองเฉพาะเกี่ยวกับกระแสโซเชียลที่โพสต์หรือเขียนข้อความผ่านหน้าฟีดไม่หยุด ชนิดโพสต์ละ 5 นาที โดยช่วงหนึ่งหลังร่ายยาวขั้นตอนรับรองนายกฯ แพทองธารอย่างถูกต้อง ตามกระบวนการรัฐสภาไทยแล้ว
ผู้ประกาศข่าวที่ตอนนี้สวมหัวโขนสถานีประชาสัมพันธ์ของรัฐบาลยังเผยว่า กระบวนการได้นายกฯ รัฐมนตรีคนที่ 31 และเป็นนายกฯ หญิงลำดับที่ 2 ของไทย ถือว่ามีการเปลี่ยนผ่านโดยฉันทามติของรัฐสภา ดังนั้นคนไทยทุกคนสมควรยินดีกับตัวเอง เพราะทุกคนมีวุฒิภาวะมากขึ้น ไม่พาตัวเองไปสู่กับดักหรือทางตันทางการเมือง
นอกจากนี้ แขก คำผกา ยังบอกว่านี่เป็นความซิวิไลย์จากกองทัพ ด้วยเหตุนี้ ถ้าจะขอบคุณก็ไม่ใช่รื่องแปลก ยกเหตุผลเพราะทำให้รอยยับที่มีอยู่ไม่ทำให้ “ย่นมากขึ้น” ไม่เข้ามาซ้ำเติมรอยปริร้าว แต่กลับทำให้ความยับเยินนั้นคลี่คลายลง สังเกตุครั้งนี้ไม่ได้ยินเสียงแม่ทัพ ไม่ได้ยินเสียงให้สัมภาษณ์ของ ผบ.ทบ. ซึ่งไม่มีการแสดงท่าทีใด ๆ ที่ส่อให้เกิดแรงกระเพื่อมโดยไม่จำเป็น
“วันนี้นะคะ แขกขอแสดงความชื่นชมจริง ๆว่า เฮ้ย ถ้าเราจะเรียกสิ่งนี้ว่าพัฒนาการการเมืองไทย เหมือนเรามีวุฒิภาวะเติบโตมาอีกขั้นแล้วนะ อย่างน้อยกองทัพ เขาอยู่ในที่ทางของเขา อย่างเป็นมืออาชีพ อย่างน่าเคารพนับถือ”
ต่อมาช่วงหนึ่ง เจ้าของทวิต @kamphaka ได้ฉายสไลด์ซึ่งเป็นเนื้อหาข่าวในวันนี้ ทั้งทักษิณใส่เสื้อเหลืองไปศาลอาญา เพื่อตรวจพยานคดี 112 พร้อมถามกลับเจ้าของโพสต์ในข่าว อธึกกิต แสวงสุข (ใบตองแห้ง) ทำไมไม่ไปถามสมาชิกพรรคประชาชนบ้างว่า ใส่เสื้อเหลืองทำไม ?
