โล่งอก! เจอ ‘น้องมาร์ติน’ แล้ว ถูกสาวสองอุ้มไป อ้างทำไปเพราะเอ็นดู
โล่งอก เจอ น้องมาร์ติน แล้ว หลังถูกสาวสองอุ้มไป อ้างทำไปเพราะรักและเอ็นดู ไม่ได้จะอุ้มไปขาย ด้านครอบครัวสุดดีใจก้มกราบตำรวจขอบคุณ
จากกรณีที่ เพจ ข่าวสารเมืองปราการ V2 ช่วยประกาศข่าว น้องมาร์ติน อายุ 9 เดือน ถูกบุคคลปริศนาเพศชายผมยาว แต่งกายอย่างในรูป อุ้มหายไปจากบ้าน เข้าแจ้งความแล้ว โดยระบุว่า “ช่วยแชร์หน่อยค่ะ น้องหายไปวันนี้ค่ะ เห็นคนอุ้มไปประมาณบ่าย 3 ค่ะ คนในรูปอุ้มไปค่ะเพิ่งได้กล้องมา น้องชื่อมาร์ติน อายุ 9 เดือนค่ะ พิกัดที่หายท่าน้ำบางนา วัดบางนานอก สรรพาวุธ กทม. มีคนเห็นคล้ายผู้ชายผมยาว ใส่รองเท้าบู๊ธ อุ้มไปค่ะ มาขอปู่อุ้มเด็กบอกไป 7-11 ค่ะ” ตามที่มีรายงานไปก่อนหน้านี้นั้น
ล่าสุด เมื่อช่วงเวลาประมาณ 23.00 น. ของวันที่ 7 พ.ค. 67 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น พร้อมกำลังชุดสืบสวนนครบาล ได้ควบคุมตัว นายน้อย แสงวัน อายุ 52 ปี สาวประเภทสอง ชาวกัมพูชา ผู้ต้องหาก่อเหตุลักพาตัวน้องมาร์ติน โดยสามารถจับกุมได้ที่สำนักงานจำหน่ายตั๋วรถโดยสาร ต.มาบตาพุด ถนนสุขุมวิท อ.เมือง จ.ระยอง
ระหว่างเจ้าหน้าที่นำผู้ต้องหาเข้าห้องสืบสวน ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามนายน้อย อ้างว่า รักและเอ็นดูเด็กอยากเอาเด็กไปเป็นลูก ปฏิเสธไม่ได้ลักเด็กไปขาย เมื่อถามว่าทำไมถึงไป จ.ระยอง นายน้อยพูดงึมงำ ไม่สามารถจับใจความได้
จากนั้น เจ้าหน้าที่สืบสวนนครบาล นำตัวน้องมาร์ตินมาส่งมอบให้ครอบครัว ท่ามกลางความดีใจของครอบครัวที่เข้ามากอดและหอมน้องมาร์ติน พร้อมก้มกราบขอบคุณ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.
ปู่ของเด็ก กล่าวว่า หลังทราบว่า หลานปลอดภัยแล้ว รู้สึกดีใจมากที่หลานกลับคืนมา ทีแรกกลุ้มใจไม่รู้จะไปพึ่งใคร คนในซอยบอกให้ไปแจ้งตำรวจจึงได้มาแจ้งความไว้ ยอมรับว่าตำรวจไทยเก่ง ทีแรกกังวลว่าจะไม่ได้หลานคืน ตนรักหลานคนนี้มาก พ่อแม่ทิ้งไปตั้งแต่เล็กจึงได้นำมาเลี้ยง เคยแต่ได้ยินข่าวขโมยเด็ก พอเจอกับตัวเองรู้สึกเลย ดีใจมากที่พึ่งตำรวจไทยได้ ตำรวจนำภาพหลานให้ดูหลังจากเจอตัวแล้ว ตนดีใจมาก
ต่อมา พล.ต.ต.นพศิลป์ และ พล.ต.ต.ธีรเดช ได้ร่วมกันสอบปากคำนายน้อย ผู้ก่อเหตุ จากการสอบปากคำให้การรับสารภาพว่า ลักพาตัวเด็กไปจริงโดยให้เหตุผลว่าต้องการนำไปเลี้ยงขณะที่ตัวเองจะไปทำงานที่ จ.จันทบุรี โดยได้ลักพาตัวเด็กไปขึ้นรถตู้โดยสารที่สถานีขนส่งหมอชิตไปที่ จ.ระยอง และเตรียมต่อรถไปยัง จ.จันทบุรี ในช่วงเช้า
จากการตรวจสอบประวัติ ไม่พบชื่อผู้ก่อเหตุที่กล่าวอ้างว่าอยู่ในทะเบียนราษฎร์ แต่ให้การว่า เคยถูกดำเนินคดีในข้อหาเสพยาเสพติด และถูกจำคุกที่เรือนจำกลางพิเศษกรุงเทพมหานคร
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสืบค้นประวัติ ก่อนนำผู้ต้องหาส่ง ร.ต.ท.อานนท์ กาศไทสง รองสารวัตร(สอบสวน) สน.บางนา แจ้งข้อหา “กักขังหน่วงเหนี่ยวและพรากผู้เยาว์” ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง