‘คารม’ ซัดคนพูดมั่ว ดูถูกเด็กเก่ง มรภ.บุรีรัมย์ สอบครูผู้ช่วยอันดับ 1 มากถึง 41 คน
มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์สร้างสถิติใหม่ บัณฑิตจากคณะครุศาสตร์คว้าอันดับที่ 1 ในการสอบบรรจุครูผู้ช่วยถึง 41 คน จากจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ไม่วายโดนครหา โกงข้อสอบ คารม ออกโรงปกป้อง ซัดคนกล่าวหาลอยๆ ดูแคลนความสามารถ
ความสำเร็จครั้งนี้ เพจเฟซบุ๊กมหาวิทยาลัยได้โพสต์แจ้งข่าวแสดงความยินดี “กับครุศาสตรบัณฑิต หลักสูตร 5 ปี มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ในการสอบบรรจุเพื่อเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี พ.ศ. 2567” แต่ในขณะเดียวกันก็เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ถึงความโปร่งใสในการสอบ ลามไปถึงถามว่าข้อสอบรั่วหรือไม่
ล่าสุด รศ.มาลิณี จุโฑปะมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ได้ออกมาชี้แจงถึงประเด็นข้อสงสัย โดยยืนยันว่าความสำเร็จของนักศึกษาไม่ได้เกิดจากการทุจริต แต่เป็นผลมาจากกระบวนการคัดเลือกและฝึกอบรมที่เข้มข้นของทางมหาวิทยาลัย
“หลักสูตรครุศาสตร์บัณฑิตของเราใช้เวลาเรียน 5 ปี ซึ่งมากกว่ามาตรฐานทั่วไป 1 ปี โดยมีการฝึกประสบการณ์จริงในโรงเรียนนานถึง 1 ปีเต็ม นอกจากนี้เรายังมีเกณฑ์การรับนักศึกษาที่สูง โดยกำหนดเกรดเฉลี่ยขั้นต่ำ 3.00 เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ที่เข้ามาเรียนมีความพร้อมที่จะเป็นครูที่มีคุณภาพ” รศ.มาลิณีกล่าว
อธิการบดียังได้เน้นย้ำว่า มหาวิทยาลัยให้ความสำคัญกับการปลูกฝังจิตวิญญาณความเป็นครู และมุ่งผลิตบัณฑิตที่มีความรู้ความสามารถพร้อมที่จะสร้างสรรค์สังคม
ด้าน นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่มีบทสรุปว่าเป็นจริงตามที่มีคนกล่าวหา วิธีคิดแบบนี้เป็นวิธีคิดที่มองคนอื่นเลวหมด พวกฉัน อาชีพฉัน คนบ้านฉันดีคนเดียว แถมยังดูแคลนไปถึงอาชีพคนที่ลงสมัครสมาชิกวุฒิสภา ว่ามีอาชีพเป็นดีเจงานศพ มีอาชีพขับรถ มีอาชีพที่ไม่มีชื่อเสียง ไม่มีเกียรติ ซึ่งหลายคนลืมไปว่าคนบางคนเขาอาจไม่มีชื่อเสียง ไม่มีอาชีพที่ใหญ่โต ไม่ใช่พ่อค้าร่ำรวย ไม่ใช่อดีตข้าราชการใหญ่ แต่คนเหล่านี้เขาก็มีเกียรติ มีความสามารถ เขาจึงได้รับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา และอาชีพของเขาก็เป็นอาชีพที่ระเบียบของ กกต. กำหนดไว้ทั้งนั้น
เพราะฉะนั้นคนที่กล่าวหา นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ที่เขาสอบเข้าทำงาน เพื่อจะไปเป็นครู ไปสอนเด็ก กลับมากล่าวหาเขาทุจริต แบบไร้ความรับผิดชอบ ถือว่าขาดวุฒิภาวะ ขาดความเมตตาธรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่มนุษย์พึงมี
หากคิดอีกมุมหนึ่ง ทำไมไม่คิดถึงว่า ครอบครัวเขาอาจทุ่มเท ส่งเสียลูกหลานเขามาเพื่อจบแล้วจะได้มีงานทำ ความจริงเขาอาจเป็นครูที่ดี และมีโอกาสมาสอนลูกหลานท่านก็ได้ และอาจมาสอนลูกหลานท่านให้เป็นคนดีก็ได้
อีกทั้งเด็กเหล่านี้ เขาอาจมีครอบครัวที่ยากจน แต่เขาใช้ความพยายามในการเรียน และมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ก็มีหลักสูตรการเรียนการสอนถึง 5 ปี ที่ทำให้เด็กเหล่านี้เก่งได้ เพราะฉะนั้นคนที่วิพากษ์วิจารณ์ด้วยการกล่าวหา แบบไร้หลักฐาน มีแต่จินตนาการ และด้อยค่าคนอื่น สมควรถูกประณาม
คนเก่งในต่างจังหวัดมีแทบทุกจังหวัดไม่ใช่เฉพาะจังหวัดบุรีรัมย์ เช่น นักเรียนของโรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัย จังหวัดร้อยเอ็ด สามารถสอบเข้าติดคณะแพทยศาสตร์ ได้เกือบทั้งชั้นเรียน แต่จังหวัดร้อยเอ็ดก็ไม่ได้มีคนจังหวัดร้อยเอ็ดเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัติกรรรม หรือ อว. แต่อย่างใด แต่อาจเป็นเพราะเด็กเขาเรียนเก่ง และครูสอนดี