เปิดธุรกิจ “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร” แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 ของพรรคเพื่อไทย ลูกสาวทักษิณ ชินวัตร หากได้เป็นนายกจริง ต้องขายหุ้นทิ้ง
เดินเข้าสู่ถนนการเมืองแทบจะเต็มตัวตามรอยคุณพ่อ ทักษิณ และ อาปู ยิ่งลักษณ์ แพทองธาร ชินวัตร หลังก่อนหน้านี้ได้สร้างตัวในฐานะนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ก่อนจะมาลงสนามเลือกตั้งครั้งแรกปี 2562 ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี กระทั่งล่าสุด หลังนายเศรษฐาพ้นจากตำแหน่ง มีข่าวค่อนข้างชัวร์แล้วว่า พรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อ อุ๊งอิ๊ง ในฐานะแคนดิเดตชิงนายกคนที่ 31
ในด้านการเงิน ธุรกิจ ข้อมูลจาก Creden Data ผู้ให้บริการวิเคราะห์ข้อมูลบริษัทระบุว่า “แพทองธาร” ถือหุ้นในบริษัทต่างๆ หลายอุตสาหกรรม ดังนี้
1. ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และการพัฒนา
บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC: 28.43% มูลค่า 2,894 ล้านบาท
บริษัท เรนด์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด: 30% มูลค่า 922 ล้านบาท
บริษัท พี.ที.คอร์ปอเรชั่น จำกัด: 30% มูลค่า 914 ล้านบาท
บริษัท บี.บี.ดี. ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด: 30% มูลค่า 911 ล้านบาท
บริษัท โอเอไอ แมนเนจเม้นท์ จำกัด: 30% มูลค่า 800 ล้านบาท
บริษัท เอส ซี เค เอสเทต จำกัด: 30% มูลค่า 549 ล้านบาท
บริษัท เอสซี ออฟฟิซ พลาซ่า จำกัด: 30% มูลค่า 418 ล้านบาท
บริษัท เอส ซี ออฟฟิซ ปาร์ค จำกัด: 30% มูลค่า 70 ล้านบาท
รวมมูลค่าการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์: ประมาณ 7,478 ล้านบาท
2. ธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยว
บริษัท เทมส์ วัลลี่ย์ เขาใหญ่ โฮเต็ล จำกัด: 50% มูลค่า 201 ล้านบาท
บริษัท โอเอไอ คอนซัลแต้นท์แอนด์แมนเนจเม้นท์ จำกัด: 26.14% มูลค่า 98 ล้านบาท
รวมมูลค่าการลงทุนในธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยว: ประมาณ 299 ล้านบาท
3. ธุรกิจสนามกอล์ฟและนันทนาการ
บริษัท อัลไพน์ กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ตคลับ จำกัด: 30% มูลค่า 152 ล้านบาท
4. ธุรกิจการแพทย์และสุขภาพ
บริษัท โรงพยาบาลพระรามเก้า จำกัด (มหาชน) หรือ PR9: 0.64% มูลค่า 86.5 ล้านบาท
5. ธุรกิจลงทุนและการเงิน
บริษัท ทุนนวัตกรรม จำกัด: 45.44% มูลค่า 204 ล้านบาท
6. ธุรกิจบริการและอื่นๆ
บริษัท อัลไพน์ การ์เด้น ดีไซน์ จำกัด: 99.99% มูลค่า 36 ล้านบาท
บริษัท ประไหมสุหรี พร้อพเพอร์ตี้ จำกัด: 45.11% มูลค่า 155 ล้านบาท
รวมมูลค่าการลงทุนในธุรกิจบริการและอื่นๆ: ประมาณ 191 ล้านบาท
ทั้งนี้ หากแพทองธารได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจริง จะต้องสละการถือหุ้นทั้งหมด เนื่องจาก มาตรา 187 รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 บัญญัติไว้ว่า รัฐมนตรีต้องไม่เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท หรือไม่คงไว้ซึ่งความเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทต่อไปตามจำนวนที่กฎหมายบัญญัติ และต้องไม่เป็นลูกจ้างของบุคคลใด
อ่านข่าวอื่นๆ