เที่ยวบิน QA107 กาตาร์แอร์เวย์ส จากโดฮาไปไอร์แลนด์ ตกหลุมอากาศ เหนือน่านฟ้าตุรกี บาดเจ็บ 12 ราย โชคดีไร้ผู้เสียชีวิต
คืนวันอาทิตย์ (26 พ.ค. 67) ตามเวลาประเทศไทย สำนักข่าวต่างประเทศ รายงาน เที่ยวบินของกาตาร์แอร์เวย์ส เที่ยวบิน QR107 จากโดฮาสู่ดับบลิน ประเทศไอรแลนด์ ประสบอุบัติเหตุ ตกหลุมอากาศ ส่งผลให้มีผู้โดยสารและลูกเรือได้รับบาดเจ็บ 12 ราย
เที่ยวบินดังกล่าว โดยสารด้วย Boeing 787-9 ลงจอดที่ดับลินก่อนเวลา 13.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น และได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยฉุกเฉินของสนามบินทันที
จากรายงานของสนามบินดับลิน มีผู้โดยสาร 6 คนและลูกเรือ 6 คนได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้ 8 รายถูกนำส่งโรงพยาบาลเพื่อตรวจอาการเพิ่มเติม หลุมอากาศเกิดขึ้นขณะที่เที่ยวบิน บินอยู่เหนือน่านฟ้าประเทศตุรกี
ทางสายการบินกาตาร์แอร์เวย์สระบุว่า “ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนภายใน ความปลอดภัยของผู้โดยสารและลูกเรือคือสิ่งที่เราให้ความสำคัญสูงสุด”
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากเที่ยวบินของสิงคโปร์แอร์ไลน์ เดินทางจากอังกฤษมุ่งหน้าไปสิงคโปร์ ประสบเหตุการณ์หลุมอากาศรุนแรง เหนือน่านฟ้าเมียนมา ต้องจอดฉุกเฉินที่สนามบินสุวรรณภูมิ มีผู้โดยสารบาดเจ็บกว่า 100 ราย และผู้โดยสาร 1 รายเสียชีวิต
หลุมอากาศมีแนวโน้มเกิดถี่ขึ้นหรือไม่?
ในแต่ละปี ที่สหรัฐอเมริกา มีเครื่องบินประมาณ 65,000 ลำที่ประสบกับการตกหลุมอากาศระดับปานกลาง และประมาณ 5,500 ลำที่พบกับหลุมอากาศรุนแรง
ตัวเลขเหล่านี้อาจมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ศาสตราจารย์พอล วิลเลียมส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์บรรยากาศจากมหาวิทยาลัยเรดดิ้งในสหราชอาณาจักร ให้สัมภาษณ์กับ CNN ในปี 2022 ว่าเขาเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลต่อการเกิดหลุมอากาศ
“เราทำการจำลองด้วยคอมพิวเตอร์และพบว่าหลุมอากาศรุนแรงอาจเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าหรือสามเท่าในอีกไม่กี่ทศวรรษข้างหน้า”
ผลการวิจัยนี้ ได้รับการยืนยันจากการสังเกตการณ์ในภายหลัง เน้นย้ำถึงประเภทของหลุมอากาศที่เรียกว่า “Clear Air Turbulence” หลุ่มอากาศในสภาพท้องฟ้าแจ่มใส ซึ่งไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ไม่เหมือนกับหลุมอากาศทั่วไป มันเกิดขึ้นอย่างกะทันหันและยากที่จะหลีกเลี่ยง
ตอนนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเที่ยวบินของกาตาร์แอร์เวย์สประสบกับหลุมอากาศประเภทใด
ที่มา : CNN
