จับ “เมย์ พิมพ์ประภัสสร” คาชุดปฏิบัติธรรม คดีหลอกลงทุน Forex
สืบนครบาล รวบตัว เมย์ พิมพ์ประภัสสร อดีตแม่ทีมแชร์ลูกโซ่ Forex ผันตัวมาเป็นสายบุญหวังตบตาเจ้าหน้าที่ หลังก่อเหตุหลอกลวงเหยื่อร่วมลงทุนสูญเงินกว่า 5 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2567 เจ้าหน้าที่สืบนครบาล ได้ทำการจับกุมตัว น.ส. พิมพ์ประภัสสร อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน โดยจับกุมได้ที่บริเวณภายในลานจอดรถวัดดัง ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
ย้อนกลับไปในปี 2560 เมย์ พิมพ์ประภัสสร เคยเป็นแม่ทีมคนสำคัญของบริษัท โอดี แคปปิตอล จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งในแชร์ลูกโซ่ Forex ที่โด่งดัง ได้ชักชวนผู้สนใจเข้ามาร่วมลงทุนได้เป็นจำนวนมาก และยังมีการพูดโน้มน้าวว่าถ้าสามารถชักชวนผู้สนใจมาร่วมลงทุนได้มากจะได้สิทธิพิเศษไปเที่ยวต่างประเทศ ทำให้มีผู้สนใจเข้าไปร่วมลงทุนและสูญเงินกว่า 5,000,000 บาท โดยเมย์ข่มขู่เหยื่อว่า หากเข้าแจ้งความจะไม่ได้รับเงินคืน ซ้ำยังแปลงโฉมหวังตบตาและพรางตัวการหลบหนีจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ
หลังจากวงแชร์ล่ม ผู้บริหารบริษัทเริ่มถูกจับกุม เมย์ได้เลิกอาชีพแม่ทีมลูกโซ่ และผันตัวมาเป็นเจ้าแม่สายบุญในปัจจุบัน ซึ่งมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี หลังจากไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง และไม่สามารถติดต่อเมย์ได้ จึงมีการออกหมายเรียกเพื่อให้มารับทราบข้อกล่าวหา แต่ผู้ต้องหาไม่มาตามหมายเรียก จึงขออนุมัติศาลออกหมายจับ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลสำคัญว่า เมย์มักไปทำบุญที่วัดเป็นประจำ โดยมีการปรับเปลี่ยนทรงผมอยู่บ่อยครั้ง เพื่ออำพรางตัวเองไม่ให้เจ้าหน้าที่จับได้ จึงมีการส่งตำรวจหญิงใส่ชุดขาวแฝงตัวเข้าร่วมการทำบุญและปฏิบัติธรรมในวัดดังย่านคลองหลวง จนได้พบกับ น.ส.พิมพ์ประภัสสร ที่มีทรงผมใหม่อีกครั้ง
ในครั้งนี้ ผู้ต้องหาใส่วิกผมสีน้ำตาลติดโบสีขาวด้านหลัง แต่ไม่สามารถตบตาตำรวจได้ จึงถูกจับกุมตัวได้คาวัด เบื้องต้น น.ส. พิมพ์ประภัสสรให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่าในปี 2560 ตนได้รับการชักชวนจากคนรู้จักให้ร่วมลงทุนเกี่ยวกับการเทรดหุ้น และได้เงินจากการลงทุนจริง จึงเริ่มชักชวนคนรอบตัวมาร่วมลงทุนเพิ่ม ต่อมาปี 2561 บริษัทที่ลงทุนเริ่มประสบปัญหาในการจ่ายปันผล ไม่ได้เงินตามที่ลงทุนไป ทำให้ตนไม่สามารถนำไปคือนเหยื่อได้จึงถูกดำเนินคดีในที่สุด
ส่วนเรื่องการเปลี่ยนทรงผมบ่อย ตนให้การว่า ปัจจุบันตนผมสั้นเพราะเพิ่งสึกจากการบวชที่วัดแถวพิษณุโลก ทำให้ต้องใส่วิกผมยาวตอนออกไปวัดธรรมกาย รวมทั้งลูกชายชื่นชอบให้เปลี่ยนทรงผมบ่อยครั้ง ตนจึงตามใจลูก โดยหลังจับกุมตัวเมย์ถูกนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของน.ส.พิมพ์ประภัสสร และจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป พร้อมฝากเตือนประชาชนให้ระวังกลโกงโดยคนร้ายมักใช้ช่องทางออนไลน์เป็นเครื่องมือในการหลอกล่อเหยื่อให้ร่วมลงทุนหรือโอนทรัพย์สิน เพราะมีผู้เสียหายในคดีรูปแบบนี้เป็นจำนวนมาก และหากพบเห็นการกระทำความผิด สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่เพสืบนครบาล IDM
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง