ข่าว

สาวเล่าประสบการณ์ ถูกสามีนอกใจ คบรุ่นน้องที่ทำงานวัย 24 สุดช้ำเพื่อนสนิทรู้เห็นทั้งหมด

สาวโพสต์เล่าประสบการณ์ตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงจุดจบ เมื่อถูกคนรักที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกันกว่า 15 ปีหักหลัง แอบไปมีสัมพันธ์กับรุ่นน้องที่ทำงานวัย 24 ปี โดยมีเพื่อนสนิทรู้เห็นในการกระทำครั้งนี้ด้วย จากผู้หญิงคนหนึ่งที่รักและเชื่อใจสามีมาก ๆ กลายเป็นคนที่กล้ายอมรับความจริงและพาตัวเองเดินออกมาจากความสัมพันธ์ที่น่าขยะแขยงนี้ได้ โดยเธอได้เล่าว่า

สามีของเธอเริ่มมีพฤติกรรมแปลก ๆ เช่น ติดโทรศัพท์มากขึ้นและหงุดหงิดบ่อย ๆ จนกระทั่งวันที่ 9 มีนาคม 2567 เธอได้ขอดูโทรศัพท์ของสามีและพบข้อความใน Line ที่คุยกับเพื่อนสนิทเกี่ยวกับน้องอายุ 24 ซึ่งเป็นมือที่สามที่เข้ามาทำลายความรัก 15 ปีในครั้งนี้ ข้อความเหล่านั้นเต็มไปด้วยการนัดพบและการคุยอย่างสนุกสนานโดยไม่มีใครสักคนที่รู้สึกผิดเลย

รุ่นน้องอายุ 24 ทักข้อความมาหาสามีของเธอตลอดเวลาแม้แต่ในช่วงเวลาที่เธอและสามีอยู่ด้วยกันที่บ้าน บางข้อความใน dm ถูกลบไป แต่สามีก็แคปหน้าจอเก็บไว้ในช่องแชตของเพื่อน นั่นจึงนำไปสู่หนทางที่ทำให้เธอมีหลักฐานมากมายกับการนอกใจของสามี

เธอตัดสินใจขอเลิกในทันที ในช่วงที่เลิกกันฝ่ายชายแสดงละครทุกอย่างด้วยการร้องไห้เสียใจพร้อมคุกเข่าขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้นและไม่อยากให้เป็นแบบนี้ ทั้งยังขอโอกาสแก้ตัวและสัญญาว่าจะเลิกคุยกับสาวรุ่นน้อง สุดท้ายก็โดนหักหลังอย่างรุนแรง เพราะทั้งคู่กลับไปแอบแชตคุยและวิดีโอคอลกันอยู่เหมือนเดิมผ่านทางเพื่อนสนิท

เธอขอเลิกอีกครั้งหลังในวันที่ 22 มีนาคม 2567 โดยสามีเลือกน้องอายุ 24 แทนที่จะกลับมาปรับปรุงตัวและรักษาความสัมพันธ์กับภรรยาเอาไว้ แต่ทว่าด้วยความสามีคนนี้คือรักแรกและรักเดียวของเธอ เธอจึงไม่สามารถที่จะทนกับความรู้สึกนี้ไปได้ เธอคิดว่าควรให้โอกาสสามีอีกครั้งจึงโทรไปหาสามีและขอให้กลับมา สามีก็ยอมกลับมาและบอกว่าจะลาออกจากงานในต้นเดือนเมษายน 2567 เพื่อจะได้ลองกลับมาอยู่ด้วยกันและปรับปรุงความสัมพันธ์ฉันท์สามีภรรยา แต่สามีก็ขอทำงานจนถึงสิ้นเดือน

ความเป็นผู้หญิงมันก็จะมีเซ้นต์บางอย่างที่เด้งขึ้นมา เธอรู้สึกว่าไม่อยากปล่อยเวลาให้นานเพราะรู้ว่าการอยู่ต่อ = การแอบคุยและแอบเจอกับน้องอายุ 24 ต่ออีกแน่นอน ดังนั้น สามีจึงโทรไปบอกน้องอายุ 24 คนนั้นว่าจะกลับมาคบกับภรรยา โดยมีเจ้าของโพสต์อยู่ในสายด้วย แต่ความจริงแล้วอาจรู้กันอยู่แล้วและทำเป็นโทรไปบอกเท่านั้น

ในอาทิตย์ที่ 3 เธอพยายามมาก ๆ เพื่อกลับมาเป็นครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็พบว่าสามีของเธอยังคงแอบไปคุยกับน้องอายุ 24 อีกครั้งในวันที่ 21 มีนาคม 2567 โดยจับได้จากการแคปหน้าจอโทรศัพท์ที่แสดงภาพการวิดีโอคอลกับน้องอายุ 24 ที่นอนอยู่บนเตียง วันที่ 22 มีนาคม 2567 เพชรตัดสินใจบอกเลิกสามีอย่างเด็ดขาด เพราะสามีเลือกน้องอายุ 24 และไม่พยายามแก้ไขหรือกลับมาปรับปรุงความสัมพันธ์กับเพชรและครอบครัวเลย

เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ทำให้เพชรต้องการบันทึกเรื่องราวไว้เพื่อเตือนใจตัวเองและให้ข้อคิดแก่ผู้อื่นในการเผชิญกับการนอกใจและความสัมพันธ์ที่ไม่ดี

ในอาทิตย์ที่ 4 ของเดือนมีนาคม ปี 2567 ความสัมพันธ์ของเราและสามีถึงจุดวิกฤตอีกครั้ง เมื่อเราเดินทางไปหาสามีที่ทำงานโดยไม่ได้บอกล่วงหน้า เมื่อถึงที่ทำงาน สามีพยายามลบข้อความในโทรศัพท์เกี่ยวกับน้องอายุ 24 รวมถึงคลิปเสียงที่อัดไว้จากวันที่ 18 มีนาคม ที่เอาดวงของเราสามคนไปดูดวง แต่สิ่งที่เจอทำให้เราตกใจยิ่งกว่า คือ การแอบคุยกันใน G-mail ตลอดทั้งอาทิตย์ที่ผ่านมา มีการส่งข้อความกันเป็นร้อยๆ ข้อความ และมีการอำลากันด้วยการจับมือ ซื้อ Starbucks และให้ของขวัญเป็นตุ๊กตา Pop mart

วันนั้นเราเสียใจมาก และขอให้สามีพาน้องอายุ 24 มาคุยกัน แต่สุดท้ายน้องก็ไม่มาพบ แม้จะขอความช่วยเหลือจากเพื่อนที่ทำงานและพี่ๆ แต่ทุกคนกลับช่วยกันปกปิดและกีดกันไม่ให้เจอน้องอายุ 24 ทำให้รู้สึกโดดเดี่ยวและถูกหักหลังสองเท่า จากนั้นเราจึงขอให้สามีลาออกจากงานทันที แต่สามีขอทำงานต่อเนื่องจากน้องอายุ 24 ลาทั้งอาทิตย์ สุดท้ายก็พบว่าทั้งสามีและเพื่อนๆ ในที่ทำงานต่างร่วมมือกันโกหก

เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เป็นการสรุปเรื่องราวความเจ็บปวดและการนอกใจที่เราเผชิญ เพื่อเตือนใจตัวเองและให้ข้อคิดแก่ผู้อื่นในการเผชิญกับการนอกใจและความสัมพันธ์ที่ไม่ดี

ในวันที่ 18 มีนาคม 2567 สามีของฉันได้แอบพาฉันและน้องอายุ 24 ไปดูดวงกับหมอดู ซึ่งสามีของฉันเชื่อเรื่องดวงอย่างมาก โดยหมอดูได้พยากรณ์ดวงของพวกเราอย่างละเอียดและระบุว่าดวงของน้องอายุ 24 และสามีของฉันจะไปด้วยกันได้ดีและส่งเสริมกันในด้านการเงิน นอกจากนี้ หมอดูยังทำนายว่าในปี 2568 สามีของฉันอาจจะมีลูกกับคนอื่นที่ไม่ใช่ฉัน โดยมีโอกาสเป็นน้องอายุ 24 มากที่สุด

ความเชื่อเรื่องดวงของสามีและความรักที่มีต่อน้องอายุ 24 ทำให้สามีตัดสินใจว่าอยากจะอยู่กับน้องอายุ 24 มากกว่า ซึ่งสามีก็ไม่ได้คาดหวังอะไรจากการแต่งงานกับน้องอายุ 24 แต่กลับเล่าเรื่องนี้บ่อยครั้ง ทำให้รู้สึกว่าความเชื่อของเขาส่งผลต่อการตัดสินใจ

แม้จะผ่านเหตุการณ์ที่เจ็บปวดหลายครั้ง แต่ฉันยังคงหวังว่าสามีจะกลับมาอยู่กับฉันและเราจะกลับมาเป็นครอบครัวที่มีความสุขอีกครั้ง ถึงแม้ว่าจะต้องอดทนและรอคอย แต่ฉันก็พร้อมที่จะทำทุกอย่างให้เต็มที่เพื่อรักษาครอบครัวของเรา

สิ่งที่ต้องบันทึกนี้เพื่อเตือนใจตัวเองและคนอื่นว่า เมื่อเผชิญกับการนอกใจและความไม่ซื่อสัตย์ ความอดทนและการให้โอกาสอาจไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุดเสมอไป แต่ต้องหาทางออกที่เหมาะสมเพื่อความสุขในระยะยาว

อาทิตย์ที่ 5 เริ่มต้นด้วยความเครียดและความรู้สึกผิดของสามีที่ไม่สามารถไปทำงานในสัปดาห์สุดท้ายได้ เรารู้สึกสงสารและยอมใจอ่อนให้เขากลับไปทำงาน โดยมีข้อแม้ว่าต้องนั่งรถตู้ไปกลับอยุธยา-กรุงเทพฯ ทุกวัน เนื่องจากเราเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย

เมื่อถึงวันทำงาน เราได้วิดีโอคอลหาสามีและพบว่าเขาแอบลบข้อความที่คุยกับน้องอายุ 24 ตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งเราได้ค้นพบว่าแอบคุยกันผ่าน G-mail โดยพบการคุยกันเป็นร้อยๆ ข้อความ และยังมีการอำลาในช่วงเช้าก่อนที่เราจะมาถึง เมื่อเราพบความจริงนี้ เราตัดสินใจว่าจะต้องเจอกับน้องอายุ 24 ให้ได้ สามีแอบส่งข้อความไปบอกน้องอายุ 24 ว่า “เพชรมาด้วยนะ” ซึ่งในตอนแรกสามีไม่ยอมให้เราเจอน้องอายุ 24 แต่สุดท้ายยอมให้เราโทรหาพี่ R เพื่อนัดเจอ

ในช่วงบ่ายสามีแอบส่งข้อความให้เพื่อนสนิทที่เป็นสะพานให้บอกกับน้องอายุ 24 ว่า “ฝากบอกน้องด้วย เราไปด้วยกัน 2-3 ครั้ง วันศุกร์ที่เลิกกับเพชร เราไปเซ็นลาดกัน” ซึ่งเป็นการเตี้ยมกันล่วงหน้า เมื่อถึงเวลานัดคุย น้องอายุ 24 มากับพี่ R การสนทนาเปิดเผยว่าสามีเราเป็นคนทักไปก่อนเสมอ และน้องอายุ 24 ก็ใจอ่อนตอบกลับเสมอ ทั้งสองคนรู้อยู่แล้วว่าสามีจะต้องทักไป และน้องอายุ 24 จะตอบกลับแน่นอน

เราบอกสามีว่า “คนนึงก็อยากทักไป ส่วนอีกคนก็พร้อมจะตอบ ไม่เห็นมีใครอยากหยุดเลย” สามีตอบกลับว่า “สามีจะหยุดเอง จะไม่ทักน้องอายุ 24 ไปแล้ว” และน้องอายุ 24 ก็สัญญาว่าจะไม่ตอบสามีอีก (การละครสุดๆ) แต่เราก็ยังรักสามีมาก พร้อมให้อภัยในทุกข้อเสีย คิดว่าซักวันจะดีขึ้น

ช่วงที่สามีออกจากงานประจำมาอยู่บ้าน สามีเหมือนคนตายซากไร้จิตใจ เราต้องตื่นเช้าเพื่อใช้เวลากับสามีและทำงานที่ร้านยา ทั้งเหนื่อยและกดดันจากทุกด้าน แต่ก็ยอมทำเพราะหวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้น

ตั้งแต่กลับมาอยู่บ้าน เรารู้สึกว่าสามีไม่เหมือนเดิม เขาสูญเสียหลายอย่างทั้งงานและเพื่อน สามีไม่สามารถจัดการกับความรู้สึกที่มีต่อน้องอายุ 24 ได้ เราพยายามทำทุกอย่างให้เหมือนตอนที่เราอยู่ด้วยกัน 2 คน และพูดคุยเพื่อหาทางแก้ไขปัญหา แต่สามีไม่พยายามทำอะไรให้ดีขึ้น ไม่ปรับจูนกัน ไม่ทำให้ชีวิตครอบครัวดูมีความหวังขึ้นมา นอกจากหาอะไรทำให้ผ่านไปวันๆ จนเราทนไม่ไหวต้องถามว่า ไม่คิดจะทำอะไรให้มันดีขึ้นเลยหรือ คำตอบที่ได้คือ “ก็กลับมาอยู่ด้วยกันแล้วไง ยังมีเวลาอีกตั้งนาน”

เมื่อวันที่ 12 เม.ย. 67 เราไปเที่ยวราชบุรีด้วยกัน แต่สามีไม่สนุกเลย ทั้งวันทำตัวห่างเหิน จนตอนเย็นเราต้องนั่งคุยกัน สุดท้ายตกลงว่าจะเลิกกัน เพราะสามีไม่รู้สึกเหมือนเดิมและใจเอนไปหาน้องอายุ 24 หลังจากนี้เราจะอยู่ด้วยกันเพื่อให้เราทำใจได้ก่อนที่สามีจะไป (ช่วงนั้นเรายังมีความรักและห่วงสามีมาก คิดไปไกลว่ายังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้)

หลังกลับจากราชบุรี เรายังมีความหวังจากคำพูดของสามี จนยายเราลงมาจากเพชรบูรณ์และพูดคุยกับสามี สามีบอกยายว่าจะกลับมาคบกับเรา ตอนนั้นเราดีใจมาก แต่สุดท้ายสามีกลับมาทำตัวเหมือนเดิม ไม่สนใจเรา และเราจับได้ว่าสามีแอบคุยกับน้องอายุ 24 ในเกม สามีบอกว่าไม่มีอะไร แต่ข้อความที่เราเห็นคือ “ถ้าเจอกัน พี่ขอกอดๆนะ” ซึ่งเราเลือกปล่อยผ่านเพราะคิดว่าไม่ได้เจอกันแล้ว

ระหว่างนั้นเราพยายามหาลู่ทางทำธุรกิจ แต่สามีบอกว่าอยากทำธุรกิจกับเพื่อน ไม่อยากทำกับคนที่บ้าน จังหวะนั้นเรารู้เลยว่าภาพในอนาคตของสามีไม่มีเราอยู่แล้ว

วันที่ 25 เม.ย. 67 เราให้น้องคุยกับสามี สามีบอกกับน้องเราว่าที่บอกกับยายว่าจะกลับมาคบกับเราเพราะเกรงใจ ตอนนี้อยากมีชีวิตอิสระไม่ผูกมัดกับใคร สุดท้ายตกลงเลิกกัน สามีบอกครอบครัวว่าอยากอยู่คนเดียว แต่จริงๆยังแอบคุยกับน้องคนนั้นอยู่ทุกวัน สามีโกหกทุกคนเพื่อรักษาภาพลักษณ์ ในการเลิกกันครั้งนี้ เรายังรักสามีมาก และยังมีความหวังแม้น้อยนิด เพื่อให้ตัวเองเข้มแข็งพอที่จะอยู่ต่อไปในแต่ละวัน

หลังจากการเลิกกันล่าสุด จนถึงปัจจุบัน เรื่องราวความพยายามที่จะปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างเราและสามีเป็นเพียงความพยายามฝ่ายเดียวของเรา สามีของเราไม่ทำอะไรเลย ไม่พยายามแก้ไขหรือปรับปรุงความสัมพันธ์ เวลาที่ถามสามีว่าจะทำยังไงให้ทุกอย่างดีขึ้น สามีมักจะตอบว่า “กำลังสับสน คิดอะไรไม่ออก” ความพยายามทั้งหมดจึงตกเป็นหน้าที่ของเราเพียงคนเดียว

เมื่อย้อนกลับไปดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราพบว่าสามีไม่ได้ทำอะไรเลย ทั้งไม่คิดจะหยุดนอกใจหรือพยายามแก้ไขตัวเอง สิ่งที่สามีทำคือการเล่นละครเพื่อให้เราตายใจ ให้คนรอบข้างเชื่อว่ารักเรามาก ซึ่งวัตถุประสงค์หลักคือการเก็บผู้หญิงทั้งสองคนไว้ สามีบอกกับครอบครัวว่าต้องการเวลาอยู่คนเดียวและยังไม่กลับไปคุยกับน้องอายุ 24 แต่ในความเป็นจริง สามีทักไปคุยกับน้องตั้งแต่วันที่เลิกกัน ประโยคที่สามีพูดกับเราในการคุยโทรศัพท์ครั้งสุดท้าย เช่น “ข้าไปไหนไม่ได้ซักที เพราะมีเพชรเป็นบ่วงอยู่แบบนี้” แสดงถึงความไม่พอใจของสามีที่ยังมีเราเป็นภาระอยู่

ในความสัมพันธ์นี้ เรากลายเป็นคนร้ายที่บีบคั้นให้สามีต้องตัดสินใจ แต่สำหรับสามี น้องอายุ 24 กลับกลายเป็นพื้นที่สบายใจเพราะไม่บีบคั้นอะไรเลย ตลอดเวลาที่ผ่านมา สามีไม่ได้คิดจะกลับมาหาเรา ไม่มีความสำนึกหรือคิดจะกลับตัวกลับใจเลย

สุดท้าย การที่เราไม่ติดต่อกับสามีหลังจากเลิกกัน กลายเป็นเรื่องดีสำหรับสามีเพราะทำให้สามีไม่ต้องเจอเราหรือมีเราเป็นภาระ สามีถึงขนาดแนะนำเพื่อนที่โดนนอกใจว่า “ต้องทำให้ได้แบบเพชร ไม่โทร ไม่คุย ไม่ตอบแชทเลย” แสดงถึงความไม่แคร์และการที่สามีไม่เคยรักใครเลยนอกจากตัวเอง