คำผกาย้ำว่า เธอมองความตื่นตัวทางการเมืองของประชาชนใประเทศ ดีกรีลิเบอรัล เปลี่ยนแปลงไปเยอะ โดยเฉพาะในรอบ 20 ปี ที่ผ่านมา ซึ่งความเปลี่ยนแปลงทั้งหมดไม่ได้เกิดจากพรรคอนาคตใหม่ แต่ อนค. เป็นผลลิตการทำงานของคนเสื้อแดง พรรคอนาคตใหม่เป็นผลผลิตและการทำงานทางความคิดของช่องวอยซ์ ทีวี 15 ปี ซึ่งใบตองแห้ง อธึกกิต ก็มีส่วนสำคัญจนเปลี่ยนแปลงสังคม และสร้างบุคลากรขึ้นในเวทีการเมืองได้ถึงทุกวันนี้
ความเผ็ดร้อนในแง่นื้อหายังมาถึงกรณีเปลี่ยนจากบูชาคน ๆ หนึ่ง มาสู่การต่อต้าน ก่อนเจ้าของไลฟ์ประเด็นการเมืองไทยจะระบุ ณ วันนีส้มส่วนหนึ่งเป็นผลผลิตทางความคิดของคนเสื้อแดงในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา เป็นผลลผิตการทำงานทางความคิดของวอยซ์ทีวี ในช่วง 14-15 ปี แล้วตอนหลังไฮบริดตัวเองเข้ากับสลิ่มเฟส 1 เพื่อที่จะทำให้ตนเองชนะคนเสื้อแดง เพื่อทำให้ตนเองชนะเพื่อไทย แล้วจึงเกิดวาทะกรรมกดพรรค พท. ให้ต่ำลง
เกิดวาทะกรรมกดเพื่อไทยให้กลายเป็นการเมืองเก่า กลายเป็นการเมือบ้านใหญ่ กลายเป็นการเมืองตระบัดสัตย์ แบบที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
อดีตพิธีกรฝีปากกล้ายังระบุต่อให้วันนี้ ก.ก. หรือ “พรรคประชาชน” ทำงานทางความคิดต่อ อีกฝ่ายก็ไม่อาจเคลมได้ว่าต้องความคิดประชาธิปไตยแบบพรรคประชาชนหรือก้าวไกลเท่านั้นที่ถูกต้อง ประชาธิปไตยคนอื่นผิดหมดแบบนี้ไม่ใช่
ณ วันนี้ การขับเคลื่อนารเมืองแบบพรรคเพื่อไทย แขกคำผกาย้ำไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยก็ได้ แต่ถามกลับอีกฝ่ายมองไม่เห็นพลวัตของภูมิใจไทย ไทยสร้างชาติ ความเปลี่ยนแปลงพรรคพลังประชารัฐเลยหรือ อำนาจการเปลี่ยนแปลงคนในพลังประชารัฐ ความเปลี่ยนแปลงของการทำงานสภาที่เกิดขึ้น
มองไม่เห็นการปรับตัวเปลี่ยนแปลงของพรรคชาติไทยพัฒนาของวราวุธ ที่ยกมาทั้งหมด คำผกาสรุปประเด็นสำคัญเพราะทุกพรรคตระหนักว่า สมการทางการเมืองไม่เหมือน 20 ปีที่แล้ว และไม่เหมือนเมื่อปี 56-57 ที่ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” เป็นนายกฯ
“ณ วันนี้ มาถึงจุที่องคาพยพที่ยึดโยงกับประชาชน พยายามจะอะลุ่มอล่วย ค่อย ๆ แก้ไข ค่อย ๆ เปลี่ยนกติกาพร้อมกับรอความเปลี่ยนแปลงจากประชาชน เมื่อประาชนสุกงอม เราก็จะสุกงอมไปพร้อมกัน แต่ต้องไปแบบที่รอซ้าย-ขวา รอหน้า-รอหลัง ระหว่างที่รอปัญหาเศรษฐกิจ หนี้ครัวเรือนรอไม่ได้ หนี้นอกระบบ ปัญหามิจฉาชีพคอลเซ็นเตอร์รอไม่ได้ ปัญหาอาเซียนในลาว-เมียนมา ก็รอไม่ได้ ปัญหาเรืองโครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจใหม่ก็รอไม่ได้”
ดังนั้น คำผกาจึงสรุปการเมืองทั้ง “ฮาร์ดแวร์” และ “ซอฟต์แวร์” สิ่งที่ขับเคลื่อนการเมืองในนี้จิตวิญาณเป็นซอฟแวร์ ต้องอะลุ่มอล่วย ฝ่ายการเมืองต้องไม่นำประชาชนมาก เพราะที่ประชาชนยังคุยกันไม่จบ ไม่ใช่ “ประชาชนโง่” แต่ประเด็นหลายเรื่องยังมีมุมที่ไม่ตกผลึกกันอยู่มาก ถึงจะจับมือและก้าวเดินไปพร้อม ๆ กัน
แต่วิธีคิดแบบที่เจ้าตัวไปถือวิสาสะแอบส่องความเห็นมานั้น ถือว่าเป็นคนละเรื่องกับลอจิกที่มองการเมืองไทยแบบทะลุปรุโปร่งอย่างคำผกา ลักขณา ปันวิชัย ทุกประการ.
อ่านข่าวเพิ่มเติม