อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร แจงกรณีกล่าวกระทบผู้ว่าแบงก์ชาติ ว่าอยากให้รัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทยมีเป้าหมายเดียวกัน ยืนยันรีบเดิน ไม่ได้หนีนักข่าว แต่วันนั้นมีงานต่อ
เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 67 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ กรณีปาฐกถาวิพากษ์วิจารณ์ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในงาน 10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10 ที่พรรคเพื่อไทยว่า ที่กล่าวกระทบต่อผู้ว่าแบงก์ชาตินั้น จริงๆ มีวัตถุประสงค์อยากให้รัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทยมีเป้าหมายร่วมกันคือประชาชน เพราะหากมีเป้าหมายร่วมกันจะสามารถทำงานจนบรรลุเป้าหมายได้ ซึ่งความเดือดร้อนประชาชนรวมถึงความเป็นอยู่ ต้องเป็นเป้าหมายร่วมกัน
รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ตนก็เป็นส่วนหนึ่งของพรรค ต้องการให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน ส่วนการปาฐกถาในเวทีใหญ่ มีพูดเรื่องนั้นเรื่องนี้ เช่น เรื่องสังคม เหตุการณ์ปัจจุบัน มีการเตรียมการก่อนอยู่แล้ว และต้องเตรียมคำตอบให้กับสื่อมวลชนเมื่อถูกถาม และการพูดครั้งนั้นมองว่าเป็นการพูดเพื่อสนับสนุนการผลักดันนโยบายของรัฐบาล มองว่าหากจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ทั้งรัฐบาล และตนเอง ก็สามารถถูกวิพากษ์วิจารณ์ได้มาโดยตลอด เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ เป็นเรื่องปกติ
ส่วนกระแสข่าวที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้ไปพูดคุยกับตัวแทนชนกลุ่มชาติพันธุ์ในเมียนมาว่า นายทักษิณเป็นอดีตนายกฯ เป็นคนไทยคนหนึ่งที่เชื่อว่ามีความห่วงใยบ้านเมืองอยู่เสมอ แม้ว่าจะไปอยู่ที่ต่างประเทศเป็นเวลา 17 ปี แต่ก็ยังมีความเป็นห่วงพี่น้องคนไทย อะไรที่ช่วยได้ก็ต้องช่วย เชื่อว่าคนไทยทุกคนก็คิดแบบนี้เช่นกันว่า ถ้ามีสิทธิช่วยได้ก็จะช่วย คนละไม้คนละมือ ทั้งนี้นายทักษิณตั้งแต่สมัยเป็นนายกฯ ก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อประเทศเพื่อนบ้านมาโดยตลอด ประเทศไทยก็มีชายแดนติดกับเมียนมาถึง 2 พันกว่ากิโลเมตร ฉะนั้นก็อยากให้เกิดความสันติ ซึ่งปัจจุบันนายทักษิณไม่ได้มีตำแหน่งอะไร แต่สมัยที่เป็น
นายกฯได้มีการปราบปรามยาเสพติด มีโอกาสที่ได้รู้จักทั้งกลุ่มชาติพันธุ์และชนกลุ่มน้อย รวมไปถึงทหารของเมียนมา จึงยังมีความสัมพันธ์ต่อกันอยู่ เป็นความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ได้สร้างไว้ ฉะนั้นด้วยความเป็นห่วงประเทศ ถ้ามีการได้พูดคุยอะไรเป็นเพียงเพราะอยากมีส่วนร่วมในการช่วยประเทศไทยเท่านั้น ส่วนจะประสบผลสัมฤทธิ์มากน้อยขนาดไหนนั้น ยังไม่ทราบรายละเอียด เพราะยังไม่ได้พูดคุยกับนายทักษิณ
ทั้งนี้ ภายหลังสัมภาษณ์เสร็จ น.ส.แพทองธาร ได้แซวผู้สื่อข่าวว่าวันนี้จะเดินช้าๆ เพื่อไม่ให้เข้าใจผิดว่าวิ่งหนีนักข่าว ซึ่งวันนั้นนักข่าวก็รู้ว่ารีบเพราะมีงานต่อต้องรีบเดิน และผู้สื่อข่าวก็เดินตามมา ที่ผ่านมาไม่เคยหนีนักข่าวเลย พร้อมกับย้อนถามกลับมาทางผู้สื่อข่าวว่า หนีได้เหรอ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ‘อุ๊งอิ๊ง’ โชว์วิสัยทัศน์ มั่นใจรัฐบาลอยู่ครบ 4 ปี เชื่อประชาชนให้คะแนนเต็ม 10
- ‘อิ๊งค์’ เตือน สส.เพื่อไทย หลังมีภาพดูฟุตบอล กลางสภาฯ แถมดูเว็บเถื่อนด้วย
- ‘อิ๊งค์’ แจงยกนิ้วโป้ง ปัดหนุนความรุนแรงเหตุ ‘วันกะเทยผ่านศึก’