การที่สามีเลือกทิ้งเราและไปใช้ชีวิตกับน้องอายุ 24 ซื้อของให้ โอนเงินให้ และเลี้ยงข้าว แสดงให้เห็นว่าสามีไม่เคยคิดที่จะพยายามทำอะไรให้ครอบครัวเราเลย ทิ้งภาระทั้งหมดไว้ให้เราเพียงคนเดียว สามีของเราเปิดเผยความรู้สึกอย่างตรงไปตรงมา โดยไม่สนใจว่าคนฟังจะรู้สึกอย่างไร หากรับได้ก็รับไป หากรับไม่ได้ก็ช่างมัน การนอกใจของสามีดูเหมือนเป็นการปลดล็อคตัวเอง สามีต้องการลองสานสัมพันธ์กับน้องอายุ 24 อย่างเต็มที่ ทั้งใจและกาย หรือหากไม่รอดก็อาจไปคบกับผู้หญิงคนอื่น สามีไม่ได้อยากกลับมาหาเรา แต่เราเป็นตัวเลือกสุดท้ายหลังจากที่ไม่เหลือใครแล้ว

สามีบอกกับคนอื่นว่าไม่มั่นใจว่าจะไปกับน้องอายุ 24 รอดหรือไม่ ครอบครัวของน้องอายุ 24 จะรับได้ไหม แต่จริงๆแล้วสามีตั้งใจที่จะไปกับน้องอายุ 24 เพื่อลบคำสบประมาทจากทุกคน สามีตีความว่าทุกคนกำลังดูถูกว่าเขาจะไปกับน้องอายุ 24 ไม่รอด ทั้งที่จริงๆแล้วทุกคนเตือนด้วยความหวังดี

สามีขอเวลาเพื่อสานต่อความสัมพันธ์กับน้องอายุ 24 ก่อนแล้วจะกลับมา ทำให้เรารู้สึกว่าการขอเวลาแบบนี้แย่มาก สามียังสารภาพว่าตอนที่คบกับเราก็แอบคุยกับนักศึกษาคณะพยาบาลและคนนอกที่ทำงานมาตลอด เพียงแต่เราไม่เคยจับได้

สามีเล่าเรื่องการแอบไปเที่ยวห้างกับน้องอายุ 24 นั่ง BTS ไปส่งที่สถานีใกล้บ้าน จับมือ โอบเอว และแอบไปกินข้าวด้วยกันทุกอาทิตย์ แต่บอกเราว่าซื้อข้าวมากินที่โต๊ะทำงาน สามียังบอกว่าแฟนเก่าของน้องอายุ 24 อยากให้น้องไปอยู่คอนโดด้วย แต่สามีคิดว่าน้องอายุ 24 ติดบ้านและพ่อแม่มากกว่า

สุดท้ายสามีบอกว่า “คงมีคนอีกเยอะที่คิดไม่ได้เหมือนสามี” ซึ่งสามีมักเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนที่แย่กว่าเพื่อให้ตัวเองดูดี สามีบอกกับเพื่อนว่า “ถ้าเป็นกูนะ ถ้ากูไม่ได้ ก็ยังไม่มีใครได้น้อง” แต่ในความเป็นจริงสามีไม่เคยพยายามทำอะไรให้ดีขึ้นเลย

เราเลยบอกว่า “คนนึงก็อยากจะทักไป ส่วนอีกคนก็พร้อมจะตอบ ไม่เห็นมีใครอยากหยุดเลย” สามีก็พูดแทรกขึ้นมาทำตัวเป็นพระเอกสุดๆ “สามีจะหยุดเอง จะไม่ทักน้องอายุ 24 ไปแล้ว” และน้องอายุ 24 ก็สัญญาว่าจะไม่ตอบสามีเราอีกแล้ว (การละครสุดๆ)

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ้างอิงจาก : FB Phet Phetcharat

GIFT T.

Rewriter สาวจากรั้วสวนดุสิต เก็บเกี่ยวประสบการณ์งานข่าวมากว่า 5 ปี ชื่นชอบการส่งต่อเรื่องราวเกี่ยวกับ ไลฟ์สไตล์ หวย และข่าวบันเทิง พร้อมเปิดมุมมองใหม่ ๆ ให้นักอ่านได้เห็นประเด็นรอบด้านมากยิ่งขึ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button